สมีคำ-น้องชาย อ่วม! เจอตอกกลับสารพัดข่าว

สมีคำ-น้องชาย อ่วม! เจอตอกกลับสารพัดข่าว

ดีเอสไอเรียกสุริตรวจดีเอ็นเอ เมียอดีตเณรคำปัดมีสัมพันธ์กับน้องชาย ศิลปากรเปิดผลตรวจหินสร้างพระแก้วมรกตจำลอง

วานนี้ (25 ก.ค.) ที่กระทรวงยุติธรรม นางคริสตี้ แอนด์ เคนนีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศ ไทย เดินทางเข้าพบนายชัยเกษม นิติสิริ รมว.ยุติธรรม เพื่อเยี่ยมคารวะหลังเข้ารับตำแหน่งจากนั้นได้พูดคุยกันโดยใช้เวลาราว 30 นาที

นายชัยเกษมกล่าวว่า การทำเรื่องให้สหรัฐส่งตัวเณรคำกลับไทยนั้น ต้องรอให้ดีเอสไอสรุปสำนวนก่อน
 
เพราะช่องทางการส่งผู้ร้ายข้ามแดนหรือผลักดันกลับประเทศ สามารถทำได้ 2 ช่องทาง แต่ต้องพิจารณาตามความเหมาะสมของจังหวะเวลา ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานงานระหว่างไทยกับสหรัฐ เนื่องจากกระบวนการยุติธรรมต้องรับฟังทุกฝ่าย

ขณะที่ พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผบ.สำนักกิจการต่างประเทศและคดีอาชญา กรรมระหว่างประเทศระบุว่า
 
กงสุลไทยประจำสหรัฐได้ส่งข้อมูลของเณรคำไปให้หน่วยงานต่าง ๆ ในสหรัฐแล้ว ด้าน พ.ต.ท.พงษ์อินทร์ อินทรขาว ผบ.สำนักคดีความมั่นคง ดีเอสไอ ให้สัมภาษณ์ว่า หลังนายสุริ สุขผล น้องชายของสมีคำกับนายสุขุม วงประสิทธิ ลูกศิษย์ออกมาแถลงข่าวยืนยันเป็นชายหัวโล้นที่ถ่ายภาพนอนกับผู้หญิงนั้น ขณะนี้ทางดีเอสไอกำลังติดต่อให้นายสุริมาให้ปากคำ พร้อมกับจะตรวจดีเอ็นเอของนายสุริ เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงว่าเป็นพ่อเด็กหรือไม่

ส่วนการตรวจสอบรถยนต์ที่อยู่ในความครอบครองของสมีคำพบว่ามีชื่อเป็นผู้ครอบครองจำนวน 80 คัน
 
ส่วนใหญ่รถได้ถูกแจกจ่ายให้กับพระผู้ใหญ่ในพื้นที่ สำหรับรถโรลส์รอยซ์ 3 คัน ล่าสุดเจ้าหน้าที่เจอรถทั้ง 3 คันแล้ว โดยรถทั้งหมดได้เคลื่อนย้ายมาเก็บไว้ในกรุงเทพฯ แต่ยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้ เพราะกำลังอยู่ในขั้นตอนประสานเจ้าของรถนำรถมาตรวจสอบและให้ปากคำ

ดร.สมชาติ วงศ์ธราธร ทนายความของ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อดีตเมียเณรคำ ที่ออกมาอ้างว่ามีความสัมพันธ์กับเณรคำจนมีบุตรด้วยกัน 1 คน
 
ระบุว่า ลูกความของตนยืนยันว่าชายที่มีความสัมพันธ์จนมีบุตรด้วยกันคืออดีตเณรคำ ไม่ใช่นายสุริน้องชายของเณรคำ โดยขณะนี้กำลังเตรียมหลักฐาน ข้อมูลต่าง ๆ เพื่อฟ้องนายสุริน้องชายเณรคำข้อหาหมิ่นประมาททำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง เพราะทั้งพยานบุคคล พยานแวดล้อมและพยานทางนิติวิทยาศาสตร์ เชื่อได้ว่าลูกความของตนนั้นเป็นภรรยาของอดีตเณรคำจริง รวมทั้งบุตรก็เป็นลูกของคนทั้งคู่

อีกด้านหนึ่ง นายขจร มุกมีค่า ผอ.สำนักศิลปากรที่ 11 จ.อุบลราชธานี
 
กล่าวว่าจากการตรวจสอบชิ้นส่วนหินที่เณรคำอ้างว่าเป็นหินหยกสร้างพระแก้วมรกตจำลอง จากการตรวจสอบพบว่าไม่ใช่หินหยกตามที่อ้าง โดยเมื่อนำไปทดสอบเผาไฟ ปรากฏว่าหินโดนไฟไหม้และเมื่อนำมาทำปฏิกิริยากับกรด ได้เกิดฟองก๊าซและมีการกัดกร่อนอย่างเห็นได้ชัด หรือนำไปขูดหรือขัดกับกระจกและโลหะ หินจะเกิดร่องและสึกหรอได้ง่าย ซึ่งไม่ใช่คุณสมบัติของหยก แต่มีลักษณะคล้ายหินอ่อนหรือหินปูนมากกว่า

ขณะที่นายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายรวมพลังต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
 
เปิดเผยว่า หลังจากกลุ่มลูกศิษย์ของสมีเณรคำตั้งทนายความมาแก้ต่างคดีนั้น จากการตรวจสอบประวัติของทนายทั้ง 6 คนของเณรคำเป็นคนไทย 5 คน ฝรั่ง 1 คน พบว่าทนายคนไทย 5 คนมีชื่อในฐานข้อมูลสภาทนายความแค่ 4 คน ส่วนทนายต่างชาติไม่มีสิทธิเข้ามาว่าความในศาลยุติธรรมไทย ดังนั้นที่กลุ่มลูกศิษย์ออกมาอ้างว่าตั้งทีมทนายสู้ให้เณรคำนั้น จะส่งผลให้ทนายที่อยู่ในทีมอาจมีความผิดเข้าข่ายตามข้อบังคับสภาทนายความอีกด้วย โดยตนกำลังรวบรวมข้อมูลเพื่อยื่นหนังสือให้สภาทนาย ความดำเนินการตรวจสอบต่อไป.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์