สตอ.ถูกยิงดับ-เพื่อน2คนโบ้ยกันนัว


ใครฆ่า? - ตำรวจคุมตัวส.ต.อ.กฤตยา ไชยมาส (คนกลาง) กับนายสุเทพ กันทะ (เสื้อยืดสีเขียว) จำลองเหตุการณ์ที่ส.ต.อ.ณรงค์ อากิม สังกัดสำนักงานวิทยาการ ภ.จว.อ่างทอง ถูกยิงตายริมถนนในอ.เมืองอ่างทอง โดยทั้งคู่ซึ่งเป็นเพื่อนผู้ตายต่างให้การซัดกันไปมานัวเนีย เมื่อวันที่ 24 พ.ค.
"ส.ต.อ."สังกัดกองพิสูจน์หลักฐาน จ.อ่างทอง ตายปริศนา กลายเป็นศพถูกยิงเจาะหัวอยู่กลางทุ่งนา เผยก่อนเกิดเหตุผู้ตายมาเข้าเวร นั่งกินเหล้าอยู่กับเพื่อน ส.ต.อ. ที่เรียนจบมารุ่นเดียวกัน และทำงานอยู่ที่เดียวกัน พร้อมกับคนนอกอีก 1 คน หลังจากนั้นทั้งหมดจึงชักชวนกันไปช่วยงานบวชคนรู้จัก จนกระทั่งขากลับเหยื่อกระสุนจึงถูกยิงปริศนา โดยที่เพื่อนตร.กับเพื่อนที่ไปด้วยกัน ต่างปฏิเสธพัลวันว่าไม่ได้ฆ่า ตร.เผยพอมีคำเฉลยในใจแล้ว เพียงแต่รอพยานหลักฐานอีกเล็กน้อยเท่านั้น คาดไม่นานตั้งข้อหาได้

เมื่อเวลา 10.10 น. วันที่ 24 พ.ค. ร.ต.ท.จีระโชติ กันทเนตร ร้อยเวรฯ สภ. เมืองอ่างทอง

รับแจ้งเหตุตำรวจถูกยิงตายที่บริเวณถนนสายคลองวัว-มหาดไทย หมู่ 4 ต.มหาดไทย อ.เมืองอ่างทอง หลังรับแจ้งจึงรายงานพ.ต.อ.รวีโรจน์ กองกันภัย ผกก.สภ. เมืองอ่างทอง พ.ต.ท.พีรพันธุ์ จันทร์เทียน รอง ผกก.สส.ภ.จว.อ่างทอง เจ้าหน้าที่วิทยา การ รุดไปตรวจสอบ

เมื่อไปถึงพบที่เกิดเหตุเป็นถนนเปลี่ยวกลางทุ่งนา พบศพส.ต.อ.ณรงค์ อากิม อายุ 38 ปี ตำรวจสังกัดสำนักงานวิทยาการ ภ.จว. อ่างทอง นอนหงายอยู่บนถนน สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. เข้าที่ศีรษะ 1 นัด ตายในชุดสวมกางเกงขายาวสีกากี สวมเสื้อยืดสีแดง สวมทับด้วยเสื้อคลุมแขนยาวสีดำ ด้านหลังปักตัวอักษรสีเหลือง "พิสูจน์หลักฐาน" ที่เอวพบเพียงซองอาวุธปืนพก ส่วนอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. ยี่ห้อบาเร็ตต้า ซึ่งเป็นของผู้ตาย ตกอยู่ในพงหญ้าห่างศพเล็กน้อย ซึ่งปืนอยู่ในสภาพขัดลำกล้อง มีกระสุนติดคาอยู่ในช่องสลัดปลอก ที่พื้นดินพบกระสุนปืน 1 นัด และปลอกกระสุน 2 ปลอก ในแม็กกาซีนเหลือกระสุน 6 นัดจึงเก็บไว้ตรวจสอบ

จากการสอบสวนทราบว่า
 
ก่อนเกิดเหตุ ส.ต.อ.ณรงค์ หรือ "กิม" ได้มาเข้าเวรที่สำนักงานในตอนกลางคืน และนั่งดื่มสุรากับ ส.ต.อ.กฤตยา ไชยมาส อายุ 38 ปี ซึ่งทำงานอยู่ที่เดียวกัน และยังเป็นเพื่อนร่วมรุ่น นพต.5 จ.สระบุรี มาด้วยกัน นอกจากนี้ ยังมีนายสุเทพ กันทะ อายุ 34 ปี บ้านอยู่ ต.ท่าม่วง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ที่มารับจ้างเฝ้ารถบรรทุกพ่วงให้กับบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งรถถูกจับกุมในข้อหาบรรทุกน้ำหนักเกินพิกัด โดยอยู่มานานกว่า 1 เดือน จนสนิทสนมกัน

หลังจากออกเวร ส.ต.อ.กฤตยา ได้ชัก ชวนส.ต.อ.ณรงค์กับนายสุเทพ ไปร่วมงาน บวชคนรู้จักซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ โดย ส.ต.อ. กฤตยา เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นโนวาแด็ซ สีแดง หมายเลขทะเบียน กฉก-99 อ่างทอง ซึ่งเป็นรถของ ส.ต.อ.ณรงค์ ไปงานบวช หลังจากนั้นจึงเดินทางกลับจนกระทั่งมีคนมาพบศพส.ต.อ. ณรงค์ถูกฆ่าดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุอยู่นั้น ก็ได้รับรายงานว่า

ส.ต.อ.กฤตยา ได้ขับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวไปยังสภ.เมืองอ่างทอง โดยมีอาการเครียด ร้องไห้บ่นพึมพำ พูดซ้ำๆ ว่า "ไม่น่าทำ" เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวไว้สอบสวน ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ก็ได้รับการติดต่อจากนายสุเทพ ที่ได้ขอยืมโทรศัพท์ชาวบ้านโทร. ติดต่อกับญาติให้พาตำรวจไปรับตัวมาให้ปากคำเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ โดยนายสุเทพ มีบาดแผลถูกกิ่งไม้และหนามขีดข่วนไปทั่วตัว รองเท้าเปรอะเปื้อนโคลน เจ้าหน้า ที่จึงตรวจเขม่าปืนเพื่อหาหลักฐาน และแยกทั้งคู่ไปสอบเค้นอยู่หลายชั่วโมง แต่ทั้งสองคนต่างฝ่ายต่างปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้ลงมือฆ่าส.ต.อ.ณรงค์

ต่อมาเวลา 15.00 น. พ.ต.อ.รวีโรจน์ พ.ต.อ.สมเกียรติ ประสมศรี ผกก.วท.12 พระนครศรีอยุธยา พ.ต.ท.ญ.ธัญยธรณ์ นารอง นวท.(ว.สบ.2) หน.วท.จว.อ่างทอง พร้อมเจ้าหน้าที่นำตัวส.ต.อ.กฤตยา และนายสุเทพ ไปทำแผนจำลองเหตุการณ์ในที่เกิดเหตุเพื่อหาหลักฐานและจับพิรุธในการคลี่ คลายคดี

โดยส.ต.อ.กฤตยาทำแผนจำลองเหตุการณ์เป็นคนแรก อธิบายว่า
 
เป็นผู้ขับขี่รถจักร ยานยนต์มาจอดในที่เกิดเหตุเพื่อปัสสาวะ หลังจากจอดรถ ส.ต.อ.ณรงค์ ได้นั่งอยู่ที่รถ ตนจึงขอยืมอาวุธปืนจาก ส.ต.อ. ณรงค์ที่ซื้อมาได้ประมาณ 1 ปี มาทดลองยิงลงทุ่งนาด้วยมือซ้าย 1 นัด โดยตนยืนอยู่หน้ารถ เมื่อยิงเสร็จได้ส่งปืนให้นายสุเทพที่ยืนอยู่ถัดไปได้ทดลองยิง ขณะที่หันหลังจะเดินไปหา ส.ต.อ.ณรงค์ ปรากฏว่าได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด และเห็นส.ต.อ.ณรงค์ล้มลง จากนั้นเห็นนายสุเทพวิ่งหลบหนี อย่างไรก็ตาม กระสุนนัดดังกล่าวเฉี่ยวไหล่ขวาของตนจนเสื้อเป็นรู และมีบาดแผลเล็กน้อย ซึ่ง ส.ต.อ. กฤตยา ได้เปิดเสื้อโชว์บาดแผลให้ดู พบว่ามีบาดแผลถลอก และรูที่เสื้อยืดสีขาวมีคราบเขม่าดินปืนจับ วิถีกระสุนมีลักษณะยิงจากด้านหน้าจากองศาต่ำไปหาองศาสูง ซึ่งไม่ใช่การยิงมาจากด้านหลังแต่อย่างใด และที่สำคัญ หากกล่าวหาว่านายสุเทพเป็นคนทำ ก็ยังไม่มีเหตุผลหักล้างว่านายสุเทพ ซึ่งมีอาวุธปืนอยู่ในมือ จะทิ้งอาวุธปืนแล้ววิ่งหนีไปเพื่ออะไร ถึงแม้ปืนจะขัดลำกล้อง แต่ก็ยังมีกระสุนอีกหลายนัด และน่าแปลกตรงที่ ส.ต.อ.กฤตยา ไม่รีบขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน แต่กลับขับรถมาที่โรงพัก

ด้านนายสุเทพ จำลองเหตุการณ์พร้อมให้การว่า

ขณะขับรถมาถึงที่เกิดเหตุได้บอกให้ส.ต.อ.กฤตยา จอดรถเพื่อลงไปปัสสาวะ โดยส.ต.อ.ณรงค์กับส.ต.อ.กฤตยา ยืนปัสสาวะอยู่ตรงรถ ส่วนตนเดินข้ามไปอีกฝั่งถนน จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้นและเห็น ส.ต.อ. ณรงค์ล้มลง ด้วยความตกใจกลัว ตนจึงวิ่งหลบหนี และขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านโทรศัพท์ติดต่อญาติให้พาตำรวจไปรับตัวเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนำตัวกลับมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่โรงพัก

พ.ต.อ.รวีโรจน์ กล่าวว่า
 
ผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 ยังให้การปฏิเสธ จึงต้องสอบปากคำต่อไป และยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาใดๆ จึงปล่อยตัวชั่วคราว ทั้งนี้ ต้องรอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ส่งไปตรวจมาประกอบหลักฐานเพิ่มเติม คาดว่าวันที่ 25 พ.ค. น่าจะรู้ผล อย่างไรก็ตาม หลักฐานที่ได้ในวันนี้ ได้ตั้งธงตัวผู้ต้องหาไว้แล้ว และพร้อมให้โอกาส แต่ผู้ต้องสงสัยกลับปฏิเสธข้อเสนอแนะ อาจคิดว่ามีความรู้มีชั้นเชิงพอที่จะแก้หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ก็เป็นได้ แต่เราก็มั่นใจในพยานหลักฐานที่มีอยู่

รายงานข่าวแจ้งว่า
 
ส.ต.อ.ณรงค์กับ ส.ต.อ.กฤตยา เป็นเพื่อนร่วมรุ่น นพต.5 จ.สระบุรี ปี 2539 จบออกมาบรรจุเป็นพลสำรองพิเศษที่ ภ.จว.อ่างทองพร้อมกัน ซึ่งทั้งคู่อยู่หน่วยงานเดียวกันมาตลอด เป็นเพื่อนรักกัน แต่ก็มีเรื่องหมางใจกันลึกๆ ในการทำงาน โดยเฉพาะเรื่องส่วนตัวของส.ต.อ. กฤตยา ที่แอบไปมีผู้หญิงคนใหม่ จนภรรยา ส.ต.อ.กฤตยา ต้องขอร้องให้ส.ต.อ.ณรงค์ พาไปดูบ้านผู้หญิงที่แฟนไปติดพันจน ส.ต.อ. กฤตยาไม่พอใจ เคยทำร้ายร่างกาย ส.ต.อ. ณรงค์ได้รับบาดเจ็บมาแล้ว

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์