สุดสลด.! ทารกแฝดสยาม สิ้นลมแล้ว

หลังลืมตาดูโลกได้เพียง 2 วัน และแพทย์ รพ.สงขลานครินทร์ เตรียมจะผ่าตัดแยกร่าง หมอระบุสาเหตุ เกิดจากภาวะออกซิเจนในกระแสเลือดไม่เพียงพอ ปอดมีการติดเชื้อ และหัวใจตีบ ยันทั้งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและพยาบาลพยามดูแลอย่างเต็มที่แล้ว

แต่สภาพร่างกายเด็กส่อเค้าไม่ดีมาตั้งแต่เกิด ตัวเขียว-ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา ล่าสุดพ่อแม่รับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลแล้ว

นางปฐมพร ปานดี อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67 หมู่ 7 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมืองตรัง

ปรากฎว่าทารกที่คลอดออกมาเป็นคู่แฝดเพศหญิงมีหน้าอกติดกัน

ซึ่งแพทย์ได้ช่วยเหลือชีวิตทารกแฝดคู่นี้ด้วยการใส่ท่อช่วยหายใจเพื่อให้ออกซิเจน พร้อมกับประสานไปยัง รพ.สงขลานครินทร์ (มอ.) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รับตัวทารกแฝดไปรักษาต่อ เพื่อจะผ่าตัดแยกร่างต่อไปนั้น

ต่อมาเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 24 พ.ค. รศ.นพ.สุเมธ พีรวุฒิ ผอ.รพ.สงขลานครินทร์ ได้แถลงข่าวร้ายว่า ในช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ ทารกฝาแฝดทั้งสองคนได้เสียชีวิตแล้ว หลังจากที่แพทย์ รพ.มอ.ได้รับมาดูแลอยู่ในห้องไอซียูเด็ก โดยมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและพยาบาลดูแลอย่างใกล้ชิด

เนื่องจากสภาพร่างกายของฝาแฝดไม่ค่อยดีนัก มีอาการตัวเขียวตั้งแต่วันแรกที่ถูกส่งตัวมา แพทย์ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา

สภาพร่างกายของฝาแฝดมีอวัยวะสำคัญภายในร่างกายที่ใช้ร่วมกัน เช่น หัวใจ ตับ และปอด โดยแพทย์พยายามดูแลและช่วยเหลือชีวิตอย่างเต็มที่

จนกระทั่งเสียชีวิตในที่สุด เนื่องจากมีภาวะแทรกซ้อนของโรคติดเชื้อในปอด และหัวใจตีบ ระดับออกซิเจนไม่พอเลี้ยงร่างกาย ขาดออกซิเจนในกระแสเลือด โดยญาติได้รับทารกฝาแฝดกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดแล้ว

สำหรับแฝดสยามคู่นี้ เป็นรายแรกที่เกิดที่ รพ.ตรัง น้ำหนักตัวทั้งคู่ประมาณ 4 กก. ซึ่งตอนแรกที่มาฝากครรภ์แพทย์ รพ.ตรังตรวจพบว่ามีไข่ 2 ใบ ซึ่งเป็นลักษณะของเด็กแฝด

ต่อมาก่อนคลอดได้ทำการเอ็กซ์เรย์พบว่าเด็กประกบติดกันเหมือนกอดกันอยู่ มีสายสะดือเส้นเดียว แต่ไม่พบว่ากระดูกติดกันแต่อย่างใด โดยอวัยวะทุกส่วนของร่างกายภายนอกครบทั้งสองคน แต่ในที่สุดก็เสียชีวิตลงดังกล่าว

ขอขอบคุณ : ข้อมูลข่าวที่มีคุณภาพ โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์