สงกรานต์สังเวย95ศพ เจ็บเฉียดพันย่างเข้าวันที่2โคราชแชมป์

ยอดเริ่มพุ่งอุบัติเหตุสงกรานต์วันที่ 2 เซ่นสังเวยไปแล้ว 95 ศพ บาดเจ็บ 992 ราย เผยประเดิมวันแรกยอดตาย-เจ็บน้อยกว่าปีที่แล้ว ผ่านไปสองวันยอดวิ่งกระฉูดตามเคย ระบุเกิดเหตุถี่ยิบ 930 ครั้ง “โคราช” ตายมากสุด 5 ศพ ขณะที่ “ยโสธร-อำนาจเจริญ-นราธิวาส” สุดเจ๋งไร้เหตุรถเฉี่ยวชนกัน “ปภ.” สั่งคุมเข้มตรวจวัดแอลกอฮอล์ขาโจ๋ จยย.เล่นน้ำ พร้อมกำชับเข้มงวดร้านค้าไม่ให้จำหน่ายสุราให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี

ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) วันที่ 12 เม.ย.นายถวัลย์รัฐ อ่อนศิระ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการแถลงข่าวสถิติอุบัติเหตุทางถนนวันที่สองของ การเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ (11 เม.ย.) โดยมีอุบัติเหตุทางถนนรวม 538 ครั้งน้อยกว่าสถิติปี 51 จำนวน 205 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตจาก อุบัติเหตุ 59 ราย ซึ่งเป็นจำนวนผู้เสียชีวิตเท่ากับปี 51 ส่วนผู้บาดเจ็บ 582 ราย น้อยกว่าปี 51 จำนวน 272 ราย ส่งผลให้ยอดอุบัติเหตุ สะสม 2 วัน เกิดอุบัติเหตุรวม 930 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 95 ราย และผู้บาดเจ็บจำนวน 992 ราย  
 
ทั้งนี้สาเหตุหลักของอุบัติเหตุเกิดจากเมาแล้วขับ และขับรถเร็วเกินกำหนด จึงขอกำชับให้จังหวัดปรับแผนการปฏิบัติงานเน้น ตรวจจับผู้ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์อย่างเข้มข้นบนถนนสาย รอง โดยเฉพาะพื้นที่ที่จัดให้เล่นน้ำ และงานบุญตามประเพณีของท้องถิ่น
 
รองปลัดคมนาคม กล่าวอีกว่า ในส่วนของยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดเป็นรถจักรยานยนต์ ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรงร้อยละ 61.52 เกิดบนถนน อบต.และหมู่บ้าน ร้อยละ 31.41 และเกิดบนถนนทางหลวงแผ่นดินร้อยละ 36.43

โดยช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด เป็นช่วงกลางคืน ร้อยละ 64.68 โดยเฉพาะช่วงเวลา 16.01-20.00 น. ส่วนผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยแรงงาน อายุระหว่าง 20-49 ปี สำหรับจังหวัดที่ยังไม่เกิดอุบัติเหตุมี 3 จังหวัด ได้แก่ ยโสธร อำนาจเจริญ และนราธิ  วาส ส่วนจังหวัดที่มีอุบัติเหตุสูงสุดมี 2 จังหวัด จังหวัดละ 27 ครั้ง คือ นครศรีธรรมราช และบุรีรัมย์ จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด จำนวน 5 คน คือ นครราชสีมา
 
จังหวัดที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บสูงสุดคือ บุรีรัมย์และนครศรีธรรมราช จังหวัดละ 26 คน
ทั้งนี้จากการตั้งจุดตรวจหลัก 3,028 จุด เรียกตรวจยานพาหนะ 716,317 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดีตามมาตรการ 3 ม.2ข.1ร. รวม 218,276 ราย ส่วนใหญ่เป็นกรณีไม่มีใบขับขี่ 18,232 ราย รองลงมาไม่สวมหมวกนิรภัย 17,638 ราย “นอกจากนี้ยังกำชับให้เจ้าหน้าที่สรรพสามิต และตำรวจกวดขันร้านค้าให้จำหน่ายสุราได้เฉพาะช่วงเวลา 11.00-14.00 น. และ 17.00-24.00 น. และไม่ให้จำหน่ายสุราแก่ผู้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”  ด้านนายอนุชา โมกขะเวส อธิบดี ปภ. กล่าวว่า ได้กำชับให้จังหวัดกำหนดมาตร การเสริมความปลอดภัยในเขตพื้นที่ที่มีการเล่นน้ำเป็นพิเศษ เพราะสภาพถนนเปียกและลื่นจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนน และให้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเล่นน้ำตามกรอบวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามของไทย
 
หากพื้นที่ใดมีการจำหน่ายปืนฉีดน้ำที่มีลักษณะเป็นกระบอกสูบหรือใช้แรงอัดสูงให้จับกุมทันที เนื่องจากอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้เล่นน้ำ สำหรับจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวทางน้ำให้กวดขันผู้ประกอบการให้ปฏิบัติตามข้อบังคับเกี่ยวกับการเดินเรือเป็นพิเศษ โดยห้ามไม่ให้บรรทุกผู้โดยสารเกินอัตราที่กำหนด
 
ขณะเดียวกัน บริเวณถนนสายวิเศษ-บางจัก (ถนนสายข้าวสุก) อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง มีพระ-เณรจำนวนมากถือป้ายเดิน รณรงค์เมาไม่ขับไปตามถนนก่อนเข้าไปที่ตลาดศาลเจ้าโรงทอง ถือป้ายรณรงค์มีข้อความว่า งานบุญ ปลอดเหล้า กุศลแรง เลี้ยงเหล้างานบุญบาป สงกรานต์สนุกปลอดภัยไร้แอลกอฮอล์ พร้อมแจกสติกเกอร์-แผ่นรณรงค์ด้วย
 
ขณะที่อุบัติเหตุบนท้องถนนยังคงเกิดขึ้นอยู่อย่างต่อเนื่อง เริ่มจาก จ.พิษณุโลก โดยพื้นที่ สภ.บางระกำ เกิดอุบัติเหตุรถชนกัน บริเวณถนนสายพิษณุโลก-นครสวรรค์ หลัก กม.ที่ 109-110 หมู่ 2 บ้านวังเป็ด โดยรถทัวร์ปรับอากาศสองชั้น ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สีขาว-เหลือง-ม่วง จอดขวางอยู่กลางถนนกระจกหน้าและข้างรถแตกได้รับความเสียหาย  ผู้โดยสารปลอดภัยทุกคน
 
หน้ารถทัวร์พบศพนางภาวินี เหล่าเขตกิจ อายุ 21 ปี  กำลังตั้งครรภ์อ่อนนอนจมกองเลือด ภายในคูน้ำมีรถสิบล้อ ทะเบียน 80-8957 สุโขทัย พลิกคว่ำอยู่มีผู้เสียชีวิตติดอยู่ในซากรถ 3 ราย บาดเจ็บอีก 10 กว่าคน สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุรถ   บรรทุกขนคนงานมาจาก จ.ปทุมธานี มุ่งหน้ากลับไปเยี่ยมบ้านที่ อ.สวรรคโลก มาถึงที่เกิด  เหตุรถทัวร์พยายามจะแซง แต่แซงไม่พ้นทำให้  เสียหลักพุ่งชนท้ายรถบรรทุก จนพุ่งตกข้างทางมี  ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว
 
ด้าน จ.นครศรีธรรมราช สังเวยไป 3 ศพ รายแรก พื้นที่ สภ.หัวไทร รถพ่วง 18 ล้อพุ่งชนนายชวน สุวรรณขันธ์ อายุ 83 ปี เสียชีวิตขณะกำลังข้ามถนนบริเวณหลัก กม.ที่ 71 หมู่ 5 บ้านหน้าสตน
 
 
รายต่อมาพื้นที่ สภ.เมืองนครศรีฯ ผู้เสียชีวิตคือนายไพรัตน์ หมอกแก้ว อายุ 27 ปี ประสบอุบัติเหตุรถกระบะพุ่งชนขณะ ขี่ จยย. สุดท้าย จยย.พุ่งชนต้นไม้บนถนนสายนครศรี-พระพรหม ต.ไชยมนตรี ทำให้นายเด่นชัย ขาวเมือง อายุ 41 ปี เสียชีวิต ส่วน จ.ร้อยเอ็ด มีอุบัติเหตุ จยย.ชนกับรถกระบะ บริเวณสี่แยกทางเข้าบ้านสะอาดสมบูรณ์ หมู่ 6 ต.สะอาดสมบูรณ์ ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือนายสมเกียรติ พิศวงปราการ อายุ 35 ปี.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์