ศุลกากรภาค4จับ3ผู้ต้องหานำเข้าตัวนิ่ม110ตัวส่งขายจีน

ศุลกากรภาคที่ 4 จับกุม 3 ผู้ต้องหา ลักลอบนำเข้าตัวนิ่มกว่า 100 ตัวจากประเทศอินโดนีเซีย เตรียมส่งขายจีน

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 10 พฤศจิกายน ที่ฝ่ายสืบสวนและปราบปราม (ทักษิณ10) สำนักงานศุลกากรภาคที่ 4 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายราฆพ ศรีศุภอรรถ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภาคที่ 4 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศุลกากรภาคที่ 4 ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม 3 ผู้ต้องหาลักลอบนำเข้าสัตว์ป่าประเภทตัวนิ่มจากต่างประเทศเข้ามาในราชอาณาจักร ทั้งนี้นายราฆพ ระบุว่า การจับกุมตัวนิ่มในครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งที่ 2 แล้วในรอบปี ที่ทางเจ้าหน้าที่ศุลกากรภาคที่ 4 สามารถจับกุมได้ โดยครั้งแรกสามารถจับกุมและตรวจยึดตัวนิ่มได้จำนวน 71 ตัว  

โดยครั้งนี้สามารถจับกุมตรวจยึดได้ 110 ตัว พร้อมผู้ต้องหา 3 คน ประกอบด้วย

นายประสงค์ หาทวี อายุ 35 ปี ชาวอุบลราชธานี นายซุลกิฟลี สาและ อายุ 29 ปี ชาวนราธิวาส และนายจันทรดร แพ่งเหล็ก อายุ 39 ปี ชาวนครพนม นอกจากนี้ยังได้ยึดรถกระบะโตโยต้า วีโก้ 3 คัน ทะเบียน ตฎ 587 กรุงเทพมหานคร  ทะเบียน ตม 9495 กรุงเทพมหานคร ทะเบียน สฮ 1868 กรุงเทพมหานคร เป็นของกลางที่ใช้ลักลอบขนตัวนิ่มดังกล่าวด้วย 

นายราฆพ กล่าวว่า อธิบดีกรมศุลกากร ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรเพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำสัตว์ป่า

โดยเฉพาะสัตว์ป่าสงวนนำเข้าหรือส่งออกนอกราชอาณาจักรตามแนวชายแดนทางภาคใต้ ซึ่งรวมถึงสินค้าและสิ่งของอื่นที่หลีกเลี่ยงภาษีด้วย กระทั่งในช่วงเย็นของวันที่ 8 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ศุลกากรภาคที่ 4 นำโดยนายสมศักดิ์ สุขสมโตร์ หัวหน้าฝ่ายสืบสวนและปราบปราม สืบทราบว่าจะมีการลักลอบขนตัวนิ่มที่ลักลอบนำเข้ามาจากประเทศอินโดนีเซียเตรียมนำส่งต่อไปยังพื้นที่ภาคกลาง ก่อนที่จะส่งออกไปยังประเทศจีน ซึ่งตัวนิ่มเหล่านี้จะถูกฆ่าเพื่อบริโภค โดยเชื่อว่าเกล็ดและเนื้อของตัวนิ่มเป็นยาบำรุงกำลังอย่างดี


สำหรับตัวนิ่มจำนวนดังกล่าวถูกนำมาพักซ่อนไว้ที่บริเวณสวนยางพาราแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่

ทางเจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบพบรถยนต์กระบะทั้ง 3 คัน มีตัวนิ่มขนาดใหญ่และเล็กปะปนกันซุกซ่อนอยู่ที่บริเวณท้ายกระบะจำนวนมาก ซึ่งผู้ต้องหาได้ตบตาเจ้าหน้าที่ด้วยการนำไม้ยางพาราและมะพร้าวแก่วางไว้ข้างบนโต๊ะที่ทำขึ้นมาเป็นพิเศษ มีขนาดพอดีกับบริเวณส่วนท้ายกระบะของรถยนต์ จากนั้นได้นำตัวนิ่มซุกไว้ใต้โต๊ะดังกล่าวโดยมีไม้ยางพาราและมะพร้าวแก่วางอยู่ข้างบนของโต๊ะ เตรียมขนย้ายไปยังพื้นที่ภาคกลางเพื่อนำไปกรอกแป้งเปียกลงกระเพาะเพิ่มน้ำหนักก่อนส่งขายต่างประเทศ เนื่องจากตัวนิ่มนั้นจะซื้อขายแบบชั่งกิโลกรัมต่อ 1 ตัว ดังนั้นตัวนิ่มทั้งหมดที่ตรวจยึดได้ในครั้งนี้มีน้ำหนักรวมทั้งสิ้น 1,000 กิโลกรัม รวมมูลค่าประมาณ 1 ล้านบาท

โดยผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ทั้ง 3 คนนั้น ยอมรับว่าเป็นเพียงผู้ถูกว่าจ้างให้มารับตัวนิ่มในพื้นที่ ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ และจะนำส่งไปยังพื้นที่ภาคกลาง จากนั้นจะมีคนมารับไปอีกทอดหนึ่ง โดยได้ค่าจ้างเที่ยวละ 10,000 บาท

อย่างไรก็ตามผู้ต้องหาทั้ง 3 คนนี้จะถูกดำเนินคดีในข้อหากระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469 และ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ส่วนตัวนิ่มจะได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ป่าไม้เพื่อนำไปปล่อยคืนสู่ป่าต่อไป สำหรับตัวนิ่มนั้น เป็นสัตว์ป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์ตามอนุสัญญาไซเตส (CITES) ชนิดพันธุ์ในบัญชีหมายเลข 2 คือ เป็นชนิดพันธุ์ของสัตว์ป่าและพืชป่าที่ยังไม่ถึงกับใกล้จะสูญพันธุ์ จึงยังอนุญาตให้ค้าได้ แต่ต้องมีการควบคุมไม่ให้เกิดความเสียหายหรือลดปริมาณลงอย่างรวดเร็วจนถึงจุดใกล้จะสูญพันธุ์โดยประเทศที่จะส่งออกต้องออกหนังสืออนุญาตให้ส่งออก และรับรองว่าการส่งแต่ละครั้งจะไม่กระทบกระเทือนต่อการดำรงอยู่ของชนิดพันธุ์นั้นๆในธรรมชาติ และต้องมีใบอนุญาตนำเข้าจากประเทศที่นำเข้าด้วย


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์