สนธิ ฟ้อง ผู้การกองปราบ หมิ่นประมาท

โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 21 เมษายน 2549 15:46 น.

สนธิ หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ มอบอำนาจให้ทนายความยื่นฟ้อง ผู้การกองปราบ ฐานหมิ่นประมาท ใส่ความตามที่ให้สัมภาษณ์ระบุ ไม่มีใครพูดหมิ่นชัดเจนเท่ากับนายสนธิอีกแล้ว ทั้งที่ไม่เป็นความจริง โดยศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง 22 พ.ค.นี้ ในขณะที่ทนายลั่น ใครพูดชี้นำอีก จะฟ้องดำเนินคดีทุกราย

วันนี้ (21 เม.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความ ซึ่งรับมอบอำนาจจาก นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เดินทางไปยื่นฟ้อง พล.ต.ต.วินัย ทองสอง ผบก.ป.ในความผิด เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา

ตามคำฟ้องระบุว่า จำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ ตำแหน่ง ผบก.ป.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปฏิบัติหน้าที่พนักงานสอบสวน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และเป็นพนักงานสืบสวนสอบสวนในคดีที่โจทก์ ถูกกล่าวหาว่า เป็นผู้กล่าวถ้อยคำ หมิ่นประมาท ดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ ในหนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก ฉบับลงวันที่ 24 มี.ค.2549 โดยเมื่อวันที่ 18 เม.ย.2549 จำเลยได้บังอาจให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนทุกแขนง ทั้งหนังสือพิมพ์ วิทยุ และโทรทัศน์ ซึ่งข้อความอันเป็นการใส่ความโจทก์โดยเจตนา และสื่อมวลชนต่างๆ ได้รายงานข้อความให้สัมภาษณ์ของจำเลย ทางสื่อสารมวลชนทุกแขนง ทั้งทางสถานีโทรทัศน์ วิทยุ และหนังสือพิมพ์ โดยเฉพาะหนังสือพิมพ์แนวหน้า มติชน ข่าวสด คม ชัด ลึก เดลินิวส์ และหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน ฉบับวันที่ 19 เม.ย.2549 โดยหนังสือพิมพ์แต่ละฉบับ ได้ลงพิมพ์ข้อความที่จำเลยให้สัมภาษณ์ดังนี้

นสพ.แนวหน้า ฉบับวันที่ 19 เม.ย.2549 ลงพิมพ์ข้อความที่จำเลยให้สัมภาษณ์ดังนี้ ป.เดินหน้าออกหมายเรียกสนธิ วันเดียวกัน พล.ต.ต.วินัย ทองสอง ผบก.ป.เปิดเผยความคืบหน้าคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ที่พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียก นายสนธิ และแกนนำพันธมิตรฯ ว่า ขณะนี้ พนักงานสอบสวนได้ทำการออกหมายเรียก นายสนธิ ไปแล้ว โดยจะให้เวลานายสนธิ เข้ารับทราบข้อกล่าวหาภายในวันที่ 24 -25 เม.ย.นี้ แต่หากมาไม่ได้ และขอเลื่อนนัดอีก คงจะต้องดูเหตุผลว่า พอจะรับฟังได้หรือไม่ พนักงานสอบสวนมีความมั่นใจว่า จะเอาผิดผู้ถูกกล่าวหาได้ ขณะนี้ ได้สอบสวนพยานไปแล้วกว่า 100 ปาก โดยพนักงานสอบสวนมีหลักฐานทั้งภาพและเสียง ยืนยันว่า พนักงานสอบสวนทำตามขั้นตอนตรงไปตรงมา พล.ต.ต.วินัย กล่าว ผู้สื่อข่าวถามว่า พนักงานสอบสวนเลือกปฏิบัติหรือไม่ ระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคไทยรักไทย กับ นายสนธิ เพราะที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ก็พูดจาพาดพิงเบื้องสูง พล.ต.ต.วินัย กล่าวด้วยเสียงเคร่งขรึม ว่า พูดหมิ่นตรงไหน ให้บอกรายละเอียดมา หมิ่นตรงไหน ที่ผ่านมา ไม่มีใครพูดหมิ่นชัดเจนเท่ากับนายสนธิอีกแล้ว

ส่วนหนังสือพิมพ์ฉบับอื่นๆ ก็ได้ลงตีพิมพ์ข้อความทำนองเดียวกัน ซึ่งข้อความที่จำเลยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนทุกแขนง ว่า ไม่มีใครพูดหมิ่นชัดเจนเท่ากับนายสนธีอีกแล้วนั้น เป็นข้อความใส่ความโจทก์ต่อบุคคลที่ 3 โดยประการที่น่าจะทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง เพราะถ้อยคำที่จำเลยกล่าวนั้น บุคคลทั่วไปที่ได้ฟังจากสถานีโทรทัศน์ สถานีวิทยุ และจากการอ่านหนังสือพิพม์ดังกล่าว ย่อมเข้าใจว่า โจทก์เป็นเป็นคนไทยที่ไม่ให้ความเคารพต่อพระมหากษัตริย์ เป็นผู้กล่าวถ้อยคำอันเป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ อันเป็นการกระทำความผิดต่อกฎหมายอาญา ทั้งที่ความจริงแล้ว โจทก์ไม่ได้กล่าวถ้อยคำใด อันจะเป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ ตามที่มีผู้แจ้งความให้ดำเนินคดีกับโจทก์แต่อย่างใด อีกทั้งโจทก์ไม่เคยแม้แต่จะคิดที่จะกระทำการใด อันจะทำให้ต้องระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท แต่ประการใดทั้งสิ้น โจทก์เพียงแต่ถูกแจ้งความให้ดำเนินคดี และเป็นเพียงผู้ต้องหาเท่านั้น

ตามคำฟ้องระบุอีกว่า ข้อความที่หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก ตีพิมพ์เผยแพร่ อ้างว่า โจทก์เป็นผู้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก นั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใดทั้งสิ้น และหนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก ก็ประกาศต่อสาธารณชนแล้วว่า ข้อความที่ลงพิมพ์นั้น ไม่ใช่คำพูดของโจทก์ แต่เป็นความผิดพลาดคลาดเคลื่อนของผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก เอง ซึ่งจำเลยในฐานะพนักงานสอบสวน ผู้รับผิดชอบคดีนี้ ก็ทราบการแถลงข่าวของหนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก เป็นอย่างดี แต่ที่จำเลยกล่าวถ้อยคำดังกล่าว จึงเป็นการใส่ความโจทก์ โดยประการที่น่าจะทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชังได้ จึงเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 326 ประกอบมาตรา 328

ศาลรับคำฟ้องไว้ และนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 22 พ.ค.เวลา 13.30 น.

ภายหลัง นายสุวัตร ให้สัมภาษณ์ว่า ในวันไต่สวนมูลฟ้อง จะนำตัว นายสนธิ และผู้ที่เกี่ยวข้องมาทำการไต่สวนมูลฟ้องโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม หากมีใครมาให้สัมภาษณ์ชี้นำ ในลักษณะนี้อีกว่า นายสนธิ ได้ทำผิดกฎหมาย แล้ว ทางเราก็จะฟ้องดำเนินคดีทุกคน เพราะทราบว่าเรื่องนี้มีการชักนำ มีการชักนำไปสู่ประเด็นการเมืองเพื่อให้เกิดความวุ่นวาย ซึ่งตนเห็นว่า ไม่สามารถอาศัยตำรวจได้ จึงต้องมาพึ่งพาศาล เพระที่ผ่านมาเห็นได้ว่าคดีที่นายวีระ สมความคิด ยื่นฟ้อง หรือคดีหมิ่นฯที่พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกแจ้งความดำเนินคดีไม่มีความคืบหน้า แต่คดีที่นายสนธิและแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยตกเป็นจำเลย คดีกลับดำเนินไปได้เร็วมาก