สาวเชียร์เบียร์จ๊าก หมายจับตุ๋น2แสน

สาวเชียร์เบียร์เชียงใหม่จ๊าก จู่ๆได้รับหมายเรียกจาก 2 โรงพักใน จ.สระบุรีและระยอง แจ้งข้อหาฉ้อ โกงเงิน 2 แสน

เจ้าตัวนำเข้าหารือผู้การเชียงใหม่ ขอความช่วยเหลือ ระบุมีเสี่ยมาตีสนิทและพยายามสอบถามบัญชีธนาคารและบัตรเอทีเอ็มแล้วเผลอลืมทิ้งไว้ กลับมาอีกทีก็โดนฉกกระเป๋าเงินไปแล้ว แต่ไม่ได้สนใจเพราะมีเงินอยู่ไม่มาก ระหว่างนั้นยังรู้สึกแปลกใจที่บัญชีมีเงินไหลเข้ามาจำนวนมาก สอบถามธนาคารก็ไม่ได้รับความกระ จ่าง จนกระทั่งมาถูกหมายเรียกดังกล่าว ด้านผบก.เชียง ใหม่ประสานตำรวจทั้งสองโรงพักยืนยันให้มารับทราบข้อหาแล้วจะปล่อยตัวชั่วคราว เพื่อให้สู้คดีเอง

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 15 ก.ค. ที่บก.ภ.จังหวัดเชียงใหม่ น.ส.สุทธาสินี หรืออ้อม อินเสาร์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 176 หมู่ 9 ต.หางดง อ.หางดง จ.เชียง ใหม่

ได้นำเอกสารหมายเรียก ที่ตนตกเป็นผู้ต้องหาสภ.เมืองระยอง จ.ระยอง และสภ.บ้านหมอ จ.สระบุรี ในข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ เป็นเงิน 2 แสนบาท เข้าร้องทุกข์ต่อพล.ต.ต.สุเทพ เดชรักษา ผบก.เชียงใหม่ และ พ.ต.อ.ภาณุเดช บุญเรือง รองผบก.น.ส.สุทธาสินี ให้การว่า เมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา ได้ทำงานเป็นพนักงานเชียร์เบียร์อยู่ที่ร้านอาหารสายลมจอย ต.ช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พบลูกค้าชายคนหนึ่ง เรียกตัวเองว่า "เสี่ยเด" อายุประมาณ 35 ปี ขับรถเบนซ์ ท่าทางภูมิฐาน เหล้าเบียร์ไม่ดื่ม สั่งเพียงข้าวและน้ำส้มคั้นเท่านั้น และได้เรียกตนมาพูดคุยที่โต๊ะ พูดคุยเรื่องต่างๆ และพยายามถามเรื่องบัตรเอทีเอ็ม และธนาคารที่มีบัญชีอยู่ ต่อมามีลูกค้าอีกโต๊ะหนึ่งเรียกตนจึงเดินไปหา โดยเผลอทิ้งกระเป๋าเงินที่มีบัตรเอทีเอ็มเอาไว้ที่โต๊ะลูกค้าคนดังกล่าว และมีกระ ดาษที่จดรหัสบัตรอยู่ด้วย เนื่องจากเป็นคนขี้ลืม


น.ส.สุทธาสินี กล่าวว่า เมื่อกลับมาที่โต๊ะอีกครั้ง ก็พบว่าเสี่ยเดกลับไปแล้ว ซึ่งตนก็ไม่ได้สนใจอะไร

ต่อมาจึงรู้ว่าบัตรเอทีเอ็มหายไป แต่ไม่ได้เข้าแจ้งความ เพราะมีเงินอยู่เพียง 53 บาทเท่านั้น แต่เมื่อนำสมุดธนาคารกรุงเทพ สาขาประตูเชียงใหม่ ที่มีบัญชีอยู่ไปให้ธนาคารดำเนินการ กลับพบว่าสมุดธนาคารมีเงินหมุนเวียนผ่านเข้าออกจำนวนมาก ทำให้ตกใจมาก สอบถามกับธนาคาร ก็ไม่ได้รับความกระจ่าง

น.ส.สุทธาสินีกล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 14 ก.ค. ที่ผ่านมา ได้รับหมายเรียกตกเป็นผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงทรัพย์จากโรงพัก 2 แห่งดังกล่าว ระบุว่ามีคนซื้อสินค้าจากตนทางอินเตอร์เน็ตแล้วโอนเงินมาให้
 
แต่ไม่ได้รับสินค้า และเชื่อว่าจะต้องมีหมายเรียกเข้ามาอีก จึงได้มาร้องทุกข์กับตำรวจ เพราะเกรงว่าเมื่อเดินทางไปสภ.เมืองระยอง และสภ.บ้านหมอ อาจจะถูกตำรวจจับกุมตัว ไม่รู้จะปรึกษาใครจึงมาพบตำรวจเชียงใหม่ พ.ต.อ.ภาณุเดช กล่าวว่า สำหรับกรณีของน.ส. สุทธาสินี ตนได้ประสานไปที่สภ.เมืองระยอง และสภ.บ้านหมอ แล้ว ได้รับคำตอบว่าให้เดินทางไปพบ พนักงานสอบสวนจะต้องแจ้งข้อกล่าวหา เพราะถือว่าเป็นความผิดแล้ว แต่จะปล่อยตัวชั่วคราว แต่เรื่องการนำสืบชี้แจงข้อเท็จจริงเป็นหน้าที่ของน.ส.สุทธาสินี ไม่ทราบเช่นกันว่าศาลจะรับฟังหรือไม่ ส่วนเรื่องการฉ้อโกงเท่าที่ประสานไปยังพนักงานสอบสวนทั้งสองแห่ง ทราบว่ามีการขายสินค้าผ่านอินเตอร์เน็ต แต่ไม่ทราบว่าเป็นสินค้าอะไร มีการโฆษณาและสั่งซื้อ กัน โดยบอกเลขบัญชีของน.ส.สุทธาสินี มีคนสนใจที่จะซื้อโอนเงินเข้ามา คนร้ายได้นำบัตรเอทีเอ็มของ น.ส.สุทธาสินีไปกดเงินออกไป ทั้งนี้มีการโอนเงินสั่งซื้อถึง 23 รายเป็นเงิน 1.7 แสนบาท เชื่อว่าจากนี้จะต้องมีหมายเรียกเข้ามาหาน.ส.สุทธาสินี อีกกว่า 20 รายแน่

พ.ต.อ.ภาณุเดช กล่าวว่า อยากฝากเตือนผู้ที่ใช้บัตรเอทีเอ็มและบัตรเครดิตต่างๆ ให้มีความระมัดระวังกันไว้

ในขณะนี้มีขบวนการลักลอบเจาะข้อมูลบัตรและมีการใช้กลวิธีในการกดเงิน มีคนตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก สำหรับสี่ยเดรายนี้น่าจะยังวนเวียนอยู่ในจ.เชียง ใหม่ เพื่อหลอกลวงเหยื่ออยู่ ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนออกหาข่าวติดตามล่าตัวแล้ว

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์