สลดชาวนา เครียดฆ่าตัว

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 26 มี.ค. ร.ต.ท.ธนรัตน์ เทือกแถว พนักงานสอบสวน สภ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา

ได้รับแจ้งเหตุมีคนยิงตัวตายภายในบ้านเลขที่ 16/2 หมู่ 7 ต.ลาดงา อ.เสนา จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ ฉายแสงรัตน์ รอง ผกก.สส.สภ.เสนา เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยอยุธยารวมใจ และแพทย์เวร รพ.เสนา รุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ยกพื้นสูง ปลูกอยู่ริมคลองรองจระเข้ ติดกับถนนทางเข้าหมู่บ้าน ข้างบ้านมีรถไถนาขนาดเล็กจอดอยู่ ภายในห้องนอนพบศพนายวัลลภ อำพันทอง อายุ 47 ปี สภาพนอนหงายจมกองเลือดอยู่ข้างที่นอน สวมเสื้อแขนยาวสีฟ้าเข้ม นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ ผู้ตายใช้ อาวุธปืนยิงกรอกปากตัวเอง 1 นัด กระสุนทะลุออกท้ายทอย ข้างมือขวาพบอาวุธปืนพกขนาด 9 มม. ยี่ห้อซีแซดตกอยู่ 1 กระบอก ตรวจสอบพบว่าเป็นปืนมีทะเบียนและเป็นของผู้ตาย ในห้องพบขวดน้ำ 1 ขวด และแก้วน้ำ 1 ใบตั้งอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน


สอบสวนนางสำรวย อำพันทอง อายุ 47 ปี ภรรยาของผู้ตาย ให้การทั้งน้ำตาว่า

ตนกับสามี ประกอบอาชีพ ทำนา ล่าสุดได้ทำนาปรังไว้ทั้งหมด 46 ไร่ อยู่ระหว่างใกล้จะเก็บเกี่ยวในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แต่ปรากฏว่าเมื่อประมาณ 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา นาข้าวได้ถูกกองทัพเพลี้ยกระโดดทำลายกัดกินต้นข้าวเสียหายเกือบหมด ประกอบกับน้ำที่หล่อเลี้ยงต้นข้าวแห้งขอด ทำให้ผลผลิตที่คาดการณ์ไว้ว่าจะได้ไม่ต่ำกว่า 40 เกวียนก็คงเป็นแค่ความฝัน  ทำให้เงินที่ลงทุนไปกลับเป็นหนี้เป็นสิน เป็นเหตุให้ นายวัลลภเกิดอาการเครียดมานานร่วมอาทิตย์แล้ว มักบ่นให้ฟังเสมอว่ากลัวขายข้าวได้น้อยไม่พอใช้หนี้
 


นางสำรวยให้การอีกว่า ปีนี้ข้าวราคาดีมากตกเกวียนละ 10,000 บาท

กะไว้ว่าขายข้าวน่าจะได้เงินอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 400,000 บาท สามารถปลดหนี้สินได้หมดและมีเงินเหลือไว้ใช้และเป็นทุนปลูกข้าวต่อไปโดยไม่ต้องกู้ แต่เมื่อถูกเพลี้ยลง ทำให้ทุกอย่างต้องจบสิ้น ที่ผ่านมาพยายามให้กำลังใจสามีตลอด โดยปลอบใจว่ายังไงข้าวที่เหลือในแปลงนาน่าจะเก็บเกี่ยวขายได้บ้างอย่างน้อยก็น่าจะได้สัก 5 เกวียน ยังพอขายเอาไปใช้หนี้ ธ.ก.ส.ที่กู้ยืมมาลงทุน 50,000 บาท ปีนี้ได้น้อยปีหน้าค่อยกู้มาลงทุนใหม่ แต่ดูจะไม่เป็นผล โดย 2-3 วันที่ผ่านมาสังเกตอาการสามียิ่งเครียดหนัก  ถึงขั้นล้มป่วยไม่สบาย ก่อนเกิดเหตุผู้ตายขอเข้าไปนอนพักผ่อนในห้องนอน ไม่คิดว่าจะคิดสั้นยิงตัวตาย 


“ที่บ้านฐานะค่อนข้างยากจน อยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ถึง 8 คน ประกอบด้วยพ่อแม่ของผู้ตายที่แก่ชรามากแล้ว ญาติผู้ใหญ่ที่พิการ 1 คน หลาน 1 คน ลูกชายและลูกสาว บ้านที่อยู่อาศัยทุกวันนี้ก็เป็นของพี่สาวที่ไปทำงานอยู่กรุงเทพฯ ต่อจากนี้ไปเมื่อไม่มีสามีที่เป็นกำลังหลักมาตลอดก็คงลำบากมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเหลือฉันกับลูกๆ 2 คนเท่านั้นที่พอจะช่วยกันทำนาต่อไปได้ ส่วนสมาชิกคนอื่นๆคงช่วยทำไม่ไหว” นางสำรวยกล่าวด้วยสีหน้าเศร้าสลด 


ด้านนายสนธยา อำพันทอง อายุ 40 ปี น้องชายผู้ตาย ที่มีบ้านอยู่ไม่ห่างกันมากนัก ให้การเพิ่มเติมว่า

ก่อนเกิดเหตุได้ข่าวว่านายวัลลภ พี่ชายไม่สบาย เลยมาเยี่ยม เมื่อมาถึงทราบจากนางสำรวย พี่สะใภ้ ว่าผู้ตายนอนพักผ่อนอยู่ในห้อง หลังพูดคุยกับนางสำรวยเกี่ยวกับเรื่องนาข้าวที่ถูกเพลี้ยกัดกิน เสร็จแล้วตั้งใจว่าจะเดินไปดูอาการของพี่ชาย  แต่ยังไม่ทันเข้าไปก็มีเสียงปืนดังมาจากในห้อง เลยรีบวิ่งเข้าไปดูพบนายวัลลภยิงตัวตายไปแล้ว ยอมรับว่าที่ผ่านมาผู้ตายเครียดมาก 

ขณะที่ พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ ฉายแสงรัตน์ รอง ผกก.สภ.เสนา กล่าวว่า

จากการสอบปากคำคนในบ้านเบื้องต้นคาดว่า ผู้ตายคงเครียดเรื่องนาข้าวถูกเพลี้ยกัดกินเสียหาย เลยตัดสินใจใช้ปืนยิงกรอกปากตัวเองฆ่าตัวตาย โดยญาติไม่ติดใจ อย่างไรก็ตาม เพื่อความกระจ่างชัดได้ส่งศพไปผ่าพิสูจน์ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ. ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จ.ปทุมธานี เพื่อยืนยันสาเหตุการตายต่อไป


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์