สาวท้องดิ่งตึกรพ.คอหักดับปริศนา!

สาวท้อง 6 เดือนโดดตึกร.พ.เมืองตรัง ดับปริศนาทั้งแม่ทั้งลูกในท้อง เหตุเกิดขณะผู้ตายนอนรอหมอผ่าท้องคลอดบนชั้น 3 จู่ๆ ก็ลุกขึ้นเดินไปที่ระเบียง ไม่มีใครเอะใจคิดว่าจะเกิดเหตุร้าย กระทั่งผู้ตายหล่นลงไปด้านล่างแล้ว สภาพแขน-ขา-คอหัก เบื้องต้นยังไม่รู้สาเหตุผู้ตายเจตนาฆ่าตัวเพราะเสียใจสามีถูกยิงตายเมื่อ 8 เดือนก่อน หรือเกิดอาการหน้ามืดพลัดหล่นลงไปเอง

เมื่อวันที่ 5 ต.ค. น.พ.สมนึก เชื้อทอง ผอ.โรงพยาบาลตรัง สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทำการสอบสวนหาข้อเท็จจริงกรณีนางวิยะดา เอี่ยมอักษร อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50 หมู่ที่ 2 ต.บ่อหิน อ.สิเกา จ.ตรัง กระโดดตึกอำนวยการชั้น 3 ของร.พ.ลงมาเสียชีวิต ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ต.ศุภวัฒน์ ชินรี สารวัตรเวร สภ.อ.เมืองตรัง รับแจ้งจากร.พ.ตรัง ว่าพบหญิงมาทำคลอดตกตึกอำนวยการ ชั้น 3 ลงมาเสียชีวิต จึงรุดไปสอบสวน

สอบสวนทราบว่า เหตุเกิดขณะนางวิยะดากำลังนอนรอตรวจอาการ อยู่ภายในห้องรอคลอด ชั้น 3 ส่วนญาติๆ นั่งรออยู่หน้าห้องคลอด ระหว่างนั้นผู้ตายเดินออกมาที่บริเวณริมระเบียงด้านหลังห้องรอคลอด ซึ่งมีรั้วกั้นสูงประมาณ 60 เซนติเมตร แต่ไม่มีใครเอะใจว่าจะเกิดเหตุร้ายจึงไม่มีใครเห็นว่า นางวิยะดาตกลงมาอย่างไร จะเป็นการกระโดดเพื่อฆ่าตัวตาย หรือเพราะเกิดหน้ามืดแล้วทำให้เสียหลักพลัดตกลงมา สภาพศพแขน ขาและคอหัก

พ.ต.ต.ศุภวัฒน์ กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังรอการสอบปากคำเพิ่มเติมจากญาติๆ ของนางวิยะดา เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริง ว่าเป็นอุบัติเหตุพลัดตกลงมา หรือเป็นการฆ่าตัวตายเพราะน้อยใจในชีวิต อันเนื่องมาจากนึกถึงสามีซึ่งถูกยิงตายเมื่อ 8 เดือนก่อน หรือรู้สึกห่วงใยลูกน้อยที่กำลังจะเกิดขึ้นมา เพราะทราบว่าช่วงระหว่างรอคลอดนั้นผู้ตายร้องขอความช่วยเหลือจากแพทย์ให้ผ่าท้องคลอด เพราะเจ็บท้องอย่างรุนแรงอยู่ตลอดเวลา

น.พ.สมนึก เปิดเผยว่า ผู้ป่วยรายนี้มีอายุครรภ์ 9 เดือน ครบกำหนดคลอดแล้ว และเป็นครรภ์ที่ 2 โดยลูกคนแรกอายุ 2 ขวบ ในช่วงที่ท้องได้ 2 เดือน สามีมาเสียชีวิตก่อนหน้านี้ผู้ป่วยก็ไปฝากครรภ์ที่ร.พ.ห้วยยอด ร.พ.ได้ตรวจดูเด็กภายในครรภ์พบอาการหัวใจเด็กเต้นเร็วกว่าปกติ จึงส่งตัวมายังร.พ.ตรังเมื่อเวลา 16.20 น. วันที่ 4 ต.ค. คือวันเกิดเหตุ เมื่อรับมาแล้ว ทางร.พ.นำตัวผู้ป่วยเข้ารอตรวจที่ห้องรอคลอด ชั้น 3 ตึกอำนวยการ

กระทั่งผ่านไปประมาณ 15 นาที ผู้ป่วยมีอาการเจ็บท้องคลอดอย่างรุนแรง และเรียกร้องให้แพทย์ผ่าคลอด ระหว่างที่กำลังรอแพทย์นั่นเอง โดยไม่มีใครคาดคิดผู้ป่วยลุกขึ้นเดินตรงไปที่ระเบียงด้านหลังห้องรอคลอด แล้วกระโดดลงมาทะลุกันสาด ตกมากระแทกพื้นด้านล่าง ทีมแพทย์เร่งช่วยเหลือทั้งแม่และเด็กเป็นการด่วน แต่ขณะนั้นเด็กหยุดหายใจไปแล้ว ส่วนผู้ป่วยอยู่ได้เพียง 10 นาทีก็สิ้นใจ

น.พ.สมนึก กล่าวอีกว่า ปกติบริเวณระเบียงเกิดเหตุสร้างไว้เป็นทางหนีไฟ และเจ้าหน้าที่จะนำผ้า กระโถน หรือถัง ไปตากแดด จึงไม่ได้มีการใช้งานใดๆ ไม่มีใครคิดว่าผู้ป่วยจะเดินไป แล้วกระโดดลงมา ขณะนั้นภายในห้องรอคลอดมีพยาบาลและเจ้าหน้าที่ 8 คน รับผิดชอบในการดูแลผู้ป่วยที่มีกว่า 10 คน อย่างไรก็ตามคงต้องรอผลการสืบสวนสอบสวนของตำรวจอีกทางหนึ่ง เพื่อหาสาเหตุหรือแรงจูงใจ ที่ทำให้ผู้ป่วยคิดสั้นฆ่าตัวตาย

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ข่าวสด