สาวลูก 1 บุกร้านทอง แทงเสี่ยเจ้าของดับ อ้างเป็นคู่กิ๊กเบี้ยวเงิน

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 6 ก.พ. พ.ต.ท.วิริยะ ระยับ สารวัตรเวร สภ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ

ได้รับแจ้งเหตุคนถูกแทงภายในร้านทองเพชรรัตน์ เลขที่ 339 ชั้นล่างอาคารยุพินอพาร์ตเมนต์ หมู่ 6 ต.บ้านระกาศ อ.บางบ่อ
จึงรายงานให้ พล.ต.ต.ชิษณุพงศ์ ยุกตะทัต ผบก.ภ.จ.สมุทรปราการ พ.ต.อ.ภวัติ พรหมมะกฤต รอง ผบก. พ.ต.อ.สมศักดิ์ชัย อมรส่งเจริญ ผกก.สภ. บางบ่อ พ.ต.ท.อนันต์ วงศ์ศรีสุนทร รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.ฐานุพงษ์ ราศีเศรษฐชัย สวป. พ.ต.ต.สุดใจ เหนือเกาะหวาย สว.สป. นำกำลังไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นอพาร์ตเมนต์สูง 4 ชั้น ชั้นล่างห้องแรกเปิดเป็นร้านขายทองชื่อร้านทองเพชรรัตน์ มีชาวบ้านพากันมามุงดูจำนวนมาก

ภายในร้านพบรอยเลือดสาดกระเซ็นเปรอะเปื้อนเต็มพื้น ตั้งแต่ด้านในร้านออกมาถึงหน้าประตูทางเข้า และที่ด้านนอกหน้าร้านพบมีดปลายแหลมเปื้อนเลือดตกอยู่ที่พื้น 1 เล่ม ห่างไปเล็กน้อยพบกล่องกระดาษใส่ยากันยุงตกอยู่ 1 กล่อง คาดว่าเป็นกล่องที่คนร้ายใส่อาวุธมีดมา ตำรวจเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บถูกช่วยเหลือนำส่ง รพ.บางนา 2 แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อนายอนุชา เอี่ยมมี อายุ 42 ปี เสี่ยเจ้าของร้านทอง ถูกแทงที่แขนซ้าย 2 แผล กกหูขวา 1 แผล และที่หน้าท้อง 5 แผล จนไส้ทะลักเป็นที่น่าสยดสยอง นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกคนเป็นหญิงสาวมือมีดที่ก่อเหตุ ถูกช่วยเหลือนำส่ง รพ.รวมชัยประชารัตน์ ทราบชื่อนางน้ำอ้อย กุสะรัมย์ อายุ 28 ปี บ้านเดิมอยู่ จ.บุรีรัมย์ พักอยู่หอพักเพชรสีฟ้า เลขที่ 99/6 หมู่ 6 ต.บ้านระกาศ อ.บางบ่อ ถูกมีดบาดที่ใบหน้าด้านซ้ายเป็นแผลฉกรรจ์ แพทย์ช่วยเหลือจนพ้นขีดอันตราย 

สอบสวนทราบว่า

นายอนุชาเสี่ยเจ้าของร้านทองผู้ตายเป็นน้องภรรยาของ พล.ต.ต.มณฑล มีอนันต์ ผบก. ประจำสำนักงานจเรตำรวจ ก่อนเกิดเหตุเปิดร้านขายทองตามปกติ ขณะยืนอยู่หน้าร้านได้มีนางน้ำอ้อยคนเจ็บเดินเข้าไปหาพูดคุยกันสักพักก่อนจะมีปากเสียงทะเลาะโต้ เถียงกันลั่น โดยที่ฝ่ายหญิงพยายามดันฝ่ายชายเข้าไปในร้านแล้วมีการต่อสู้กันชุลมุน ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ รีบไปตามนายสมเกียรติ แป้นเหมือน อายุ 32 ปี ผู้ดูแลอพาร์ตเมนต์ไปดูจึงพบว่า
ผู้ตายถูกกระหน่ำแทงร่างพรุนนอนจมกองเลือดอยู่ในร้าน ส่วนนางน้ำอ้อยก็ได้รับบาดเจ็บถูกมีดบาดที่ใบหน้าเป็นแผลฉกรรจ์ จึงช่วยเหลือนำตัวทั้งคู่ส่งโรงพยาบาล

ต่อมาตำรวจไปสอบปากคำนางน้ำอ้อย หลังแพทย์ รักษาบาดแผลยังพอมีสติอยู่บ้างได้เขียนข้อความให้การเบื้องต้นว่า

แต่งงานมีสามีแล้วและมีลูกสาววัย 6 เดือนฝากญาติเลี้ยงอยู่ที่ จ.บุรีรัมย์ ได้รู้จักกับผู้ตายมานานหลายปีจนมีความสัมพันธ์กันแต่ไม่ถึงขั้นได้เสีย โดยที่ผู้ตายบอกกับตนเสมอว่าจะให้เงินทองไว้ใช้จ่าย ที่ผ่านมาก็พอใจไม่มีปัญหาอะไร ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 9 โมงเช้าไปทำผมที่ร้านเสริมสวยใกล้หอพัก บอกกับช่างเสริมสวยว่าจะไปซื้อทองให้ลูกสาว หลังทำผมเสร็จก็เดินทางมาที่ร้านทองที่เกิดเหตุ เพื่อทวงถามเรื่องเงินทองที่ผู้ตายรับปากว่าจะให้แต่ผู้ตายไม่ยอมให้ กลับต่อรองว่าจะขอร่วมหลับนอนด้วย ทั้งที่ไม่เคยมีอะไรกันมาก่อน แต่ตนไม่ยอมจนเกิดมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกัน แล้วผู้ตายคว้ามีดออกมาตนจึงยื้อแย่งต่อสู้กันพร้อมทั้งจ้วงแทงจนเสียชีวิตดังกล่าว ยืนยันว่ามีดเล่มดังกล่าวเป็นของผู้ตาย 

ด้านนายสุรชัย คำมิ่ง อายุ 29 ปี สามีนางน้ำอ้อย เป็นพนักงานบริษัทซัมซุง ในนิคมอุตสาหกรรมเวลโกลว์ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เผยว่า ภรรยาทำงานเป็นพนักงานในนิคมอุตสาหกรรมเดียวกันแต่คนละบริษัท เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ทราบว่าทั้งสองมีความสัมพันธ์กันลึกซึ้งหรือไม่ วันเกิดเหตุก่อนออกจากบ้านภรรยาก็ไม่ได้บอกว่าจะไป ซื้อทองให้ลูกแต่อย่างใด 

อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนนางน้ำอ้อย หญิงสาวมือมีด ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การมากนัก จะต้องสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงอย่างละเอียดอีกครั้ง เบื้องต้นตั้งปมมรณะไว้ 2 ประเด็น คือ ฆ่าชิงทรัพย์กับเรื่องชู้สาว เนื่องจากผู้ตายเป็นคนโสดยังไม่มีครอบครัว ส่วนนางน้ำอ้อยมีสามีและมีลูกแล้ว อาจเป็นไปได้ว่าผู้ตายกับนางน้ำอ้อยลักลอบมีสัมพันธ์กัน โดยที่ผู้ตายรับปากว่าจะให้เงินทองส่งเสียแต่กลับไม่ยอมทำตามที่พูด หรืออาจจะถูกฝ่ายหญิงมาขอเงินบ่อยครั้งจึงพยายามตีตัวออกห่าง ก่อนเกิดเหตุนางน้ำอ้อยอาจจะบุกมาทวงถามเรื่องเงินทองที่จะให้ แต่ตกลงกันไม่ได้จึงใช้มีดกระหน่ำแทงผู้ตาย ส่วนตัวเองก็ถูกผู้ตายยื้อแย่งมีดต่อสู้จนถูกบาดที่ใบหน้าได้รับบาดเจ็บไปด้วย ตำรวจได้อายัดตัวนางน้ำอ้อย ดำเนินคดีข้อหาฆ่าผู้อื่นต่อไป

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์