ศาลยกฟ้อง คดีอาจารย์ ม.ภาคกลางขืนใจ นศ.สาว

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ยกฟ้อง ด็อกเตอร์ ฟ้อง ลูกศิษย์สาว แจ้งความเท็จ กล่าวหาข่มขืนศิษย์ หลังศาลชั้นต้นให้ชนะคดีข่มขืน เหตุ นศ.สาวเต็มใจ


วันนี้ (8 ธ.ค.) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีที่ ดร.สานนท์ ฉายเรืองโชติ อายุ 54 ปี อดีตอาจารย์พิเศษ มหาวิทยาลัยภาคกลาง เป็นโจทก์ฟ้อง นางสาวสาวิตรี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี อดีตนักศึกษามหาวิทยาลัยภาคกลาง ฐานแจ้งความเท็จ เบิกความเท็จ

แจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จ เพื่อมุ่งใช้เป็นพยานหลักฐาน คดีนี้โจทก์ยังเคยฟ้องนางปวีณา หงสกุล อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย และมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี เป็นจำเลยที่ 2 และ 3 ตามลำดับ แต่ศาลยกฟ้องในชั้นไต่สวน คงเหลือเพียง นางสาวสาวิตรี เท่านั้น ซึ่งศาลชั้นต้นเคยพิพากษายกฟ้องคดีทั้งสำนวนมาแล้วเช่นกัน

"ขอให้ศาลลงโทษตามกฎหมายฐานแจ้งความเท็จ"


คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าเมื่อระหว่างวันที่ 1 ต.ค.43 - 9 เม.ย.46 นางสาวสาวิตรีได้กลั่นแกล้งปั้นเรื่องหาว่าโจทก์ซึ่งเป็นอาจารย์พิเศษมหาวิทยาลัยภาคกลาง ใช้กำลังประทุษร้ายปลุกปล้ำข่มขืนหลายครั้งพร้อมกับข่มขู่ว่าจะเปิดเผยความลับกับจะทำให้นางสาวสาวิตรีไม่จบการศึกษา แต่ถ้ายอมแต่โดยดีจะช่วยเหลือทางด้านการเรียนการสอน ซึ่งการกลั่นแกล้งด้วยข้อความดังกล่าวทำให้เสียชื่อเสียงและถูกดำเนินคดี ขอให้ศาลลงโทษตามกฎหมาย

ศาลอุทธรณ์พิเคราะห์ว่า ข้อเท็จจริงคดีนี้ฟังได้ว่านางสาวสาวิตรีเคยร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนหาว่าโจทก์ข่มขืน ต่อมามีการดำเนินคดีถึงในชั้นศาลและศาลมีคำพิพากษายกฟ้องในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราฯ โดยเห็นว่านางสาวสาวิตรีมิใช่ศิษย์ที่อยู่ในความดูแล ส่วนข้อหาข่มขืนศาลได้ยกฟ้องก็เพราะนางสาวสาวิตรีมิได้แจ้งความดำเนินคดีภายในอายุความ ศาลเห็นว่าคำพิพากษาดังกล่าวมิได้วินิจฉัยชี้ขาดข้อเท็จจริงว่าโจทก์ไม่ได้ข่มขืนกระทำชำเรา

"ขาดองค์ประกอบความผิดจึงยกฟ้อง"


ศาลยังเห็นว่า ที่โจทก์อ้างว่าจำเลยมีเจตนาทำให้โจทก์เสื่อมเสียชื่อเสียงเพื่อหวังประโยชน์ตอบแทนนั้น ศาลเห็นว่าโจทก์ไม่มีประจักษ์พยานเบิกความยืนยัน มีเพียงแต่พยานแวดล้อม เมื่อไม่มีพยานอื่นมาประกอบจึงไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะฟังได้ว่าจำเลยแจ้งความเท็จ

หรือให้พนักงานจดแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเพื่อใช้เป็นพยานหลักฐาน แต่ศาลเห็นว่าจำเลยได้แจ้งความกับตำรวจตามความเข้าใจของตนเองว่ามีสิทธิและมีการแจ้งความดำเนินคดีกันจริงการกระทำของจำเลยจึงขาดองค์ประกอบความผิด ศาลจึงพิพากษายกฟ้อง

"คดีขาดอายุความจึงยกฟ้อง"


สำหรับคดีนี้ เหตุการณ์ได้เกิดขึ้นเมื่อกลางปี 2546 เมื่อได้มีนางสาวสาวิตรี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยภาคกลาง จังหวัดนครสวรรค์ เข้าร้องทุกข์ต่อมูลนิธิปวีณาฯ ว่าได้ถูกอาจารย์พิเศษลวงไปข่มขืนถึง 38 ครั้ง เพื่อแลกกับเกรดเฉลี่ยจะได้สอบผ่านเป็นบัณฑิตมหาวิทยาลัยภาคกลาง ต่อมาได้เกิดข้อเท็จจริงในทางพิจารณาของคดีว่านางสาวสาวิตรีเคยถูกข่มขืนจริง

แต่ไม่ได้แจ้งความภายใน 3 เดือนนับแต่เวลาที่ถูกข่มขืนคดีจึงขาดอายุความ ส่วนการถูกข่มขืนครั้งอื่นๆ อีกกว่า 30 ครั้งเป็นเรื่องที่นางสาวสาวิตรียินยอมพร้อมใจ ศาลจึงพิพากษายกฟ้อง ขณะที่ฝ่าย ดร.สานนท์ ก็ฟ้องกลับกล่าวหาว่านางสาวสาวิตรีแจ้งความเท็จในคดีนี้ ซึ่งศาลก็ยกฟ้องเช่นกัน

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์