สลด2ศพ-เซ่นรักขม ตร.ฆ่าเมีย-ยิงตัวตาย สังเวยปัญหาบ้านแตก


กรณีนี้นับเป็นอุทาหรณ์สอนการใช้ชีวิตครอบครัวได้เป็นอย่างดี

เมื่อจ.ส.ต.สังกัดโรงพักคลองหลวง จ.ปทุมธานี ก่อเหตุสะเทือนขวัญใช้อาวุธปืนยิงภรรยาตนเองจนถึงแก่ความตาย ก่อนที่จะใช้ปืนกระบอกเดียวกันระเบิดสมองตัวเองไปอีกราย

ตายหนีปัญหาบ้านแตกเพราะความไม่เข้าใจกันทั้งสองฝ่าย!!

เบื้องหลังการตายครั้งนี้พยานที่ใกล้ชิดบอกว่ามาจากเรื่องระหองระแหงในครอบครัวที่มีมานานแล้ว โดยฝ่ายชายเป็นตำรวจที่มีภารกิจมากมาย เลยทำให้ไม่ค่อยมีเวลาอยู่กับครอบครัวสักเท่าไหร่ ขณะที่ฝ่ายภรรยาก็ต้องไปทำงานนอกบ้าน เลยทำให้เวลาว่างที่จะได้อยู่ด้วยกันสวนทางกันเป็นส่วนใหญ่

เมื่อความห่างเหินกลายเป็นสุญญากาศในครอบครัว

สุดท้ายจึงบานปลายเป็นความตาย!?!

ที่มาที่ไปของเหตุสลดครั้งนี้ เกิดขึ้นตอนค่ำวันที่ 25 พ.ค. วันนั้น นางสุภาพร สุวรรณพันธ์ คุณแม่วัย 24 พาด.ช.พลพัตต์ สุวรรณพันธ์ ลูกชายวัย 8 ปี นักเรียนชั้นป.3. โรงเรียนสังห์อ่ำวิทยา เข้านอนแต่หัวค่ำตามปกติ โดยไม่ได้หวังรอสามี คือ จ.ส.ต.มณเฑียร ล้วนสมหวัง ตำรวจสังกัด สภ.คลองหลวง ที่มักจะกลับบ้านไม่เป็นเวลาอยู่แล้ว เพราะมีคำสั่งพิเศษไปปฏิบัติหน้าที่อยู่เป็นประจำ

คืนนั้นจึงไม่ต่างกับหลายๆ คืน ที่สองแม่ลูกต้องนอนด้วยกันตามลำพัง

เป็นความห่างเหินที่เกิดขึ้นมาช้านาน!?!

แต่ทว่าในคืนนั้นแตกต่างไปจากทุกคืน เพราะตอน 5 ทุ่ม จ่ามณเฑียรพาร่างกายอันเหนื่อยล้า กลับจากทำหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต ซึ่งผู้บังคับบัญชามอบหมายให้ไปทำหน้าที่ตั้งแต่เย็นจนดึก เมื่อถึงบ้านจ่ามณเฑียรจึงตรงขึ้นไปหาลูกเมียทันที

แต่ดูเหมือนว่าการกลับบ้านครั้งนี้ จะทำให้จ่ามณเฑียรไม่ค่อยแฮปปี้ เนื่องจากมีปากเสียงกับภรรยาในเรื่องเก่าๆ ที่นางสุภาพรจะขอเลิก โดยอ้างว่าสามีไม่มีเวลาให้ และไม่ค่อยกลับบ้าน

จากทะเลาะกันเบาๆ บานปลายกลายเป็นการลงไม้ลงมือกัน

ศึกผัวเมียเริ่มทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น...

ปังๆๆๆ...!?!

เสียงปืนดังกัมปนาทขึ้นในห้องนอนหลายนัด แต่ทว่าเสียงปืนนั้นก็มิได้ทำให้นายสายันต์ สุวรรณพันธ์ อายุ 51 ปี พ่อของนางสุภาพร ซึ่งอยู่บ้านเดียวกัน ตื่นตกใจแต่อย่างใด เพราะเคยชินกับการกระทำของเขยตำรวจ ที่เวลาทะเลาะกับเมีย มักจะยิงปืนขึ้นฟ้าระบายอารมณ์โดยไม่สนใจใคร นายสายันต์จึงคิดว่าเสียงปืนที่ดังขึ้นน่าจะเป็นการยิงขึ้นฟ้าด้วยฝีมือลูกเขยที่เคยทำไว้


จนกระทั่งรุ่งเช้าจะลุกไปปลุกหลานไปโรงเรียนจึงเห็นภาพทั้งสองคนนอนตาย

เกิดเหตุร้ายขึ้นแล้วที่บ้านหลังนี้!?!

หลังรับแจ้งเหตุ พ.ต.อ.นครพัฒน์ พรหมพันธุ์ ผกก.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.บัญชา ศรีสุข สารวัตรเวรฯ รุดไปตรวจสอบที่หมู่บ้านพระปิ่น 7 ข้างตลาดไท บ้านเลขที่ 74/109 ถนนเลียบคลองแอน 1-2 หมู่ 9 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง บ้านของจ่ามณเฑียรทันที


ที่นั่นเป็นบ้านทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น ห้องนอนชั้น 2 พบศพจ่ามณเฑียร ผบ.หมู่งานป. นอนตายในสภาพใช้อาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. ยี่ห้อกล๊อก จ่อยิงตัวเองเข้าที่ขมับขวา ทะลุซ้าย ตายในชุดสวมเสื้อยืดคอปก สีขาว กางเกงยีนส์ ขายาว สีน้ำเงิน ศพทับร่างนางสุภาพร ซึ่งถูกยิงเข้าที่หน้าอก ทะลุหลัง ลำคอ และต้นแขนขวาทะลุ รวม 3 นัด เสียชีวิตอยู่บนที่นอน ในห้องพบปืนกล๊อกตกอยู่พร้อมปลอกกระสุน 4 ปลอก แม็กกาซีนมีลูกปืนที่ยังไม่ได้ยิงเหลืออีก 8 นัด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน


สภาพที่เกิดเหตุแสดงให้เห็นว่าจ่ามณเฑียรลุแก่อารมณ์ เพราะพูดคุยกับภรรยาไม่รู้เรื่อง จึงใช้อาวุธปืนจ่อยิงภรรยาหลายนัดก่อนที่จะยิงขมับตัวเองตายตาม

เจ้าหน้าที่จึงทำบันทึกไว้

ตำรวจเชิญตัวนายสายันต์พ่อผู้ตายมาสอบปากคำ ซึ่งเจ้าตัวไม่ได้ติดใจอะไร เพราะรู้ว่าทั้งคู่มีเรื่องหมางใจกันมานานแล้ว โดยลูกเขยเป็นคนขี้หึงและมีงานเยอะ เลยทำให้หวาดระแวงลูกสาวซึ่งเป็นพนักงานขายทองอยู่ที่ร้านโต๊ะกัง ย่านบางขัน ทำให้ในช่วงหลังทะเลาะกันบ่อย ซึ่งลูกสาวบ่นเบื่อสามี และจะขอหย่าเพื่อไปทำงานที่ประเทศเบลเยียมกับพี่สาว แต่ลูกเขยไม่ยอมเพราะกลัวภรรยาไปมีผู้ชายใหม่เพราะยังหน้าตาดีอยู่

ไม่คิดว่าทั้งคู่จะลงเอยแบบนี้!!?

"ทั้งสองคนอยู่กินกันมาตั้งแต่ตอนลูกสาวผมอายุ 16 ปี ตอนแรกก็ยังดีๆ แต่ระยะหลังทะเลาะกันบ่อยมาก เวลาทะเลาะกันลูกเขยมักจะยิงปืนขึ้นฟ้าเป็นประจำ จนชินแล้ว เลยทำให้ผมไม่รู้ว่าเขาฆ่ากันตาย เช้ามาจะไปปลุกหลานไปโรงเรียนจึงเห็นศพ ขนาดหลานชายซึ่งนอนอยู่กับพ่อแม่ ยังไม่รู้เรื่องเลยว่าพ่อแม่ฆ่ากัน" นายสายันต์ กล่าว

ด้านพ.ต.อ.นครพัฒน์ พรหมพันธุ์ ผกก.สภ.คลองหลวง ในฐานะผู้บังคับบัญชาจ่ามณเฑียร กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุจ่ามณเฑียรไปปฏิบัติหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยงานชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต อยู่จนกระทั่งเวลาประมาณ 4 ทุ่มเศษ จึงออกเวรกลับบ้าน และยังโทรศัพท์มาบอกเพื่อนตำรวจ ว่าอยากนอนพักผ่อนอยู่กับครอบครัวบ้าง ซึ่งช่วงนี้ทางสภ.คลองหลวงมีคดีอุกฉกรรจ์เกิดขึ้นหลายคดี ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องทำงานกันอย่างหนัก ไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อนอยู่กับครอบครัว จึงอาจเป็นสาเหตุของการไม่เข้าใจกัน

จนทำให้เกิดเหตุร้ายขึ้นจนได้!?!

กล่าวถึงปัญหาความขัดแย้งในครอบครัวมีมากมายหลายแบบ

นายสุจิตต์ ไตรพิทักษ์ รอง ผอ.สำนักงานสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ออกมาแสดงทัศนะว่า ปัญหาความรุนแรงในครอบครัวที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ มาจากหลายปัจจัย แต่ปัญหาสำคัญที่สุด คือ เรื่องการสื่อสารภายในครอบครัวที่ต้องให้เข้าใจกัน และต้องเป็นการสื่อสารในเชิงบวก คู่สมรสต้องเข้าใจในอาชีพของอีกฝ่าย กรณีที่เกิดขึ้นเกิดจากการไม่เชื่อใจในคนที่เรารัก เมื่อฝ่ายหญิงเกิดความไม่เชื่อใจแล้ว สามีก็จะเกิดความเครียด ทั้งที่อาจไม่ได้ทำอะไรผิด จึงอาจเกิดเหตุรุนแรงขึ้น สรุปแล้วเรื่องที่เกิดขึ้นมาจากปัญหาสัมพันธภาพภายในครอบครัวและการสื่อสารที่ไม่เข้าใจกัน!!

การป้องกันปัญหาทำได้ด้วยการสร้างวินัยในครอบครัว และสื่อสารกันให้บ่อยขึ้น อาจพูดคุยกันภายในครอบครัวหลังจากรับประทานอาหารร่วมกัน นำปัญหามาพูดคุย วิเคราะห์ และแก้ปัญหาร่วมกัน ช่วยกันหาทางแก้ไข

คนในครอบครัวต้องใส่ใจกันให้มากขึ้น

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์