ศาลหักเหลี่ยมรับไต่สวนคดีแม้วเบิกความเท็จ ฟ้องอดีตหุ้นส่วนฝรั่งยักยอกธุรกิจเคเบิล

แนวหน้า

ศาลหัก"เหลี่ยม"รับไต่สวนคดีแม้วเบิกความเท็จ ฟ้องอดีตหุ้นส่วนฝรั่งยักยอกธุรกิจเคเบิล แพ้ความกราวรูด-เจอหมัดสวนเล่นอาญา ยึกยักส่งทนายยื้อ-ยืดเวลาพิจารณาฟ้องโดนหมัดน็อกสั่งเร่งนำเข้ากระบวนการ

ฟ้องทักษิณ : นายวิลเลียม ไลล์ มอลซัน นักธุรกิจชาวอเมริกา (ซ้าย) เดินลงจากศาลอาญากรุงเทพใต้ หลังฟังคำสั่งคดีอาญาที่เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ข้อหาเบิกความเท็จ ซึ่งศาลมีคำสั่งให้ไต่สวนมูลฟ้องโจทก์แล้ว เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน

เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน ศาลอาญากรุงเทพใต้ ออกนั่งบัลลังก์พิจารณาคำสั่งขอให้เร่งรัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ในคดีที่ บริษัทซีทีวีซี ออฟอาวาย จำกัด ที่1,นายวิลเลียม ไลล์ มอนซัน ผู้บริหารบริษัท ซีทีวีซี ออฟฮาวาย จำกัด นักธุรกิจสหรัฐอเมริกา ที่ 2 ซึ่งเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่1,นางพจมาน ชินวัตรที่2,บริษัทอินเตอร์เนชั่นแนล บรอดคลาสดิ้งคอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน)ที่ 3,นางดวงฤทัย เศรษฐบุตร ที่ 4 และนายประทีป อาจิณพัฒน์ที่ 5 ตกเป็นจำเลยในข้อหาเบิกความเท็จ จากรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เคยฟ้องร้องต่อศาลแพ่งกรุงเทพ กล่าวว่านายวิลเลียม ยักยอกทรัพย์ ซึ่งคดีมีคำพิพากษาให้ยกทั้งในศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์

คดีดังกล่าวนายวิลเลี่ยม โจทก์ได้ยื่นฟ้อง พ.ต.ท. ทักษิณ เมื่อปี2538และศาลเคยสั่งให้จำหน่ายคดี เนื่องจากให้รอผลการพิจารณาคดีทางแพ่งก่อน เมื่อคำพิพากษาทางแพ่งออกมาโจทก์จึงยื่นฟ้องอาญาอีกครั้ง

นายปรเมศร์ สุตะบุตร ทนายความฝ่ายโจทก์ที่ยื่นคำร้องให้ไต่สวนมูลฟ้องโดยด่วนก่อนหน้านี้ โดยไม่ต้องรอผลของคดีแพ่งถึงที่สุดก่อนเนื่องจากทางฝ่ายทักษิณได้ยื่นฎีกา ได้ให้เหตุผลว่า 1.ปกติเอกสารหลักฐานต่าง ๆ โดยเฉพาะคำเบิกความของพยานจะต้องมีการทำลายทิ้งในทุก 10 ปี ตามธรรมเนียมของศาล ดังนั้น หากยังไม่มีการไต่สวนมูลฟ้องโดยเร็วอาจทำให้ต้องสูญเสียพยานหลักฐานสำคัญไป และ 2.เห็นว่าการที่จะรับฟ้องคดีปกติของคดีอาญา ไม่จำเป็นต้องรอดูผลการพิจารณาของคดีแพ่ง

อย่างไรก็ตาม ทางทนายจำเลยฝ่ายจำเลยคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้แถลงคัดค้านโดยอ้างว่า คดีนี้เป็นการพิจารณาคดีต่อเนื่องจากคดีแพ่ง ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการทำลายเอกสาร หรือพยานหลักฐาน อีกทั้งเมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา คู่ความทั้ง 2 ฝ่ายได้แถลงต่อศาลไว้ว่าจะรอให้ผลของการพิจารณาคดีแพ่งถึงที่สิ้นสุดเสียก่อน

ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์คำร้องของฝ่ายโจทก์ และคำคัดค้านของฝ่ายจำเลยแล้ว เห็นว่าคดีนี้มีความล่าช้ามานาน จึงให้มีการไต่สวนมูลฟ้องให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว จึงมีคำสั่งให้รับคดีไว้ไต่สวนมูลฟ้อง และนัดไต่สวนมูลฟ้องพยานโจทก์ ในวันที่ 18, 25 ก.ย. วันที่ 2, 9 และ 16 ต.ค.นี้ ตลอดทั้งวันเช้าบ่ายเป็นเวลา 5 นัดตามที่ฝ่ายโจทก์ขอนำสืบพยานบุคคลจากต่างประเทศ จำนวน 10 ปาก มานำสืบ

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) นครราชสีมา นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ อดีต ส.ว.อุบลราชธานี นายประมุท สูตะบุตร อดีตผู้บริหารองค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย (อสมท.) และนายวิลเลียม ไลล์ มอนซัน ผู้บริหารบริษัท ซีทีวีซี ออฟฮาวาย จำกัด ร่วมกันแถลงข่าวกรณีที่รัฐสภา

โดย นายไกรศักดิ์ กล่าวว่า ที่พานายวิลเลียมมาแถลงข่าวครั้งนี้ เพราะนายวิลเลียมเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม และโดนกลั่นแกล้ง และขอยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองแต่อย่างใด แต่อยากให้สื่อมวลชนช่วยดูแลเรื่องความเป็นธรรม

ส่วน นายวิลเลียม กล่าวว่า เมื่อ 5-6 ปีที่ผ่านมา ตนพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ฮ่องกง เคยตกลงกันว่าจะเจรจาเรื่องฟ้องร้องนอกศาล แต่หลังจากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณกลับไม่ทำเช่นที่รับปาก แต่กลับกลับไปฟ้องศาล กล่าวหาว่าตนยักยอกทรัพย์ทั้งๆ ที่เป็นของตน ที่ออกมาแถลงต่อสื่อมวลชน เพราะอย่างน้อยประชาชนจะเป็นพยานในการรับทราบคดีที่ตนฟ้องร้อง หลังจากที่ตนได้ตกเป็นจำเลยมากว่า 10 ปี

นายวิลเลียม ระบุว่า สำหรับคดีดังกล่าวเริ่มขึ้นเมื่อปี 2537 ขณะนั้นตนเป็นเจ้าของบริษัท ซีทีวีซีฯ ซึ่งดำเนินธุรกิจด้านเคเบิ้ลทีวีในประเทศอเมริกา และเคยมาสาธิตการดำเนินงานเคเบิลทีวี ที่ประเทศไทย ภายหลังได้รู้จักกับ พ.ต.ท.ทักษิณ กระทั่งมีการตกลงจะดำเนินการเกี่ยวกับใบอนุญาตเรื่องคลื่นความถี่กับกรมไปรษณีย์โทรเลข และตกลงเปิดบริษัทดำเนินการด้านเคเบิลทีวี แต่ภายหลังถูกระงับการออกอากาศ พ.ต.ท.ทักษิณ จึงขอถอนตัวในการร่วมหุ้นและเสนอขายหุ้นให้ตน จากนั้นมีการทำสัญญาซื้อขายกัน แต่ทรัพย์สินส่วนใหญ่ยังเก็บไว้ที่บริษัทชินวัตร คอมพิวเตอร์ จำกัด

"ต่อมาเมื่อมีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมีความต้องการดำเนินกิจการต่อและต้องการอุปกรณ์เคเบิลทีวีคืน แต่ตนไม่ยอมเพราะมีการทำสัญญาซื้อขายกันแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ จึงยื่นฟ้องผมยักยอกทรัพย์ ซึ่งในที่สุดศาลแพ่งได้พิพากษายกฟ้อง" นายวิลเลียม กล่าว

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์