สมภารวัดดังดับ วางยาพิษ ผสมในน้ำอัดลม

เมื่อช่วงสายวันที่ 8 พ.ย. พ.ต.ท.ธีระวัฒน์ เวชวงษ์ พงส. (สบ 3) สภ.สามพราน จ.นครปฐม ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ รพ.ศูนย์นครปฐมว่า

พระครูสังฆรัตน์กิตติพัตโท อายุ 41 ปี เจ้าอาวาสวัดวังน้ำขาว ต.คลองจินดา อ.สามพราน จ.นครปฐม ซึ่งมีอาการคล้ายคนถูกวางยาพิษได้มรณภาพลงแล้ว จึงรายงานให้ พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม ผบก.ภ.จ. นครปฐม พ.ต.อ.ณรงค์ ศุภเอม รอง ผบก. พ.ต.อ.สุรศักดิ์ ปิ่นทอง ผกก.สภ.สามพราน ทราบ จากนั้นเดินทางไปชันสูตรพลิกศพร่วมกับ นพ.ทัศนัย พิพัฒน์โชติธรรม แพทย์เวร รพ.ศูนย์นครปฐม
 

พ.ต.ท.ธีระวัฒน์ เวชวงษ์ พนักงานสอบสวน เจ้าของคดี เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา

ลูกศิษย์ของพระครูสังฆรัตน์มาแจ้งว่า ได้ไปพบพระครูสังฆรัตน์นอนน้ำลายฟูมปาก หมดสติอยู่ในกุฏิเจ้าอาวาสภายในวัดวังน้ำขาว จึงรีบนำตัวส่งให้แพทย์ รพ.สามพราน ล้างท้องช่วยชีวิต ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีใครทราบสาเหตุ จากการตรวจที่เกิดเหตุก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ ทรัพย์สินข้าวของยังอยู่ในสภาพเรียบร้อย ไม่มีการถูกรื้อค้นแต่อย่างใด ในกุฏิพบเพียงขวดน้ำอัดลมยี่ห้อหนึ่งที่พระครูสังฆรัตน์เปิดฉันไปแล้วเหลืออยู่ครึ่งขวด จึงนำส่งให้เจ้าหน้าที่วิทยาการตรวจสอบว่ามีสารพิษอะไรปนเปื้อนอยู่หรือไม่


สอบถามอาการจากแพทย์ รพ.สามพราน ทราบว่า

ในร่างกายของพระครูสังฆรัตน์มีสารพิษปนเปื้อนอยู่ในกระแสเลือด แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นพิษชนิดใด แพทย์ได้ช่วยเหลือในเบื้องต้นไว้ก่อน โดยล้างท้องเพื่อละลายสารพิษ และแนะนำให้ส่งตัวไปที่ รพ.ศูนย์นครปฐม เพราะมีอุปกรณ์การแพทย์ที่ทันสมัยกว่า ลูกศิษย์จึงนำตัวส่งไปรักษา กระทั่งพระครูสังฆรัตน์มรณภาพลงเมื่อเวลา 03.00 น. กลางดึกของคืนที่ผ่านมา


นพ.ทัศนัย พิพัฒน์โชติธรรม แพทย์เวร รพ.ศูนย์นครปฐม ผู้ผ่าพิสูจน์ศพพระครูสังฆ์รัตน์ เปิดเผยว่า

ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยผลการผ่าพิสูจน์ได้ ต้องให้ทางตำรวจเป็นผู้เปิดเผย เพราะอาจจะมีผลกระทบต่อรูปคดี ซึ่งหลังจากที่ผลผ่าพิสูจน์ออกมาแล้ว จะแจ้งผลไปให้พนักงานสอบสวนทราบต่อไป ด้าน พ.ต.อ.สุรศักดิ์ ปิ่นทอง ผกก.สภ.สามพราน เผยว่า คดีนี้เป็นคดีที่น่าสงสัย จะต้องสอบถึงเรื่องการเงินของวัดก่อน เพราะอาจจะมีการขัดผลประโยชน์อะไรกันในวัด ทรัพย์สินของพระครูสังฆรัตน์มีอะไรบ้างที่หายไป ขณะนี้ต้องรอผลพิสูจน์ทั้งน้ำอัดลมและผลชันสูตรศพจากแพทย์ รพ.ศูนย์นครปฐม ว่าเกิดจากการวางยาพิษหรือไม่ หรือป่วยเป็นโรคอะไรหรือไม่ สำหรับศพพระครูสังฆรัตน์ ได้มอบให้ญาติและศิษยานุศิษย์นำกลับไปตั้งสวดอภิธรรมที่วัดวังน้ำขาวแล้ว และจะเปิดเผยผลการชันสูตรศพจากแพทย์ให้ทราบ หลังจากที่ได้รับผลพิสูจน์แล้ว เพื่อจะได้รู้ความจริงว่าพระครูสังฆรัตน์มรณภาพเพราะสาเหตุใด หากเป็นเพราะโรคประจำตัว คดีก็คงปิดได้ แต่ถ้าถูกวางยาพิษ เจ้าหน้าที่ก็จะสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีต่อไป


นายสุพจน์ ปึงเจริญ อายุ 45 ปี กรรมการวัดวังน้ำขาว ผู้ไปพบพระครูสังฆรัตน์นอนน้ำลายฟูมปากอยู่ในกุฏิเล่าว่า

ก่อนเกิดเหตุได้นัดกับเจ้าอาวาสไว้ว่า จะมาพบในตอนเช้าวันที่ 7 พ.ย. เพื่อนำเงินที่ได้จากการทอดกฐินเมื่อวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา จำนวน 1 ล้านบาทเศษ ซึ่งคณะกรรมการวัดได้ตรวจนับเสร็จแล้วมามอบให้พระครูสังฆรัตน์เก็บรักษาไว้ เมื่อมาถึงกุฏิเจ้าอาวาสก็พบว่าประตูกุฏิไม่ได้ล็อก แต่ยังไม่กล้าเข้าไป พยายามเคาะประตูเรียกอยู่นานก็ไม่มีเสียงขานตอบ ตัดสินใจผลักประตูเข้าไป ปรากฏว่าพบพระครูสังฆรัตน์นอนแน่นิ่งน้ำลายฟูมปากอยู่บนพื้น จึงวิ่งออกมาเรียกพระลูกวัดและลูกศิษย์ให้ช่วยกันนำเจ้าอาวาสส่ง รพ.สามพราน ทันที ขณะนั้นยังไม่ทราบว่าท่านฉันอะไรเข้าไป เห็นภายในห้องมีแต่ขวดน้ำอัดลมที่ดื่มหมดไปครึ่งขวดวางอยู่เท่านั้น
 

ขณะที่ นายอุทัย สุนทรศิลปะสังวร อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47 หมู่ 5 ต.คลองจินดา อ.สามพราน พี่ชายของพระครูสังฆรัตน์ เผยว่า

พระครูสังฆรัตน์บวชมากว่า 21 พรรษา กระทั่งได้ขึ้นดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดวังน้ำขาวมาได้ประมาณ 3 ปี ปกติพระครูสังฆรัตน์เป็นผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง ไม่เคยมีโรคประจำตัว และไม่เคยมีอาการเจ็บไข้ได้ป่วยแบบหนักๆมาก่อน เพียงแต่ชอบฉันน้ำอัดลมเป็นประจำทุกวันเท่านั้น ส่วนเรื่องที่อาจถูกปองร้ายก็ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยพบว่าเจ้าอาวาสจะไปมีปัญหากับใคร เป็นพระสงฆ์ที่คนในหมู่บ้านเคารพรักใคร่ จึงไม่น่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้


สำหรับวัดวังน้ำขาว เป็นวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องของวัตถุมงคลและเครื่องรางของขลัง
 
โดยเฉพาะเหรียญรุ่นแรกของพระครูวิบูลย์จินดาพร หรือหลวงพ่อเหว่า อดีตเจ้าอาวาสองค์ก่อน ซึ่งมรณภาพไปเมื่อต้นปี 2548 โดยเหรียญรุ่นดังกล่าวเล่าลือกันว่ามีพุทธคุณในด้านอยู่ยงคงกระพันชาตรี ทำให้เป็นที่ต้องการของบรรดาลูกศิษย์ลูกหาและเซียนพระเครื่องในท้องถิ่น เช่าหากันในราคาหลักหมื่นบาท หลังจากที่หลวงพ่อเหว่ามรณภาพลง พระครูสังฆรัตน์ก็ได้รับการแต่งตั้งให้ขึ้นดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสแทน แต่กระแสศรัทธาของศิษยานุศิษย์ก็ยังไม่เสื่อมคลายลง ทำให้ในแต่ละปีมีรายได้จากการจำหน่ายวัตถุมงคล และเงินจากการทอดกฐิน ทอดผ้าป่าจำนวนมาก กระทั่งมาเกิดเหตุการณ์เศร้าสลดขึ้นดังกล่าว


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์