สยอง!ปีหน้าบุหรี่คร่า6ล้านคน ครบศตวรรษยอดตายสูงถึงพันล้าน!

องค์กรผู้เชี่ยวชาญระบุบุหรี่คร่าชีวิตคนเป็นว่าเล่น คาดปีนี้จะมีผู้เสียชีวิต 5.5 ล้านคน ปีหน้าถึง 6 ล้านคน สร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจโลกมหาศาล เผยจีนยังครองแชมป์ขี้ยา

เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม กลุ่มผู้เชี่ยวชาญจากมูลนิธิโรคปอดโลก และสมาคมโรคมะเร็งแห่งสหรัฐอเมริกา ร่วมกันเปิดเผยตัวเลขชวนสยดสยองที่แสดงให้เห็นถึงผลร้ายของการบริโภคยาสูบในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรูปของบุหรี่ โดยผู้เชี่ยวชาญประเมินว่า ในปีนี้จะมีผู้เสียชีวิตราว 5.5 ล้านคน และจะเพิ่มขึ้นเป็น 6 ล้านคนในปี 2553 ทั้งจากอาการป่วยเป็นมะเร็ง,โรคหัวใจ,โรคถุงลมโป่งพองและโรคอื่นๆ ที่เกิดจากการสูบบุหรี่ ทั้งนี้จากการเก็บสถิติในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา พบว่าบุหรี่ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปสูงถึง 100 ล้านคน และหากยังปล่อยให้แนวโน้มยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องเช่นที่เป็นอยู่ บุหรี่และยาสูบจะทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 1,000 ล้านคนในศตวรรษที่ 21 นี้

ในแง่ของผลกระทบทางเศรษฐกิจนั้น ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การบริโภคยาสูบส่งผลลบโดยตรงต่อเศรษฐกิจโลกคิดเป็นมูลค่า 500,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี

(ราว 17,500 ล้านบาท) ในรูปของค่าใช้จ่ายทางการแพทย์,การสูญเสียผลิตภาพ, และก่อผลเสียให้เกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อม เป็นอาทิ ถ้าประเมินในระดับประเทศแล้วผลกระทบทางลบต่อเศรษฐกิจของประเทศอาจทำให้ความมั่งคั่งของแต่ละประเทศลดลงได้มากถึง 3.6 เปอร์เซ็นต์จากผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ทั้งหมด

ข้อมูลที่น่าสนใจที่เผยแพร่ออกมาในคราวเดียวกัน มีอาทิ มีผู้ชายสูบบุหรี่ทั้งโลกอยู่ราว 1,000 ล้านคน

โดย 50 เปอร์เซ็นต์ของผู้ชายในประเทศกำลังพัฒนาสูบบุหรี่แต่ผู้ชายในประเทศที่พัฒนาแล้วสูบบุหรี่เพียง 35 เปอร์เซ็นต์, มีสตรีทั่วโลกราว 250 ล้านคนสูบบุหรี่ประจำทุกวัน สตรีในประเทศพัฒนาแล้วสูบบุหรี่ในสัดส่วนสูงถึง 22 เปอร์เซ็นต์ แต่มีเพียง 9 เปอร์เซ็นต์ของผู้หญิงในประเทศกำลังพัฒนาเท่านั้นที่สูบบุหรี่ ทั้งนี้สัดส่วนการสูบบุหรี่ของผู้หญิงมีแนวโน้มทรงตัวหรือเพิ่มขึ้นในกลุ่มประเทศยุโรป ทั้งทางใต้ ทางตะวันออก และตอนกลางของภูมิภาค, การสูบบุหรี่ของผู้ชายเพิ่มความเสี่ยงเป็นมะเร็งปอดมากขึ้นกว่าปกติ 23 เท่าตัว แต่เพิ่มขึ้นเพียง 13 เท่าตัวในกลุ่มสตรี, ผู้ที่สูบบุหรี่ตายเพราะบุหรี่ในอัตราส่วนระหว่าง 1 ใน 3 ของครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้สูบบุหรี่ทั้งหมด โดยเฉลี่ยแล้วจะเสียชีวิตเร็วกว่าคนไม่สูบบุหรี่ถึง 15 ปี, ประเทศที่มีผู้สูบบุหรี่มากที่สุดคือประเทศจีน ทั้งนี้ 60 เปอร์เซ็นต์ของชายจีนสูบบุหรี่ โดยจีนบริโภคบุหรี่มากกว่า 37 เปอร์เซ็นต์ของบุหรี่ทั้งหมดในโลก

แนวโน้มที่น่าสนใจประการหนึ่งก็คือ ในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา สัดส่วนการสูบบุหรี่ในประเทศพัฒนาแล้วอาทิ

สหรัฐอเมริกา อังกฤษและญี่ปุ่น ลดลงเรื่อยๆ แต่กลับเพิ่มขึ้นในประเทศกำลังพัฒนา แต่นอกจากจีนแล้ว ประเทศที่ผลิตบุหรี่มากที่สุดของโลกเป็นประเทศพัฒนาแล้วทั้งสิ้น เรียงตามลำดับปริมาณการผลิตสูงสุดลงมาดังนี้ จีน,สหรัฐอเมริกา, รัสเซีย และญี่ปุ่น อุตสาหกรรมบุหรี่ถือว่าเป็นอุตสาหกรรมทรงอิทธิพลมากในประเทศพัฒนาแล้ว ตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมก็คือการที่ องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาเพิ่งชนะคดีที่คาราคาซังมานานในการจัดตั้งศูนย์เพื่อกำกับดูแลบุหรี่และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยรัฐสภาเพิ่งให้ความเห็นชอบเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานี่เอง (รอยเตอร์)

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์