ศาลอุทธรณ์ กลับคำพิพากษาคดีเผาเซ็นเตอร์วัน ประกันไม่ต้องจ่ายค่าเสียหาย 108 ล้านบาท ชี้ แกนนำ นปช. ยั่วยุมวลชนให้ก่อเหตุ เข้าข่ายก่อการร้าย
ศาลแพ่ง รัชดา อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในคดีที่บริษัท พีเพิล พลาซ่า หรือห้างสรรพสินค้าเซ็นเตอร์วัน เป็นโจทก์ฟ้องบริษัท แอกซ่า ประกันภัย จำกัด ให้จ่ายค่าเสียหาย 122,790,000 บาท กรณีถูกวางเพลิงเผาทรัพย์และขโมยทรัพย์สินระหว่างการสลายการชุมนุมของคนเสื้อแดง หรือ นปช .เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2553 โดยในคดีนี้ ศาลชั้นต้นได้พิพากษาให้จำเลยชำระเงิน จำนวน 108,452,422 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี
โดยศาลอุทธรณ์แผนกคดีผู้บริโภคตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า โจทก์เป็นผู้เอาประกันภัยอาคารศูนย์การค้าเซ็นเตอร์วัน
ซึ่งได้ทำไว้กับจำเลย โดยมีระยะเวลาการคุ้มครองตั้งแต่วันที่16 ม.ค.53 - 16 ม.ค. 54 ในวงเงินคุ้มครอง 165,000,000 บาท จนเมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2553 เวลาประมาณ 16.00 น. มีกลุ่มบุคคลประมาณ 200-300 คน มาชุมนุมหน้าศูนย์การค้า เข้าทุบทำลายและเผาห้างได้รับความเสียหาย ศาลเห็นว่าเหตุการณ์เผาศูนย์การค้าของโจทก์ เป็นกรณีสืบเนื่องจากความขัดแย้งทางการเมือง สาเหตุหนึ่งมาจากการปราศรัยปลุกระดมของแกนนำ กลุ่ม นปช. การเผาศูนย์การค้าของโจทก์ ถือเป็นการก่อความไม่สงบของประชาชน ถึงขนาดลุกฮือต่อต้านรัฐบาล มีความวุ่นวายและโกลาหลอลหม่าน ซึ่งจำเลยรับทำประกันกับโจทก์ในลักษณะความเสี่ยงภัยทุกชนิด ยกเว้น ความคุ้มครองเกี่ยวกับภัยความรุนแรงทางการเมือง กล่าวคือภัยสงครามและก่อการร้าย จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ เมื่อวินิจฉัยมาแล้วว่าจำเลยไม่ต้องรับผิดชอบต่อโจทก์ คดีจึงไม่ต้องวินิจฉัยต่อไปว่าโจทก์เสียหายเพียงใดหรือไม่ พิพากษากลับเป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์
โดยศาลอุทธรณ์แผนกคดีผู้บริโภคตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า โจทก์เป็นผู้เอาประกันภัยอาคารศูนย์การค้าเซ็นเตอร์วัน
ซึ่งได้ทำไว้กับจำเลย โดยมีระยะเวลาการคุ้มครองตั้งแต่วันที่16 ม.ค.53 - 16 ม.ค. 54 ในวงเงินคุ้มครอง 165,000,000 บาท จนเมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2553 เวลาประมาณ 16.00 น. มีกลุ่มบุคคลประมาณ 200-300 คน มาชุมนุมหน้าศูนย์การค้า เข้าทุบทำลายและเผาห้างได้รับความเสียหาย ศาลเห็นว่าเหตุการณ์เผาศูนย์การค้าของโจทก์ เป็นกรณีสืบเนื่องจากความขัดแย้งทางการเมือง สาเหตุหนึ่งมาจากการปราศรัยปลุกระดมของแกนนำ กลุ่ม นปช. การเผาศูนย์การค้าของโจทก์ ถือเป็นการก่อความไม่สงบของประชาชน ถึงขนาดลุกฮือต่อต้านรัฐบาล มีความวุ่นวายและโกลาหลอลหม่าน ซึ่งจำเลยรับทำประกันกับโจทก์ในลักษณะความเสี่ยงภัยทุกชนิด ยกเว้น ความคุ้มครองเกี่ยวกับภัยความรุนแรงทางการเมือง กล่าวคือภัยสงครามและก่อการร้าย จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ เมื่อวินิจฉัยมาแล้วว่าจำเลยไม่ต้องรับผิดชอบต่อโจทก์ คดีจึงไม่ต้องวินิจฉัยต่อไปว่าโจทก์เสียหายเพียงใดหรือไม่ พิพากษากลับเป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
