สอบผอ.ร.ร. ปล่อยให้เกิด โทรมนร.หญิง

กรณีผู้ปกครองพา ด.ญ.เอ๋ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่ง

เข้าแจ้งความตำรวจ สภ.เมืองสุพรรณบุรี ว่า ด.ญ.เอ๋ถูกเพื่อนนักเรียนชายห้องเดียวกัน 7 คน จับขึงพืดข่มขืนกระทำชำเรา ขณะที่นักเรียนคนอื่นรอเข้าแถวเคารพธงชาติ โดย ด.ญ.เอ๋ นำกระเป๋าขึ้นไปเก็บบนห้องเรียน แล้วถูกแก๊งนักเรียนหื่นกามช่วยกันจับขึงพืดบนโต๊ะครู ก่อนที่ ด.ช.แบงก์ (นามสมมติ) หนึ่งในนั้นลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ ภายหลัง ด.ญ.เอ๋นำเรื่องไปฟ้องอาจารย์จน ผอ.โรงเรียน ไล่ออกเด็กนักเรียนชายทั้ง 7 คน ก่อนที่ผู้ปกครองจะพาเด็กนักเรียนชายทั้งหมดเข้ามอบตัวและถูกดำเนินคดีนั้น


ความคืบหน้าเมื่อเวลา 12.45 น. วันที่ 28 มี.ค. พ.ต.อ.พัฒนินท์ นพจินดา รอง ผบก.ภ.จ.สุพรรณบุรี เดินทางไปที่ สภ.เมืองสุพรรณบุรี

ตรวจสอบความคืบหน้าของคดีพร้อมประชุมพนักงานสอบสวน จากนั้นเปิดเผยว่า คดีนี้เป็นที่สนใจของประชาชน ปัญหาที่เกิดขึ้นจะต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายช่วยกันแก้ไข ที่สำคัญผู้ก่อเหตุและผู้เสียหายต่างเป็นนักเรียน เป็นเยาวชนอายุเพียง 13-14 ปีเท่านั้น การดำเนินการต้องเป็นไปอย่างรอบคอบ ได้ให้พนักงานสอบสวนทำสำนวนอย่างรัดกุม ให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย รวมทั้งการสอบปากคำผู้กระทำผิดต้องดำเนินการต่อหน้าอัยการ นักจิตวิทยา ทนายความ และผู้ปกครอง ให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว


ด้านนายอนุสันต์ เทียนทอง พัฒนาการสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.สุพรรณบุรี

สั่งการให้เจ้าหน้าที่ประสานกับ น.ส.สุมาลี บรรเลง ผอ.ศูนย์บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.สุพรรณบุรี เดินทางไปที่บ้านของ ด.ญ.เอ๋ เพื่อพูดคุยกับผู้ปกครอง พร้อมเสนอขอนำตัว ด.ญ.เอ๋มาดูแลที่ศูนย์บ้านพักเด็กและครอบครัว เพื่อฟื้นฟูพัฒนาสภาวะจิตใจให้เข้าสู่สภาวะปกติ แต่ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองของเด็กด้วย 

ส่วนนายจักรพรรดิ จิตมณี รอง ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสุพรรณบุรี เขต 1 (สพท.สพ.เขต 1) รักษาราชการแทน ผอ. เผยว่า

ได้รับรายงานจาก ผอ.โรงเรียนที่เกิดเหตุแล้ว ได้สั่งการให้นายนภดล ปานแก้ว นิติกร 8 กลุ่มงานบริหารงานบุคคล สพท.สพ.เขต 1 ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแล้วรายงานให้ทราบโดยด่วน เพื่อทำหนังสือชี้แจ้งผู้บังคับบัญชา เบื้องต้นทราบว่า หลังเกิดเหตุ ผอ.โรงเรียน ได้ให้ ด.ญ.เอ๋พักอยู่กับบ้านไม่ต้องมาโรงเรียน พร้อมกับส่งคณะครูผู้สอนไปวัดผลการศึกษาถึงที่บ้าน เพราะเป็นช่วงสอบประจำภาค ส่วนเด็กนักเรียนชายที่ก่อเหตุหลังจากเข้าสอบวัดผลประจำภาคแล้ว ถูกสั่งพักการเรียน แต่ไม่สามารถคัดชื่อออกได้ เนื่องจากอยู่ในภาคเกณฑ์บังคับการศึกษา เด็กจะต้องเรียนให้จบชั้น ม.3 ทั้งนี้ ทาง สพท.สพ.เขต 1 เคยมีหนังสือแจ้งเตือนไปยังผู้บริหารสถานศึกษาในเขตรับผิดชอบ ให้คอยสอดส่องดูแลนักเรียนในโรงเรียนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเรื่องความประพฤติเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา
 
ในส่วนของ ผอ.โรงเรียนที่เกิดเหตุ จะต้องถูกตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนว่ามีการปล่อยปละละเลยบกพร่องหรือไม่ เหตุที่เกิดสุดวิสัยหรือเปล่า ต้นเหตุเกิดจากอะไร จะได้นำมาปรับปรุงแก้ไขต่อไป


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์