สุนัขเฝ้าศพเจ้าของ โซ-แทะกิน

สลดแม่เฒ่าวัย 70 ป่วยเสียชีวิตกะทันหันมี 'เจ้าเขียว' หมาจรจัดถูกรถทับขาหลังพิการ นอนเฝ้าศพไม่ห่าง
 
แต่หลังผ่านไปหลายวันหิวจนทนไม่ไหวต้องกัดแทะกินศพ ผญบ. มาพบหลังเพื่อนบ้านไปบอกได้กลิ่นเหม็นเน่า และไม่เห็นแม่เฒ่ามานานหลายวัน แพทย์ระบุเสียชีวิตมาประมาณ 4 วัน ส่วนสาเหตุอาจป่วย หรือหกล้มขณะกำลังจะอาบน้ำ เพราะศพนุ่งผ้าถุงผืนเดียว ติดต่อญาติที่อยู่ตจว.มารับไปดำเนินการต่อ ส่วนเจ้าเขียวนั้น ผญบ.ช่วยดูแลแทนเพราะสงสาร

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 13 พ.ค. ตำรวจสภ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง ได้รับแจ้งจากด.ต.ปัญญา เชาว์ขุนทด หัวหน้าตู้ยามม่วงเตี้ย
 
ว่าพบศพผู้เสียชีวิตในบ้านเลขที่ 26 ต.ม่วงเตี้ย อ.วิเศษชัยชาญ จึงนำกำลังพร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลวิเศษชัยชาญ และหน่วยกู้ภัยวิเศษชัยชาญ นำกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยก พื้นสูง เมื่อเข้ามาบริเวณบ้านได้กลิ่นเหม็นเน่าอย่างรุนแรง และมีเสียสุนัขเห่าจากในบ้านดังออกมาเป็นระยะๆ

ขึ้นไปกลางบ้านพบศพนางประทุม จุลเจิม อายุ 70 ปี เจ้าของบ้านนอนตายอยู่ในสภาพขึ้นอืด ใกล้กับโอ่งน้ำ นุ่งผ้าถุงผืนเดียว เท้าขวามีรอยถูกแทะ
 
และที่น่าสลดพบสุนัขเพศเมียชื่อเจ้าเขียว พิการขาหลังหักทั้ง 2 ข้าง นั่งเฝ้าศพอยู่ เห่าใส่คนแปลกหน้าที่ขึ้นมาบนบ้าน เพื่อนบ้านต้องมาช่วยเหลือพาเจ้าเขียวออกไปด้านนอก แพทย์จึงเริ่มชันสูตรศพเบื้องต้นคาดว่าเสียชีวิตมาประมาณ 4 วัน จากอาการป่วย หรือหกล้มขณะกำลังจะอาบน้ำ เพราะไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือถูกทำร้าย

นายสนิท มีนิล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 ต.ม่วงเตี้ย ซึ่งเป็นผู้พบศพคนแรกให้การว่า

นางประทุมอาศัยอยู่ในบ้านเพียงลำพังกับเจ้าเขียว ซึ่งเป็นสุนัขจรจัดที่ถูกรถทับขาพิการเมื่อ 2 ปีก่อน โดยนางประทุมสงสารจึงนำมาเลี้ยงไว้ จนเมื่อหลายวันที่ผ่านมาคนในหมู่บ้านไม่มีใครพบนางประทุมมาหลายวัน ประกอบกับเพื่อนบ้านระบุว่าได้กลิ่นเหม็นเน่าโชยมาจากบ้านดังกล่าว จึงนำลูกบ้านมาตรวจสอบก็พบศพดังกล่าว

ส่วนรอยแทะที่เท้าขวาคาดว่าจะถูกเจ้าเขียวกัดกินเพราะความหิวโหย เนื่องจากเฝ้าศพอยู่นานถึง 4 วัน และไม่สามารถลงจากบ้านมาหาของกินได้ เนื่องจากขาหลังพิการทั้ง 2 ข้าง

ตำรวจจึงนำศพไปเก็บไว้เพื่อรอติดต่อลูกชายที่ทำงานอยู่ จ.สระบุรี มารับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป ส่วนเจ้าเขียวสุนัขพิการแต่ซื่อสัตย์ นายสนิทช่วยรับไปเลี้ยงดูเพราะสงสาร