สาวโร่แจ้งความผัวหายสุดท้ายกลายเป็นศพ

 

คมชัดลึก :ผัวพร้อมคนงาน 30 คน ออกรับจ้างรื้อถอนบ้าน แต่ถูกชายฉกรรย์ใช้อาวุธปืนยิง หนีกันวุ่นกระโดดลงคลองจมน้ำเสียชีวิต เมียโร่แจ้งความ สน.สายไหม แต่ถูกตำรวจแขวะ หาว่าสามีแอบไปหาเมียน้อย แถมยังให้ไปนอนรอที่บ้าน สุดท้ายเข้าแจ้งความอีกครั้ง คราวนี้พบผัวเป็นผีเฝ้าใต้น้ำ

 โดยขณะที่กลุ่มคนงานกำลังรื้อถอนบ้านอยู่นั้น ได้มีกลุ่มชายฉกรรย์ประมาณ 5-6 ใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่กลุ่มคนงานที่กำลังรื้อบ้าน

ทำให้คนงานวิ่งหนีไปคนละทิศละทาง โดยสามีและเพื่อนอีก 2 คน ได้กระโดดลงไปในน้ำ และได้สูญหายไป ซึ่งคาดว่าน่าจะจมน้ำเสียชีวิต 
ด้าน พ.ต.ท.สุบรรณ์ กล่าวว่า หลังรับแจ้งจึงได้ประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ใช้ช่วยลงงมหาผู้เคราะห์ร้าย เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีน้ำสูงถึง 4 เมตร ซึ่งขณะที่กำลังงมหาผู้สูญหายอยู่นั้น เจ้าหน้าที่พบศพนายศักดิ์ดา จมน้ำเสียชีวิตอยู่ในบริเวณดังกล่าว โดยผู้ตายสวมเสื้อยืดสีเขียว สวมกางเกงยีนต์ขายาวสีดำ ดังนั้น จึงมอบศพให้เจ้าหน้าที่ส่งไปชันสูจน์พลิกศพที่โรงพยาบาลตำรวจ


 "เหตุการณ์นี้ น่าจะเชื่อมโยงกับผู้ที่เข้ามาแจ้งความก่อนหน้านี้ เนื่องจากเมื่อเวลา 12.00 น. ของวันที่ 29 ก.ย. ได้มีน.ส.แส สวาสด์เพชร อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30/8 ม.7 แขวงเขตสายไหม พร้อมกับนายประสาท สวาสด์เพชร อายุ 43 ปี เป็นพี่น้องกัน อยู่บ้านเลขที่ 26/1 ม.7 แขวงเขตสายไหม ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ได้มีชายฉกรรย์ ประมาณ 30 กว่าคน เข้ามารื้อบ้านของตนเอง ดังนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน โดยบ้านหลังดังกล่าวมีเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ และเป็นบ้านไม้แบบยกสูง ทั้งนี้ คาดว่า เจ้าของบ้านอาจนำบ้านไปจำนองจนขาด และอาจทำให้ผู้ที่ให้จำนอง จ้างคนมารื้อถอน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสืบสวนหารายละเอียดต่อไป และจะทำการเรียกตัวเจ้าของบ้าน และกลุ่มคนงานมาสอบสวนต่อไป"


 ขณะที่น.ส.พรรณ์ ซึ่งเป็นภรรยาของนายศักดิ์ดา กล่าวว่า ขณะที่ตนเองกำลังทำงานบ้านอยู่นั้น เพื่อนคนงานได้โทรศัพท์มาบอกว่า สามีได้หลบหนี จากการที่ถกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง

โดยได้กระโดดลงไปในคลองข้างบ้านที่เกิดเหตุ และได้สูญหายไป ดังนั้น ตนเองจึงได้เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในช่วงเช้าของวันที่เกิดเหตุ (29ก.ย.) แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้รับแจ้งความ แถมยังบอกว่า สามีอาจไปหาเมียน้อย และให้ตนเองกลับไปคอยที่บ้านแทน ดังนั้น ตนจึงได้เดินทางไปรอสามีที่บ้าน


 น.ส.พรรณ์ กล่าวอีกว่า ขณะที่รอสามีอยู่ที่บ้านด้วยความกระวนกระวายอยู่นั้น สามีของตนเองก็ไม่กลับบ้านซักที

ดังนั้น ตนจึงเดินทางมาแจ้งความอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้พนักงานสอบสวนเป็นคนละคนกัน จึงได้รับแจ้งความเอาไว้ พร้อมทั้งสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ทำการค้นหาจนกระทั่งพบศพสามี ซึ่งได้จมน้ำเสียชีวิตดังกล่าว


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์