“สรรพาวุธ” เผย “กระสุนอาร์พีจี–2 หาย 39 นัด – กระสุนปืนกล เอ็ม-60ด้วย ชี้เป็นอาวุธสังหาร-ทำลาย ขอเวลา2วันผลสอบชัดเจน
วันนี้ ( 21 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แหล่งข่าวจากกรมสรรพาวุธ เปิดเผยกรณีกระสุนอาร์พีจี ในกองสรรพาวุธกลางที่ 2 กรมสรรพาวุธทหารบก จ.ลพบุรี ถูกขโมยไปจำนวนหนึ่ง ว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ได้เน้นย้ำให้ติดตามว่า กระสุนเครื่องยิงจรวดอาร์พีจีที่หายไปนั้นไปอยู่ที่ใด ส่วนเรื่องผลการสอบสวน ทางกรมสรรพาวุธทหารบก ขอตรวจสอบเพื่อความชัดเจนก่อน จึงจะเปิดเผยรายละเอียด เพราะหากออกมาพูดในตอนนี้ จะกระทบต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการสอบสวนข้อเท็จจริง ในเบื้องต้นกรมสรรพาวุธทหารบก ยังไม่มีการสรุปถึงสาเหตุของกระสุนอาร์พีจีที่หายไป คงต้องรอประมาณ 2-3 วัน น่าจะได้ความชัดเจนขึ้น ขณะเดียวกัน กองคลังแสง ซึ่งอาวุธหายไปจากคลัง ได้มีการแจ้งความที่ สถานีตำรวจท้องที่ ไว้เป็นหลักฐานแล้ว
“เท่าที่ตรวจสอบพบว่า มี กระสุนอาร์พีจี-2 จำนวน 39 นัดหายไปจากคลัง อาวุธล็อตที่หายไปผลิตปี ค.ศ.1974 ซึ่งการซื้อมาถูกต้องตามขั้นตอน อย่างไรก็ตาม กระสุนอาร์พีจี-2 บางนัด น่าจะหมดอายุการใช้งานไปแล้ว นอกจากนั้นยังมี กระสุนปืนกล M-60 จำนวนหนึ่งที่หายไปด้วย” แหล่งข่าวระบุ
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า เครื่องยิงจรวดอาร์พีจี อังกฤษ: Rocket-propelled grenade หรือ RPG) เป็นอาวุธต่อสู้รถถังขนาดเล็ก ชนิดประทับบ่ายิง
ปากลำกล้องกว้าง 40 มม. ใช้ลูกจรวดขนาด 82 มม. (อาร์พีจี-2) และขนาด 85 มม. (อาร์พีจี-7) ตามลำดับ เป็นอาวุธเสริม เพื่อใช้ทำลายรถถัง หรือยานยนต์ต่างๆ ที่มั่นกำบัง รวมทั้งสังหารบุคคลเป็นกลุ่มก้อน สำหรับประวัติ เครื่องยิงจรวดอาร์พีจี พัฒนาโดยกองทัพสหภาพโซเวียต ภายหลังสงครามโลกครั้งที่สอง โดยปรับปรุงมาจากเครื่องยิงจรวด panzerfaust ของนาซีเยอรมนี โดยเครื่องยิงจรวดรุ่นแรก ที่เข้าประจำการในกองทัพโซเวียต คือ เครื่องยิงจรวดอาร์พีจี-2 เมื่อปี ค.ศ. 1949 ก่อนจะมีการนำไปปรับปรุงเป็นเครื่องยิงจรวดอาร์พีจี-2 ในเวลาต่อมา และเข้าประจำการในปีค.ศ. 1961 รวมทั้งมีการส่งมอบแก่ประเทศบริวาร และพันธมิตรเพื่อสนับสนุนการสู้รบ และเป็นเครื่องยิงจรวดชนิดเดียว ที่นิยมใช้กันแพร่หลายกันในปัจจุบันตั้งแต่ยุคสงครามเย็น.
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
