สลดโจรใต้ยังฆ่าดะยิงพ่อ-ลูก3ขวบดับ ´สนธิ´สั่งปรับยุทธวิธี

บุกจ่อยิง จ.ส.ต. ตายในร้านขายของชำ แนวร่วมป่วนใต้ยีงเหี้ยม สาดกระสุนใส่พ่อค้ารับซื้อเศษยางนอนสิ้นใจริมถนน อำมหิตไม่เลิกตามประกบยิงเหยื่อดับพร้อมลูกสาววัย 3 ขวบ กลางเมืองยะลา ตามซัลโวสาวใหญ่เสียชีวิตขณะกลับจากตลาด ด้านครอบครัว ครูจูหลิง ทำหนังสือถึง คุณหญิงกษมา ขอพาลูกสาวกลับเชียงราย ส่วนที่ประชุมคณะครูนราธิวาสมีมติเลื่อนเปิดโรงเรียน

สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 4 ธ.ค. ร.ต.ต.ธัญ ศิริขันธ์ ร้อยเวร สภ.อ.เมือง จ.ยะลา ได้รับแจ้งมีคนถูกยิงบนถนนสาย 410 ยะลา-กรงปินัง หมู่ 2 บ้านบันนังบูโย ต.บันนังสาเร็ง อ.เมือง จ.ยะลา จึงนำกำลังเดินทางไปตรวจสอบพบศพนายดอแม กาแล อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 113 หมู่ 3 ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี นอนเสียชีวิตอยู่ข้างรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กบม 919 ยะลา ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 11 มม. เข้าที่ท้ายทอย 1 นัด หน้าอก 1 นัด และที่เข่าซ้าย 1 นัด

นอกจากนี้ยังมีผู้ ได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา ทราบชื่อ ด.ญ.โซเฟีย กาแล อายุ 3 ขวบ ลูกสาวนายดอแม ถูกยิงเข้าที่หน้าท้อง 1 นัด อาการสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา สอบสวนทราบว่าขณะผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์กับลูกสาวมาถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามมาประกบยิงก่อนจะหลบหนีไป

ห่างกันเพียง 30 นาที ร.ต.ต.ชวนินทร์ กิตติชัยวัชร์ ร้อยเวร สภ.อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งมีคนถูกยิงบนถนนในหมู่บ้านไอกือแต หมู่ 4 ต.ศรีบรรพต อ.ศรีสาคร จึงรีบนำกำลัง เดินทางไปตรวจสอบพบศพ นางแมะ ดือราแม อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72/1 บ้านไอกือแต หมู่ 4 ต.ศรีบรรพต อ.ศรีสาคร

ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. ที่ท้ายทอย 1 นัด เอว 1 นัด นอนจมกองเลือดอยู่ข้างรถจักรยานยนต์ สอบ สวนทราบว่า ขณะผู้ตายขี่รถคันดังกล่าวกลับจากตลาดนัด เพื่อกลับบ้านพักมาถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ตามมาประกบยิงก่อนจะหลบหนีไป

ต่อมาเวลา 12.30 น. พ.ต.อ.เดโช จุลนวล ผกก.สภ.อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี นำกำลัง ไปตรวจสอบ บนถนนสายไม้แก่น-ปัตตานี เขตเทศบาลตำบลไม้แก่นพบศพ จ.ส.ต.อรุณ สุดเพชรโรจน์ ผบ.หมู่งานจราจร ทำหน้าที่ รปภ. ธนาคารทหารไทย สาขาไม้แก่น นอนเสียชีวิตอยู่ในร้านขายของชำ ตั้งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับธนาคารดังกล่าวในสภาพถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 ที่ศีรษะ 1 นัด สอบสวนทราบว่า ขณะผู้ตายเดินข้ามถนนมาซื้อบุหรี่ที่ร้านดังกล่าวได้มีคนร้าย 4 คนบุกเข้ามาใช้ปืนจ่อยิง ก่อนจะหยิบปืนขนาด.38 และปืนเอชเค ประจำกายหลบหนีไป

เวลาไล่เลี่ยกัน พ.ต.อ.ถวัลย์ นครา วงศ์ ผกก.สภ.อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีคนถูกยิงบนถนนสายยาบี-บ่อทอง หมู่ 4 ต.บูโล๊ะปูโย เมื่อนำกำลังไปตรวจสอบพบศพนายพลอย ดิษฐ์วงศ์ อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29 หมู่ 5 ต.ยาบี อ.หนองจิก ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. ที่กลางหลังและแขน รวม 3 นัด นอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่ข้างรถจักรยานยนต์แบบพ่วงข้าง จากการสอบสวนทราบว่าขณะผู้ตายซึ่งมีอาชีพรับซื้อเศษยางพาราได้ขี่รถคันดังกล่าวนำเศษยางไปขายที่ตลาด เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุถูกคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ตามมาประกบยิงแล้วหลบหนีไป

จากนั้นเวลา 15.30 น. พ.ต.อ.อลง กรณ์ สีมาวุธ ผกก.สภ.อ.ธารโต จ.ยะลา ได้รับแจ้งมีคนถูกยิงบริเวณปากทางเข้าบ้านกะป๋อง หมู่ 3 ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา จึงนำกำลังเดินทางไปตรวจสอบ พบรถจักรยานยนต์ล้มอยู่ส่วนคนเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลธารโต ทราบชื่อนายรพินทร์ ศิลปชัย อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 ถนนช้างเผือก ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่ขาซ้าย 1 นัด ข้อเท้าซ้าย 1 นัด และกระสุนเฉี่ยวที่หน้าผากอีก 1 นัด สอบสวนทราบว่าขณะที่นายรพินทร์กำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านพักมาถึงที่เกิดเหตุคนร้าย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ตามมาประกบยิงแล้วหลบหนีไป

ที่ห้องประชุมไทรทอง โรงเรียนบ้านตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส นายสงวน อินทร์รักษ์ เลขาคณะกรรมการสมาพันธ์ครูจังหวัด นราธิวาส ได้เรียกผู้บริหารโรงเรียนในจังหวัด นราธิวาสทั้งสองเขตพื้นที่การศึกษากว่า 100 คน เข้าประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์หลังกลุ่มครูถูกคนร้ายตามประกบยิงเสียชีวิต ทั้งนี้ในที่ประชุมได้หารือใน 2 ประเด็นหลัก คือ 1.ความบกพร่องของการรักษาความปลอดภัยครูระหว่างเดินทางไปและกลับโรงเรียน โดยคณะครูมีความเห็นตรงกันว่า ครูจะต้องระมัดระวังตัวเองให้มากยิ่งขึ้น นอกเหนือจากการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ และ ผอ.โรงเรียนสามารถตัดสินใจได้ทันทีว่าจะให้เปิดหรือปิดโรงเรียน เมื่อมีสิ่งผิดปกติ โดยไม่ต้องรอมติจากสมาพันธ์ครู 2.จากมติเดิมที่จะให้โรงเรียนในพื้นที่เปิดเรียนในวันที่ 6 ธ.ค. ซึ่งที่ประชุมเห็นตรงกันว่า จะรอดูสถาน การณ์อีกระยะหนึ่งก่อนจะตัดสินใจว่าจะเปิดเรียนได้เมื่อไร

สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเปิดเรียนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยที่ จ.ปัตตานี ประมาณ 200 แห่ง ใน 7 อำเภอ ยังคงเปิดการเรียนการสอนตามปกติ คือ อ.เมือง โคกโพธิ์ ยะหริ่ง ปะนาเระ กะพ้อ ไม้แก่น และสายบุรี ส่วนโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงยังไม่สามารถเปิดเรียนได้ โดยเฉพาะ อ.ยะรัง มายอ หนองจิก แม่ลาน และทุ่งยางแดง ขณะที่ จ.นรา ธิวาส โรงเรียนส่วนใหญ่เปิดสอนตามปกติ ยกเว้นในพื้นที่เสี่ยง ส่วนที่ จ.ยะลา โรงเรียนทั้งในเขตพื้นที่การศึกษา เขต 1 และเขต 2 หลายแห่งเปิดสอนแล้ว ยกเว้นในพื้นที่รอบนอกไม่สามารถเปิดสอน

ส่วนที่ห้องประชุม 2 กระทรวงมหาด ไทย นายอารีย์ วงศ์อารยะ รมว.มหาดไทย กล่าวในรายการ โครงการ รมว.มหาดไทยพบกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทางระบบสื่อสารวิทยุเฉพาะกิจ (Trunked Radio) กรมการปกครอง ประจำเดือน ธ.ค. 49 ถึงปัญหาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่าขอให้ช่วยเป็นหูเป็นตา และคอยระมัดระวังเหตุร้ายที่จะเกิดขึ้น ถ้าหากได้รับเบาะแสการก่อให้เกิดความไม่สงบ ขอให้รีบแจ้งให้นายอำเภอทราบทันที และขอให้ช่วยปลอบขวัญ ให้กำลังใจพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ไม่ให้เกิดความหวาดระแวง ทำให้เกิดความสมานฉันท์ เกิดความสันติสุข สงบร่มเย็น เหมือนเดิมที่เป็นมา

จากนั้น นายอารีย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่อดีตคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์ (กอส.) ออกมาระบุว่ารัฐบาลไม่ควรยึดแนวทาง สมานฉันท์ เพียงอย่างเดียวเพราะไม่สามารถยุติปัญหาการฆ่ารายวันได้ ว่า ตนยืนยันว่ารัฐบาลทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว ส่วนเรื่องการเปิด-ปิด นั้นขณะนี้ยังมีเหตุการณ์วุ่นวายอยู่ การเปิดปิดขึ้นอยู่กับสถานการณ์ อย่างไรก็ตามตนได้ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ดูแลปัญหา

ด้านคุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปเยี่ยม น.ส.จูหลิง ปงกันมูล ที่โรงพยา บาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และทางพ่อแม่ของครูจูหลิงได้แจ้งให้ทราบว่า ต้องการขอย้ายลูกสาวกลับไปรักษาต่อที่ จ.เชียงราย เพราะรู้สึกคิดถึงบ้าน อย่างไรก็ตามในวันที่ 4 พ.ย. ครอบครัวของครูจูหลิงก็ได้ทำหนังสือแจ้งมายังตนเพื่อขอย้าย

แต่เนื่องจากครูจูหลิงเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ดังนั้นต้องขอความเห็นไปยังสำนักราชเลขาธิการ สำนักพระราชวัง เพื่อทูลขอพระบรมราชานุญาตก่อน และ ผอ.โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ รับที่จะไปประสานกับทางสำนักราชเลขาธิการต่อไป

ขณะที่ พล.อ.มนตรี สังขทรัพย์ เสนา ธิการทหารบก แถลงผลการประชุมหน่วยขึ้นตรง กองทัพบก ว่า พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. ได้กำชับให้แม่ทัพภาคที่ 4 จัดทำแผนยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาภาคใต้ระยะยาว เพื่อให้เกิดความเรียบร้อยโดยเร็ว ทั้งนี้จะมีการปรับกลยุทธ์และเพิ่มการจรยุทธ์ ลาดตระเวนให้มากขึ้น

รวมทั้งการดูแลความปลอดภัยของชุมชนไทยพุทธ ครู และนักเรียนให้เข้มขึ้น ส่วนการจัดตั้งทหารพราน 30 กองร้อยนั้นในวันที่ 15 ม.ค. ทหารพรานจำนวน 10 กองร้อยจะเริ่มทำงาน จากนั้นในเดือน เม.ย. จะส่งอีก 20 กองร้อยลงไปในพื้นที่ เชื่อว่าทุกอย่างจะดีขึ้น ส่วนกรณีคนไทยพุทธหันมาจับปืนเพื่อต่อสู้กับกลุ่มคนร้ายนั้นตนเห็นด้วย เพราะพื้นที่กว้างขวาง กำลังทหารเข้าไปดูแลได้ยาก ส่วนประเด็นการปักธงรัฐปัตตานี จากการตรวจสอบยังไม่พบ.