สยองกรุง-ข่มขืนฆ่า2ศพ

ภัยร้ายเมืองกรุง ข่มขืน-ฆ่าโหดสาวนิรนาม 2 ศพซ้อน รายแรกถูกหมกอยู่ริมทางลงสะพานถนนวงแหวน ย่านยานนาวา ถูกมัดด้วยเทปบริเวณปากและจมูก ตร.สันนิษฐานถูกข่มขืนฆ่ามาจากที่อื่น อีกคดี 2 หื่นเมากาว เจอเหยื่อสาวเดินมาตามลำพังบริเวณใต้สะพานลอยข้ามแยกลำสาลี จี้ชิงเงินก่อนลากตัวไปข่มขืน เหยื่อร้องให้คนช่วยเลยฆ่าตายแล้วหนี ก่อนวกกลับมาขอขมาศพเลยถูกล็อกตัว

เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 22 ธ.ค.

พ.ต.ต. สมพล พันธภิบาล พนักงานสอบสวน สน.บาง โพงพาง รับแจ้งเหตุพบศพหญิงสาวเสียชีวิตบริเวณริมฟุตปาธ ทางลงสะพานถนนวงแหวนอุตสาหกรรมตัดใหม่มุ่งหน้าพระราม 3 แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบแล้วนำกำลังรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.วิบูลยุทธ สันทัดเวช ผกก.สน.บาง โพงพาง แพทย์นิติเวช ร.พ.จุฬา เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุอยู่ริมฟุตปาธเป็นพงหญ้า

ข้างรั้วบ้านเลขที่ 80/1-2 พบศพหญิงสาวไม่ทราบชื่อ อยู่ในสภาพนอนคว่ำหน้า อายุประมาณ 20-30 ปี ผมยาวสีน้ำตาลแดง ผิวดำแดง สูงประมาณ 155-160 ซ.ม. สภาพศพนอนคว่ำหน้า สวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีขาว นุ่งกระโปรงยีนส์สั้นสีขาว ถูกถลกขึ้นไปจนเห็นกางเกงในสีดำ บริเวณปากและจมูกมีสก๊อตเทปแบบผ้าสีน้ำตาลปิดไขว้กัน มีเลือดไหลออกบริเวณปากและจมูก ที่น่องขวามีร่องรอยพุพองคล้ายถูกความร้อนจากท่อไอเสียรถจักรยานยนต์ และที่หัวแม่เท้าและนิ้วชี้เท้าข้างขวามีบาดแผลลักษณะถูกลากถูมากับพื้นถนนจนเนื้อหลุดถึงกระดูก

จากการตรวจสอบของแพทย์ทราบว่า เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2-4 ช.ม.

เบื้องต้นไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายหรือบาดแผลที่ทำให้เสียชีวิต คาดว่าผู้ตายน่าจะเสียชีวิตจากที่อื่นก่อนที่จะถูกนำศพมาทิ้ง เพราะดูจากบาดแผลที่ขาและเท้าเลือดแห้งแล้ว และยังพบที่หน้าอกทั้ง 2 ข้างมีรอยจ้ำแดง ส่วนที่มีมดไต่ที่บริเวณอวัยวะเพศนั้น ผู้ตายอาจจะถูกข่มขืนมาก่อน เพราะยังมีสารคัดหลั่งค้างอยู่ ทำให้มดมาไต่บริเวณดังกล่าวทั้งที่ตายมาไม่กี่ชั่วโมงแล้วนำศพมาทิ้ง ซึ่งต้องนำศพไปตรวจให้แน่ชัดอีกครั้งว่าถูกข่มขืนหรือไม่ ถ้าถูกข่มขืนก็จะต้องเก็บเชื้ออสุจิของคนร้ายไว้เป็นหลักฐานต่อไป

จากการสอบสวน น.ส.วรรณวิภา ปานสาด อายุ 16 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49/2 ซ.อมร ถ.นางลิ้นจี่ แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กทม. ผู้พบศพ ให้การว่า

 ตนกับพี่สาวและน้องสาวขี่รถจักรยาน มาจากซอยสาธุประดิษฐ์ 49 ผ่านจุดที่เกิดเหตุพบผู้หญิงนอนคว่ำหน้าอยู่ตอนแรกคิดว่าเป็นคนบ้านอนหลับอยู่ จึงขี่รถผ่านไป แต่เห็นจากชุดที่ผู้ตายใส่อยู่ไม่น่าจะใช่คนบ้า และยังนอนศีรษะทิ่มลงไปพงหญ้าอีกจึงชวนกันวนรถกลับมาดู เมื่อแตะที่ตัวปรากฏว่าตัวเย็นเฉียบ และไม่หายใจ อีกทั้งยังมีสก๊อตเทปปิดปากด้วย เชื่อว่าน่าจะเกิดเหตุร้าย จึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ

พ.ต.อ.วิบูลยุทธ กล่าวว่า

จากการตรวจสอบสภาพศพน่าจะถูกฆาตกรรมมาจากที่อื่น จากนั้นนำผู้ตายซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์มาทิ้งบริเวณดังกล่าว เนื่องจากมีร่องรอยน่องขวาถูกท่อไอเสียรถยนต์ลวกจนพุพอง อีกทั้งนิ้วเท้ายังถูกครูดมาตามท้องถนนจนเนื้อหลุดออกจนเห็นกระดูก ถ้าหากยังไม่เสียชีวิตจะต้องยกเท้าหนี ส่วนจะถูกข่มขืนหรือไม่ต้องรอผลชันสูตรจากแพทย์ ทั้งนี้บาดแผลฉกรรจ์ที่ทำให้เสียชีวิตยังไม่พบ เบื้องต้นเชื่อว่าน่าจะขาดอากาศหายใจ อย่างไรก็ตามต้องรอผลชันสูตรพลิกศพอีกครั้ง โดยประสานขอภาพจากกล้องวงจร 2 จุดที่บริเวณทางลงสะพานถนนวงแหวนอุตสาหกรรมมุ่งหน้าพระราม 3 และฝั่งตรงข้ามมาตรวจสอบเพื่อหาคนร้ายต่อไป

และเมื่อเวลา 08.00 น. วันเดียวกัน

พ.ต.อ. วัฒนา ยี่จีน ผกก.สน.หัวหมาก พร้อมด้วย พ.ต.ท.พิพัฒน์ เต็งถาวร สว.สส. พ.ต.ท.โชติวัฒน์ เหลืองวิไล รองผกก.ป. และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.หัวหมาก ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหา 2 ราย ตามหมายจับศาลอาญารัชดา เลขที่ 3754, 3755 ลงวันที่ 22 ธ.ค. หลังจากร่วมก่อเหตุฆ่าข่มขืนสาวนิรนาม อายุ 20-25 ปี ผิวดําแดง ผมยาวประบ่า เหตุเกิดบริเวณใต้สะพานลอยข้ามแยกลำสาลี ช่วงถนนพ่วงศิริ สะพานข้ามคลอง โรงเรียนหัวหมาก แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. เมื่อคืนวันที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมา ประกอบด้วยนายอาทิตย์ หรือเล็ก พงษ์ปลัด อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40 หมู่ 7 ต.ไทยอุดม อ.คลองหาด จ.สระแก้ว และนายมงคล หรือบอล แสงอ่อน อายุ 18 ปี บ้านเลขที่ 1/311 ซ.ปลูกจิตร แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. โดยจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ขณะย้อนกลับมาขอขมาศพบริเวณจุดเกิดเหตุ โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันฆ่าและชิงทรัพย์ผู้อื่นในเวลากลางคืน และร่วมกันข่มขืนผู้อื่นในลักษณะเป็นการโทรมหญิง พกพาอาวุธมีด

นายมงคล หรือบอล หนึ่งในผู้ต้องหารับสารภาพว่า

ตนและนายอาทิตย์หรือเล็ก ผู้ต้องหาอีกคนมีอาชีพเป็นช่างก่อสร้าง ทํางานอยู่บริเวณใกล้ที่เกิดเหตุ ก่อนลงมือก่อเหตุได้พากันมานั่งดมกาวอยู่บริเวณใต้สะพานจนเกิดอาการมึนเมา และชวนกันมานั่งเล่นต่อบนสะพาน เป็นจังหวะที่ผู้ตายเดินสวนมาพอดี ก็ทําทีเข้าไปขอเงิน เมื่อผู้ตายเปิดกระเป๋าก็เห็นเงินจํานวนมาก จึงใช้มีดจี้บังคับผู้ตายมาที่ใต้สะพานลอย โดยพาเดินลอดใต้สะพานดังกล่าวมาอีกฝั่งของถนนซึ่งเป็นจุดเปลี่ยวและลับตาคน จากนั้นก็ผลัดกันลงมือข่มขืนผู้ตายจนสําเร็จความใคร่คนละ 1 ครั้ง และช่วงที่ข่มขืนผู้ตายได้ส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ จึงช่วยกันทุบตี รุมทําร้ายโดยใช้มีดแทงข้างหลังไป 2 ครั้ง ก่อนจะหยิบเงินในกระเป๋าผู้ตายที่มีอยู่ประมาณ 6,000 บาท แบ่งคนละครึ่ง เพื่อนําไปซื้อยาเสพติดและเล่นเกม เมื่อได้เงินแล้วก็โยนกระเป๋าใบดังกล่าวทิ้งคลอง และเห็นว่าเรื่องเงียบก็ชวนกันมาขอขมาศพบริเวณจุดเกิดเหตุ จนกระทั่งถูกจับกุมดังกล่าว

พ.ต.อ.วัฒนา ยี่จีน ผกก.สน.หัวหมาก กล่าวว่า

ขณะนี้หญิงสาวที่เสียชีวิตยังไม่ทราบว่าเป็นใคร โดยได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนนําภาพถ่ายผู้ตายตระเวนสอบถามประชาชนละแวกใกล้เคียง จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีใครมายืนยันว่าเป็นญาติ หากประชาชนคนไหนที่สงสัยว่าญาติตัวเองหายไปก็ขอให้มาดูรายละเอียดผู้ตายได้ที่โรงพัก ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาพบว่าเคยก่อเหตุชิงทรัพย์มาหลายราย หากผู้เสียหายคนใดเคยถูกชิงทรัพย์มาดูตัวผู้ต้องหาได้ที่ สน.หัวหมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

หลังจากเจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว ก็ได้นําตัวไปทําแผนประกอบคํารับสารภาพทันที บริเวณใต้สะพานลอยข้ามแยกลำสาลี โดยมีประชาชนจํานวนมากที่ทราบข่าวต่างพากันมาดูการทําแผนในครั้งนี้ โดยใช้กำลังสายตรวจหลายนายคอยคุ้มกันผู้ต้องหาทั้ง 2 รายนี้ เกรงจะถูกประชาทัณฑ์ ใช้เวลาทําแผนประมาณ 20 นาที จึงเสร็จสิ้น และควบคุมตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมที่ สน.หัวหมาก

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์