ศึกมรดกพลางกูร 2หมื่นล้าน หลานสาวฟ้องยาย

ยักย้าย-ปกปิด ที่ดิน500แปลง ยื่นร้องขอศาล เป็นผจก.มรดก

ศึกมรดกตระกูลพลางกูรมูลค่า 2 หมื่นล้านวุ่น หลานสาววัย 23 ฟ้องยายคัดค้านเป็นผู้จัดการมรดก ระบุที่ผ่านมายักย้ายถ่ายเท ปกปิดทรัพย์สินที่เป็นที่ดินกว่า 500 แปลง และไม่ยอมแบ่งมรดก พร้อมยื่นร้องต่อศาลขอเป็นผู้จัดการมรดกแทน เผยผู้ยื่นศาลเป็นลูกสาวเหยื่อที่พ่อ-แม่ตายในอุบัติเหตุรถแก๊สระเบิดกลางกรุงเมื่อปี 2533

เมื่อวันที่ 21 พ.ย. ที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ถ.เจริญ กรุง ศาลนัดสืบพยานผู้คัดค้านนัดแรก

ในคดีที่นางสมลักษณ์ พลางกูร ร้องขอจัดการมรดกมูลค่า 2 หมื่นล้านบาท ของนายบรรเจิด พลางกูร อดีตอธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน และน.ส.วินิตา เลขะวณิช อายุ 23 ปี หลานสาว เป็นผู้รับร้องคัดค้าน โดยพยานเบิกความว่า นางสมลักษณ์เป็นยายของตน และเป็นผู้จัดการมรดกของนายบรรเจิด ตามคำสั่งของศาลแพ่งกรุงเทพใต้ สำหรับนายบรรเจิดเจ้ามรดกเป็นตา มีบุตร 4 คน คือนางวิสาขา พลางกูร นายอภิรัชต์ พลางกูร นางต้องใจ เลขะวณิช ซึ่งเป็นมารดาของตน และนางศิรินลักษณ์ พลางกูร

ต่อมานางต้องใจถึงแก่ความตายก่อนเจ้ามรดก

ตนจึงเป็นผู้มีสิทธิ์ในการรับมรดกแทนที่ ต่อมานางสมลักษณ์ ผู้จัดการมรดกได้ยักย้ายปกปิดทรัพย์มรดก ทำให้เกิดความเสียหายแก่กองมรดก และไม่จัดการแบ่งทรัพย์มรดกให้เครือญาติตามกฎหมาย จึงขอให้ศาลมีคำสั่งถอนนางสมลักษณ์ออกจากตำแหน่งผู้จัดการมรดก และตั้งตนเป็นผู้จัดการมรดกแทน ตนจบทางด้านกฎหมายจากคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรียนปริญญาโทที่ประเทศอังกฤษ มีกิจการอพาร์ตเมนต์รายได้เดือนละ 4 แสนบาท จึงไม่มีเหตุต้องห้ามตามกฎหมายแต่อย่างใด หลังเบิกความเสร็จแล้ว ศาลได้สอบถามคู่ความทั้งสองฝ่ายว่าประสงค์จะทำการไกล่เกลี่ยกันหรือไม่ เพราะไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งภายในครอบครัว ซึ่งทั้งสองฝ่ายรับว่าจะนำไปปรึกษาญาติๆ ต่อไป

น.ส.วินิตาหรือน้องปุ๊ก เปิดเผยว่าตนเป็นบุตรของนายวราวุธกับนางต้องใจ เลขะวณิช

ทั้งสองคนเสียชีวิตในเหตุการณ์รถแก๊สระเบิดที่ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เมื่อปี 2533 ตอนนั้นตนยังเด็ก ที่ผ่านมาคุณป้าคือน.ส.ธิติมา เลขะวณิช พี่สาวคุณพ่อเป็นคนเลี้ยงดู ตนพบว่าช่วงก่อนคุณตาจะเสียชีวิต และป่วยเป็นโรคสมองเสื่อม มีการโอนขายที่ดินหลายสิบแปลง แต่พอสอบถามญาติฝ่ายคุณแม่ก็ปฏิเสธไม่รู้เรื่องและไม่ยอมรับว่าตนมีสิทธิ์ในกองมรดก แล้วยังมาต่อว่าตน ทำให้ตนต้องสู้เพื่อศักดิ์ศรีของคุณแม่ เรื่องเงินไม่ใช่ประเด็นสำคัญ

นายวราชัย หรือปอง เลขะวณิช น้องชายของผู้คัดค้าน

ซึ่งเดินทางมาเป็นพยานผู้คัดค้านอีกปาก เปิดเผยว่า ตนเรียนคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพราะทนไม่ไหวที่ถูกโกงมรดก ตนพบว่าคุณตามีที่ดิน 530 แปลง โดยเฉพาะที่พัทยามีถึงร้อยแปลงที่ซื้อไว้ตั้งแต่ราคาถูกๆ นอกจากนี้ยังมีทรัพย์สินอื่นๆ อีกแต่ถูกปกปิด คุณตาจึงมีทรัพย์สินมรดกจริง 2 หมื่นล้านบาท ตนเป็นทายาทในฐานะผู้รับมรดกแทนที่ จึงออกสืบหาความจริงพบว่าทรัพย์สินอื่นๆ ถูกซ่อนเร้นและไม่ทำบัญชีทรัพย์สินให้ถูกต้องตอนนี้ตนอยู่กับคุณป้า ซึ่งยังมีคดีฟ้องร้องเป็นคดีอาญาฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จที่ศาลจังหวัดพระโขนง ซึ่งศาลได้นัดในวันที่ 28 พ.ย.นี้

น.ส.ฐิติมา เลขะวณิช กล่าวว่าตนในฐานะเป็นคนอุปการะน.ส.วินิตา กับ นายวราชัย

 หรือน้องปอง อายุ 18 ปี มาตั้งแต่พ่อแม่เขาตาย ตอนนั้นน้องปองอายุ 1 ขวบ ส่วนตนส่งหลานๆ ให้เรียนกฎหมายเพื่อไปสอบเป็นผู้พิพากษา เนื่องจากต้นตระกูลคือพระยาเลขวณิชธรรมวิทักษ์ เคยเป็นรองประธานศาลฎีกา คดีนี้ตนเชื่อว่าเด็กๆ มีสิทธิในการรับมรดกของคุณแม่ ซึ่งเป็นน้องสะใภ้ของตน เจ้ามรดกคือนายบรรเจิดนั้นมีทรัพย์มรดก 2 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่ตกทอดมาจากคุณทวด ตัวนายบรรเจิดเองเป็นคนมัธยัสถ์ ใส่นาฬิกาเรือนละห้าร้อยบาท ไม่กิน ไม่ใช้ แต่ชอบซื้อที่ดินไว้จำนวนมาก ปัจจุบันมีราคามากขึ้นซึ่งควรจะแบ่งปันให้เด็กๆ บ้าง แต่ที่ผ่านมาเขาไม่ให้เลย


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์