สลด แม่ใจยักษ์ นำลูกน้อยวัย3ด.ทิ้งถังขยะ

เมื่อเวลา 10.30 น. ร.ต.ท.กวี ช่วยสร้าง ร้อยเวร สภ.ต.ปากคลองรังสิต จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งจากนางหม่วยเกี้ย สมบูรณ์จันทร์ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่110 /35 ม.2 ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี ว่าตนมีอาชีพเก็บขยะ และได้เข้าไปเก็บขยะในหมู่บ้านเมืองเอกโครงการ 3 ซอย 2

พบถังขยะมีร่มสีชมพูกางปิดถังไว้ จึงเปิดออกเพื่อทำการตรวจสอบ พบมีเด็กทารถเพศหญิงวัย 3 เดือนเศษเสียชีวิตแล้วถูกนำไปทิ้งไว้ในถังขยะ ให้ไปตรวจสอบด้วย ดังนั้น จึงได้ไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต็กตึ้ง

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบถังขยะน้ำเงิน ขนาด 200 ลิตร ตั้งอยู่ข้างบ้านเลขที่ 92/45 ซอยเอกรัฐ 13 หมู่บ้านเมืองเอก หมู่ 2 ต.หลักหก อ.เมืองปทุมธานี ตรวจสอบในถังขยะ พบร่มสีชมพูกลางปิดฝาถังไว้ เมื่อเปิดออกดู

พบเด็กทารกเพศหญิงใส่ชุดหมีสีขาว สวมถุงมือทั้งสองข้างเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3-5 ชั่วโมงอยู่ในถังดังกล่าว

ตนมีอาชีพเก็บขยะขายกับหลาน และขณะที่กำลังเก็บขยะอยู่นั้น ได้เห็นร่มปิดถังขยะอยู่ จึงได้ไปเปิดออกดู จนกระทั่งเห็นว่าเป็นศพทารกเพศหญิง ทำให้ตกใจ ดังนั้น จึงได้ไปเรียกเจ้าของบ้านในระแวกใกล้เคียงออกมาดู

ส่วน ร.ต.ท.กวี ได้กล่าวว่า ในหมู่บ้านนี้มีสถานที่ศึกษาขนาดใหญ่ และมีนักศึกษามาเช่าพักกันอยู่เป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ ซากทารกที่เสียชีวิตนี้ คาดว่าน่าจะคลอดออกมาได้ประมาณสามเดือนเศษ โดยผู้เป็นแม่และพ่อ อาจจะขาดความรับผิดชอบ จึงปล่อยให้เด็กถึงแก่ชีวิต จากนั้นจึงนำศพเด็กมาทิ้งไว้ เนื่องจากกลัวความผิด ทั้งที่เด็กกำลังน่ารักน่าเอ็นดู

ดังนั้น จึงต้องนำศพเด็กส่งนิติเวชธรรมศาสตร์ เพื่อพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป

"การที่พ่อหรือแม่ นำเด็กมาทิ้งไว้ในครั้งนี้ เชื่อว่าน่าจะเป็นการนำมาทิ้งไว้ เพื่อให้เจ้าของบ้านมาเห็น และช่วยเหลือ หรือนำไปเลี้ยง เพราะเห็นว่าเจ้าของบ้านมีฐานะดี

เนื่องจากบริเวณที่เกิดเหตุ มีบ้านขนาดใหญ่เพียง 3 หลัง แต่เพราะว่าฝนตกตลอดทุกวัน ทำให้ไม่มีใครมาพบเด็ก จนทำให้เด็กอดน้ำอดอาหาร จนเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้สืบสวนสอบสวนว่า พ่อแม่ของเด็กหญิงรายนี้เป็นใคร

เพื่อจะได้นำตัวมาสอบสวนหาสาเหตุที่ต้องนำเด็กมาวางทิ้ง และจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

จากการตรวจชันสูตรในเบื้องต้น พบว่าเด็กทารถดังกล่าวนั้นอายุประมาณ 3-4 เดือน คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่เกิน 3 ชม.

ซึ่งจากการตรวจสภาพศพ พบว่า เด็กน่าจะเสียชีวิตเนื่องจากการขาดอาหาร และขาดน้ำ เพราะที่ปลายนิ้วเท้าทั้ง 10 นิ้ว มีรอยแดงช้ำคล้ายถูกของร้อนๆ ที่โคนขาหนีบมีรอยถลอก คาดว่าขณะที่นำเด็กมาทิ้งไว้ในถังขยะ เด็กคงยังไม่เสียชีวิต แต่เมื่อไม่มีใครมาพบเป็นเวลานาน จึงทำให้เด็กขาดอาหาร ขาดน้ำ

ซึ่งเด็กอาจจะหิวจนสลบไป และเมื่อสลบไปแล้วเป็นเวลานานอาจจะทำให้ขาดอากาศหายใจ จนเสียชีวิตดังกล่าว

ด้าน น.ส.สุวรรณา สายสะเกษ อายุ 30 ปี พนักงานทั่วไป อบต.หลักหก กล่าวว่า เมื่อวานนี้เวลาประมาณ 15 .00 น. ขณะที่ตนเองและเพื่อนๆกำลังทำงานกันอยู่ที่สำนักงาน อบต.หลักหก ซึ่งอยู่ห่างจากจุดพบศพประมาณ 200 เมตร

ซึ่งช่วงนั้นได้มีฝนตกลงมา ตนเองและเพื่อนๆต่างได้ยินเสียงเด็กร้องอยู่นานหลายนาที แต่ก็หาที่มาของเสียงไม่พบ จนเสียงเงียบไปเอง ตนเองและเพื่อนต่างคิดว่าอาจจะหูแว่ว หรือถูกผีหลอก แต่พอมาวันนี้ก็มีการบศพเด็กทารก

ซึ่งอาจจะเป็นคนเดียวกันที่ตนเองและเพื่อนได้ยินเสียงร้องก็เป็นได้ น่าสงสารเด็กมากๆ จากลักษณะและเสื้อผ้าที่เด็กสวมใส่ คงจะเป็นลูกของคนที่พอจะมีเงิน

แต่ไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไรกัน ถึงต้องนำเด็กมาทิ้งไว้จนเสียชีวิตแบบนี้

ขอขอบคุณ : ข้อมูลข่าวที่มีคุณภาพ จาก หนังสือพิมพ์คมชัดลึก