ศาลไม่ให้ประกัน7นศ.ปทุมวัน ส่งขังเรือนจำพิเศษกทม. ช่างซ่อมมือถือพ้นขีดอันตรายเย็บกว่า200เข็ม

ศาลไม่ให้ประกัน7นศ.ปทุมวัน ส่งขังเรือนจำพิเศษกทม. ช่างซ่อมมือถือพ้นขีดอันตรายเย็บกว่า200เข็ม

พนักงานสอบสวนสน.ปทุมวัน นำ7 น.ศ.เทคโนฯปทุมวันรุมแทงช่างซ่อมมือ ฝากขังเป็นครั้งแรก ค้านประกันตัว ผบช.น.สนธิกำลังบุกเทคโนปทุมวันพบประทัดยักษ์เหล้าเบียร์ ตร.ชี้พฤติกรรมเหี้ยมโหดเป็นภัยสังคมค้านประกัน เผยตีตราฟันเฟืองหน้าอกทุกคน ส่วนอีกกลุ่มสกรัม"รปภ."บีทีเอส"น่วม

ศาลไม่ให้ประกัน7นศ.ปทุมวันส่งตัวคุมขังเรือนจำพิเศษกทม.

ผู้สื่อข่าวรายงาน เวลา 16.30 น. วันที่ 15 มกราคม ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง มีคำสั่งยกคำร้องที่นายกรีฑาพล พุ่มพวง อายุ 21 ปี นายโฆษิต อินทระสูตร อายุ 26 ปี และนายปรีชา สุขเมฆ อายุ 25 ปี 3 ใน 7 นักศึกษาปทุมวันผู้ต้องหาคดีพยายามฆ่าช่างซ่อมโทรศัพท์มือถือ ที่ยื่นขอประกันตัว ใช้เงินสดและกรมธรรม์ประกันอิสรภาพเป็นหลักทรัพย์


โดยศาลพิเคราะห์พฤติการณ์ผู้ต้องทั้ง 7 แล้วเห็นว่าเป็นการกระทำต่อผู้บริสุทธิ์ โดยไม่ยำเกรงต่อกฎหมายบ้านเมือง กรณีถือว่าเป็นภัยร้ายแรง อีกทั้งหากได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวไปก็จะเป็นแบบอย่างว่า แม้กระทำการร้ายแรง แต่ยังได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ประกอบกับเกรงว่าหากได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวไปผู้ต้องหาอาจหลบหนีหรือไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน หรือกระทำผิดซ้ำอีก กรณีจึงไม่มีเหตุสมควรที่จะปล่อยตัวชั่วคราว


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังศาลยกคำร้องประกันตัวแล้วก็ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร

ช่างมือถือเหยื่อช่างกล"ปทุมวัน"พ้นอันตราย เย็บอ่วม200เข็ม

น.ส.ใคริกา หาญรินทร์ อายุ 26 ปี เเฟนสาวของนายอักษร เทพชัย ช่างซ่อมโทรศัพทืมือถือห้างมาบุญครอง เหยื่อนักศึกษาช่างกลปทุมวันรุมทำร้าย บาดเจ็บสาหัสเมื่อคืนวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา กล่าวว่า อาการของนายอักษรพ้นขีดอันตรายเเล้ว สามารถพูดคุยได้ปกติ แต่ยังมีอาการปวดบริเวณเเผลที่เย็บอยู่ เเพทย์ผู้รักษาอาการยังงดน้ำเเละอาหาร ทั้งนี้ เเพทย์ได้ผ่าตัดแผลถูกเเทงที่ท้อง เพื่อจะเอาเลือดที่ยังตกค้างออกเเละเย็บเเผลที่ลำใส้ให้ติดกันรวมแล้วกว่า 200 เข็ม ส่วนแผลบริเวณหลัง ขาและที่ไหล่ตอนนี้มีอาการดีขึ้นมาก


น.ส.ใคริกา กล่าวต่อว่า รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าจะเกิดกับคนใกล้ตัว อยากให้ผู้ที่รับผิดชอบจำกัดบริเวณให้เขาอยู่ให้เป็นที่ ไม่อยากให้เด็กนศ.เหล่านี้ไปก่อเหตุกับผู้บริสุทธ์รายอื่นๆ อีก โชคดีที่เเฟนไม่เสียชีวิต และถ้าไปเกิดกับครอบครัวคนอื่น ครอบครัวเขาจะเป็นยังไง อยากให้นศ.นึกถึงใจคนอื่นบ้าง ไม่ใช่คิดเเต่จะตีกันอย่างเดียว


ด้านนายอักษร เทพชัย กล่าวว่า อยากให้นศ.ถามไถ่ก่อนว่าเราเป็นใคร ไม่ใช่อยู่ดีๆ ก็เข้ามารุมทำร้าย


"ผมเองก็ได้ตะโกนบอกไปหลายรอบเเล้วว่าไม่ได้เรียนเเล้ว แต่พวกเค้าไม่ยอมฟังเลย รุมเเต่จะทำร้ายอย่างเดียว ผมอยากให้นศเหล่านี้รู้ว่าเราเป็นคนบริสุทธิ์ ไม่ใช่คู่อริ และไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้ไปเกิดกับใครอีก ไม่อยากให้ผู้บริสุทธิ์คนอื่นโดนเเบบผม" นายอักษร กล่าว

หิ้ว7น.ศ.เทคโนฯปทุมวันแทงช่างซ่อมมือถือฝากขัง ค้านประกัน

เมื่อวันที่ 15 ม.ค.  ร.ต.ต. ภานุพันธ์ ประเสริฐ พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ควบคุมตัวนายเช็ค นาคลดา อายุ 23 ปี , นายยุรนัน ชัยสุระ อายุ 21 ปี , นายฉัตรชัย ระดับชนกิจ อายุ 22 ปี , นายกรีฑาพล พุ่มพวง อายุ 21 ปี , นายโฆษิต อินทระสูตร อายุ 26 ปี , นายปรีชา สุขเมฆ อายุ 25 ปี และนายกิตติพงษ์ แจ้งเสมอ อายุ 21 ปี นักศึกษาสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ผู้ต้องหาคดีพยายามฆ่า ใช้อาวุธมีดแทง นายอักษร เทพชัย ช่างซ่อมโทรศัพท์มือถือห้างมาบุญครองได้รับบาดเจ็บเมื่อวันที่ 13 ม.ค.  ที่ผ่านมา มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 15 - 26 ม.ค. เนื่องจากการสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จ ต้องสอบพยานอีก 12 ปาก และรอผลตรวจร่างกาย บาดแผลของผู้เสียหาย และการตรวจพิสูจน์ภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิด

ทั้งนี้ พนักงานสอบสวน ได้คัดค้านการประกันผู้ต้องหาด้วย เนื่องจาก มีพฤติการณ์อุกอาจ กระทำต่อผู้เสียหายโดยไม่มีสาเหตุโกรธเคืองอาฆาตกันมาก่อน และยังกระทำการในที่สาธารณะโดยไม่ยำเกรงต่อกฎหมายด้วย 

ผบช.น.สนธิกำลังบุกเทคโนปทุมวันพบประทัดยักษ์เหล้าเบียร์

เมื่อเวลา00.00น.วันที่ 15 มกราคม พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น.พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์,พล.ต.ต.บุญส่ง พานิชอัตรา รองผบช.น., พล.ต.ต.วิทยา รัตนวิชช์ ผบก.น.6 นำกำลังตำรวจฝ่ายสืบสวนซึ่งระดมจากทุกสน.ในสังกัด บก.น.6 และ กก.สส.บก.น.6 จำนวน 80 นาย สนธิกำลังกับตำรวจกองบังคับการตำรวจปฏิบัติการพิเศษ(ตปพ.)จำนวน 100 นาย เข้าทำการตรวจค้นภายในสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ถ.พระราม 1 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กทม.ภายหลังเกิดเหตุนักศึกษาสถาบันเทคโนโลยี ปทุมวันรุมทำร้ายช่างซ่อมโทรศัพท์มือถือ ได้รับบาดเจ็บสาหัส เพราะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นคู่อริต่างสถาบัน


จากการตรวจค้นภายในอาคารต่าง ๆ ภายในสถาบัน ไม่พบนักศึกษา พบเพียงอุปกรณ์การนอน รถเข็นของห้างเทสโก้โลตัสจำนวน 2 คัน เหล้า เบียร์ น้ำแข็ง โซดา ลักษณะเพิ่งตั้งวงดื่มกิน ภายในอาคารสโมสรนักศึกษา นอกจากนี้ยังพบปะทัดยักษ์จำนวน 3 ดอก ป้ายกระดาษเขียนข้อความโจมตีการทำงานของผู้บริหารสถาบันและอาจารย์ เจ้าหน้าที่จึงได้บันทึกรายการสิ่งของที่พบ ก่อนนำไปเก็บไว้ที่ สน.ปทุมวัน อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้พล.ต.ท.สัณฐานได้สั่งการให้วางกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจและตำรวจนอกเครื่องแบบไว้ในสถาบันตลอด 24 ชม.


พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รอง ผบช.น. กล่าวว่า การเข้าตรวจค้นครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อช่วงค่ำวันที่ 14 ม.ค.2553 อาจารย์ของสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มนักศึกษาที่บุกรุกเข้าไป ใช้สถาบันเป็นที่มั่วสุมในยามค่ำคืน ขณะนี้สถาบันอยู่ระหว่างถูกสั่งให้หยุดการเรียนการสอนเป็นเวลา 15 วัน

จับนศ.ปทุมวันแทงช่างซ่อมมือถือ




นักศึกษาสถาบันเทคโนโลยีปทุมวันก่อเหตุอุกอาจรุมทำร้ายแทงช่างช่อมโทรศัพท์มือถืออาการสาหัส ขณะขับรถจักรยานยนต์มารอรับแฟนสาวบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าโตคิว ใกล้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเวลา 22.30 น. วันที่ 13 มกราคม ต่อเนื่องถึงวันที่ 14 มกราคม เมื่อ พ.ต.ท.ณพงษ์ กปิตถัย สารวัตรเวร สน.ปทุมวัน รับแจ้งจากตำรวจสายตรวจ บริเวณสี่แยกปทุมวัน เกิดเหตุนักเรียนตีกันบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าโตคิว จึงนำกำลังกว่า 10 นาย เข้าตรวจค้นระงับเหตุ พร้อมตามจับกุมนักศึกษาได้ 29 คน ทั้งหมดเป็นนักศึกษาสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน จากนั้นควบคุมตัวมารวมไว้ที่ป้อมยามสี่แยกและประสานขอกำลังเสริมจาก สน.บางรัก พลับพลาไชย 1 พลับพลาไชย 2 และรถ ควบคมุตัวไปสอบสวนที่ สน.ปทุมวัน


ต่อมา พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รอง ผบช.น. มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ตำรวจได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ มีกลุ่มนักศึกษากว่า 40 คน ก่อเหตุทะเลาะวิวาทกัน เมื่อนำกำลังมาถึง ทันทีที่เห็นตำรวจนักศึกษาต่างพากันวิ่งหนีจากชั้นสองหน้าห้างสรรพสินค้าโตคิว ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าลงมาบนถนนกลางแยกปทุมวัน ตำรวจสามารถคุมตัวไว้ได้ 29 คน


"ในที่เกิดเหตุดังกล่าวพบนายอักษร เทพชัย อายุ 27 ปี ช่างซ่อมโทรศัพท์มือถือในห้าง ถูกแทงเข้าลำตัวหลายแผลบาดเจ็บสาหัส และสามารถยึดมีดที่ตกอยู่มาได้ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ ส่วนสาเหตุต้องสอบปากคำแฟนสาวของผู้บาดเจ็บ ซึ่งเห็นเหตุการณ์อีกครั้ง ทั้งนี้ขณะจับกุมพบกลุ่มนักศึกษาคนหนึ่งอมกุญแจรถจักรยานยนต์ไว้ พอเห็นตำรวจก็ตกใจจึงบ้วนออกมาแล้วพูดว่า "ผมไม่เกี่ยว ผมเป็นพลเมืองดี" ก่อนวิ่งหนีไป แต่ตำรวจตามรวบไว้ได้ เนื่องจากแฟนสาวของนายอักษรยืนยันเป็นกุญแจรถจักรยานยนต์ของนายอักษร" พล.ต.ต.สุเมธระบุ


ตั้งข้อหาหนักพยายามฆ่า7คน


ขณะที่ พ.ต.อ.ไพศาล ลือสมบูรณ์ ผกก.สน.ปทุมวัน เปิดเผยว่า สอบปากคำกลุ่มนักศึกษาเทคโนโลยีปทุมวันพบว่าได้ทำร้ายนายอักษร เบื้องต้นแจ้งข้อหานักศึกษา 7 คน ฐานพยายามฆ่า และตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดและขยายผลมี 5 คน ที่เห็นหน้าชัดเจน ส่วนข้อหาปล้นทรัพย์กุญแจรถและโทรศัพท์มือถือของผู้บาดเจ็บต้องดูเจตนา ส่วนข้อหาอั้งยี่ซ่องโจรการตรวจสอบน้ำหนักยังไม่เพียงพอ


ผู้สื่อข่าวรายงานขณะที่ตำรวจกำลังสอบสวนอยู่นั้น มีพนักงานรักษาความปลอดภัยรถไฟฟ้าบีทีเอส 5 คน เข้าแจ้งความกับ พ.ต.อ.ไพศาลว่า ถูกกลุ่มนักศึกษาบุกรุกสถานีรถไฟฟ้าและเข้าทำร้ายพนักงานรักษาความปลอดภัยเป็นเหตุให้นายสุริยา แท่นนาค อายุ 28 ปี นายวีระยุทธ แก้วสายัญห์ อายุ 27 ปี และนายศิวัช ธรรมชอบ อายุ 24 ปี ได้รับบาดเจ็บ โดยเหตุเกิดขึ้นหลังกลุ่มนักศึกษารุมทำร้ายและแทงนายอักษร


รุมทำร้ายรปภ."บีทีเอส"ด้วย


นายสุริยาให้การกล่าวหาว่า เวลา 22.00 น. มีกลุ่มนักศึกษา 3 คน ส่งเสียงเอะอะโวยวายวิ่งขึ้นมาบนสถานี พร้อมกระโดดปีนข้ามช่องเสียบบัตรผ่านเข้าออกรถโดยสารไฟฟ้าโดยไม่ยอมซื้อตั๋ว จึงสั่งให้หยุด แต่หนึ่งในนั้นกลับหันมาชกหน้าจนล้มลง นายวีระยุทธ พร้อมเพื่อนจึงวิ่งเข้ามาช่วย แต่กลุ่มนักศึกษาพาเพื่อนจำนวนมากมารุมทำร้ายตนและเพื่อนรปภ.จนเกิดการชุลมุน กระทั่งตำรวจเข้ามาระงับเหตุไว้ได้
 

พ.ต.อ.ไพศาล กล่าวว่ากลุ่มนักศึกษาที่ก่อเหตุทำร้ายร่ายกาย รปภ. ของรถไฟฟ้าบีทีเอส นั้น  เป็นเพียงชกต่อยกันธรรมดา จึงแจ้งข้อหาก่อเหตุทะเลาะวิวาทก่อนเปรียบเทียบปรับและปล่อยตัวไป  ส่วนกลุ่มนักศึกษาที่เหลือไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอในการแจ้งข้อหาจึงปล่อยตัวไป


พฤติกรรมเหี้ยม-ค้านประกัน


ทางด้าน พล.ต.ต.สุเมธ กล่าวอีกครั้งภายหลังสอบสวนพยานต่างๆถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า นักศึกษา 7 คน ที่ถูกดำเนินคดี ข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นและพกพาอาวุธ ประกอบด้วย นายเช็ค นาคลดา อายุ 23 ปี นายยุรนันท์ ชันสุระ อายุ 21 ปี นายฉัตรชัย ประดับธนกิจ อายุ 22 ปี นายกรีฑาพล พุ่มพวง อายุ 21 ปี นายโฆษิต อินทรสูตร อายุ 26 ปี นายปรีชา สุขเมฆ อายุ 25 ปี และนายกิตติพงศ์ แจ้งเสมอ อายุ 21 ปี  โดยพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว  
 

พล.ต.ต.สุเมธกล่าวว่านักศึกษาที่ถูกดำเนินคดีทั้ง 7 คน ไม่รู้จักกับผู้เสียหายมาก่อน จากการสอบปากคำและตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด ทราบว่าผู้เสียหายจอดรถจักรยานยนต์รอแฟนสาวอยู่หน้าห้างโตคิวและโทรศัพท์คุยกับแฟนสาว จากนั้นนักศึกษาทั้ง 7 คนเข้ามาพูดคุยและดึงกุญแจรถจักรยานยนต์ผู้เสียหายไป มีหนึ่งคนพูดว่า “มึงแน่นักหรือ” ก่อนชักมีดออกมาแทงและรุมทำร้ายอย่างโหดเหี้ยม แม้ผู้เสียหายตะโกนตอบกลับไปว่า “ผมไม่ได้เรียน” แต่นักศึกษากลุ่มดังกล่าวกลับไม่ฟัง จังหวะนั้นแฟนสาวของผู้เสียหายมาถึงพอดีจึงร้องขอความช่วยเหลือกลุ่มนักศึกษาวิ่งหนีไป
 

"ระหว่างนั้นตำรวจที่มาระงับเหตุวิ่งสวนกับนายเช็ค ที่อมกุญแจไว้ในปากส่งให้กับตำรวจและยังบอกว่าเป็นพลเมืองดี เก็บได้ แต่ตำรวจไม่เชื่อรวบตัวเอาไว้ได้ทัน ส่วนนักศึกษาอีกกลุ่มยังทำร้ายรปภ.รถไฟฟ้าบีทีเอส และโทรศัพท์ให้เพื่อนในสถาบันหลายคนออกมาสมทบ ทั้งหมดอ้างว่า รุ่นน้องโทรศัพท์มาแจ้งว่าถูกสถาบันคู่อริรุมทำร้าย แต่ตรวจสอบไปยังสน.และโรงพยาบาลใกล้เคียง ไม่พบการก่อเหตุตามที่กล่าวอ้าง" พล.ต.ต.สุเมธ กล่าว


พบตีตราฟันเฟืองหน้าอกทุกคน
 

พล.ต.ต.สุเมธ กล่าวว่า นักศึกษาเกือบทั้งหมดที่ถูกคุมตัวมาทำประวัติมีสัญลักษณ์รูปฟันเฟืองที่หน้าอก ซึ่งเกิดจากการนำฟันเฟืองไปทำให้เกิดความร้อนแล้วนำมาจี้ที่หน้าอกและแขน เป็นการพยายามสร้างลัทธิใหม่ให้กับสถาบัน เป็นการสร้างค่านิยมแบบผิดๆ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่านักศึกษากลุ่มดังกล่าวมีพฤติกรรมโหดเหี้ยม ไม่มีเหตุผลและเป็นอันตรายต่อสังคม ทำร้ายประชาชนที่บริสุทธิ์ เพียงเพราะแค่ผู้เสียหายมีรอยสักและยืนอยู่เพียงลำพังในถิ่นของกลุ่มนักศึกษาสถาบันดังกล่าว
 

"ส่วนเรื่องที่นักศึกษาอ้างว่าถูกตำรวจทำร้ายนั้นไม่เป็นความจริง นักศึกษาพยายามวิ่งหลบหนีจนล้มหัวฟาดพื้น และมีรอยฟกช้ำ แต่ที่อ้างว่าถูกตำรวจทำร้ายเพราะเลียนแบบมาจากเหตุชุมนุมที่มักจะกล่าวอ้างว่าถูกตำรวจและเจ้าหน้าที่ของรัฐทำร้าย ซึ่งเด็กบางคนอาศัยช่วงจัดการชุมนุมสมัครเป็นการ์ด ทำให้มีพฤติกรรมเช่นนี้ นอกจากนี้ยังตรวจพบอาวุธมีดปลายแหลม เหล็กและไม้หน้าสาม ซึ่งมีดยาวที่พบมีคราบเลือดติดอยู่ ส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานไปตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว" พล.ต.ต.สุเมธ กล่าว
 

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณหน้าห้องขังของ สน.ปทุมวัน มีบรรดาผู้ปกครองญาติ พี่น้อง รวมทั้งเพื่อนนักศึกษานำอาหาร และขนม มาเยี่ยมกลุ่มผู้ต้องหา พร้อมทั้งติดต่อขอประกันตัว แต่ทางพนักงานสอบสวนเห็นว่าเป็นคดีอุจฉกรรจ์ จึงขอตัวไว้สอบสวนก่อน


2 ทุ่มครึ่งให้ออกจาก2สถาบัน
 

พ.ต.อ.ไพศาล กล่าวอีกว่า จะขอความร่วมมือจากสถาบันเทคโนโลยีปทุมวันและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ให้นักศึกษาออกจากสถาบันภายในเวลา 20.30 น. เพราะร้อยละ 70 มักจับกลุ่ม มั่วสุม ดื่มสุรา และก่อเหตุทะเลาะวิวาท
 

รายงานข่าวเปิดเผยว่าจากการวิเคราะห์ปัญหาความข้ดแย้งระหว่าง2 สถาบัน ส่วนใหญ่เกิดจากรุ่นพี่ที่เรียนไม่จบหรือถูกไล่ออก มักจะวนเวียน และพูดฝังหัวรุ่นน้องตั้งแต่แรกเข้า ซึ่งล้วนอยู่ในวัยรุ่น ง่ายที่จะกระตุ้นให้เกิดความฮึกเหิม รักพวกพ้องชนิดยอมล้างแค้นแทนกันได้ ทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักกับสถาบันคู่กรณีและไม่เคยมีเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน ทั้งนี้กลุ่มนักศึกษาที่ชอบก่อเหตุทะเลาะวิวาท และทำร้ายสถาบันคู่อริ ส่วนใหญ่จะจับกลุ่ม มั่วสุม ดื่มกินอยู่ในสถาบัน ประกอบกับฤทธิ์สุราทำให้กล้าที่จะก่อเหตุ และภายหลังก่อเหตุ กลุ่มรุ่นพี่ที่ถูกไล่ออกจะรวบรวมเงินจากกลุ่มเพื่อนๆผู้ต้องหาและรุ่นน้องมาประกันตัวออกไป และมีหลายคดีที่นักศึกษายังกลับไปเรียนตามปกติ โดยไม่ถูกสั่งพักการเรียนทำให้เหิมมากขึ้น


นศ.บางกลุ่มไม่พอใจตร.คดีอืด
 

รายงานข่าวแจ้งว่าในช่วงหนึ่งที่นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออกวิทยาเขตอุเทนถวาย ไม่ได้ก่อเรื่องเนื่องจากกลัวว่าจะถูกย้ายสถาบันออกจากพื้นที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่ยังมีนักศึกษากลุ่มหนึ่งไม่พอใจการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ที่ยังไม่สามารถจับกุมนักศึกษาสถาบันคู่อริที่ก่อเหตุทำร้ายเพื่อนนักศึกษาอุเทนถวายทั้งบาดเจ็บและเสียชีวิตถึง 4 ครั้ง ทั้งที่มีการออกหมายจับไว้แล้ว ขณะเดียวกันมองว่าทุกครั้งที่เกิดเหตุกับนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีปทุมวัน ตำรวจมักจะมุ่งประเด็นมาที่อุเทนถวาย ทำให้บางส่วนโกรธแค้นและก่อเหตุขึ้น


รมช.ศธ.จี้เอาพวกไม่ดีออกไป
 

ด้านนายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า เหตุการณ์นี้ต้องแยกเป็น 2 คดี คือ คดีทำร้ายช่างซ่อมโทรศัพท์มือถือในห้างโตคิว กับคดีทำร้ายเจ้าหน้าที่รถไฟฟ้าบีทีเอส คดีหลังตำรวจยังตามจับตัวไม่ได้ มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ประสานสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน เพื่อหาเท็จจริงว่านักศึกษากลุ่มนี้เข้ามาอยู่ในจุฬาฯในยามวิกาลจริงหรือไม่ เพราะมีกฎห้ามอยู่ หากพบอยู่จริง ผู้บริหารสถาบันเทคโนโลยีปทุมวันต้องรับผิดชอบ
 

"ส่วนที่ถามว่าจะมีมาตรการเข้มข้นเพิ่มขึ้น เพราะเหตุทะเลาะวิวาทเกิดขึ้นไล่เลี่ยกันนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างปิดสถาบัน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องเอาคนไม่ดีออกไปจากสถาบัน ผู้บริหารต้องพิจาณาโทษผู้ทำกระทำผิดว่า ควรจะไล่ออก พักการเรียน หรืออะไร แต่จะให้ปิดสถาบันถาวรคงเป็นไปไม่ได้ เพราะเด็กดียังต้องเรียนที่นี่" นายชัยวุฒิกล่าว


"จุรินทร์" บี้ตั้งกก.สอบผู้บริหาร
 

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการ ศธ. กล่าวว่า เหตุการณ์รุนแรงระหว่าง 2 สถาบัน ตนเร่งรัดทุกวัน ตำรวจมีข้อมูลพอสมควร ถ้าชัดเจน จะออกหมายจับ หากเกี่ยวข้องกับสถาบันใด สภามหาวิทยาลัย จะต้องตั้งคณะกรรมการสอบผู้บริหารด้วย ยอมรับเหตุการณ์รุนแรงเกิดซ้ำซาก ตอนนี้ศธ.ให้แต่ละสถาบันส่งรายชื่อนักศึกษากลุ่มเสี่ยงไปยังตำรวจนครบาล เพื่อติดตามและเฝ้าระวัง ซึ่งมีประมาณ 20 คน ส่วนที่ถามถึงเหตุการณ์นักศึกษาปทุมวันก่อเหตุทำร้ายผู้อื่นหน้าห้างโตคิวนั้น  สถาบันเทคโนโลยีปทุมวันต้องรับผิดชอบ และต่อไปถ้ามีเกิดเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นอีก สภามหาวิทยาลัยต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วย รวมถึงอธิการต้องลงมาดูและรับผิดชอบด้วย 


นายกสภาฯปทุมวันรับบกพร่อง
 

นายวีรวร สิทธิธรรม นายกสภาสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน กล่าวว่า ทำบันทึกการปฏิบัติงานของอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน เสนอรัฐมนตรีว่าการศธ.และรัฐมนตรีช่วยว่าการศธ.รับทราบ ส่วนตัวยอมรับว่ายังมีข้อบกพร่องอยู่มาก อาทิ ในยามวิกาลยังปล่อยให้มีนักศึกษาเข้ามามั่วสุมในสถาบัน  ไม่มีการตรวจค้นอาวุธภายในสถาบัน ในเร็วๆ นี้ ตนและนายเกรียงศักดิ์ โลหะชาละ นายกสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย จะเข้าพบรัฐมนตรีว่าการ ศธ.และรัฐมนตรีช่วยว่าการศธ. เพื่อหาแนวทางการแก้ไขที่ยั่งยืน


ให้อธิการบดีแจงที่ประชุม19มค.
 

"ส่วนมาตรการลงโทษผู้บริหารสถาบัน ตำแหน่งอธิการบดีเป็นตำแหน่งโปรดเกล้าฯ ไม่เหมือนข้าราชการปกติ ที่จะสั่งโอนย้ายไปช่วยราชการในตำแหน่งอื่นได้ แต่มาตรการลงโทษผู้บริหารสถาบัน  มีเพียง 2 แนวทางคือ ไล่ออก หรือเชิญให้ออกเท่านั้น วันที่ 19 มกราคม จะประชุมสภาสถาบันฯ จะขอให้อธิการบดีชี้แจงและหามาตรการแก้ไขต่อไป ส่วนที่เรียกร้องให้ใช้ยาแรง เช่น ปิดสถาบัน 2 แห่ง หรืองดรับนักศึกษาชั่วคราวนั้น แนวทางดังกล่าวไม่สามารถแก้ปัญหาได้  ความผิดอยู่ที่ตัวบุคคล ก็ต้องแก้ไขกันไป" นายกสภาสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน กล่าว


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์