วัยรุ่นฆ่าผู้บริสุทธิ์คืนเดียว2ศพ ระบายความเครียดถูกบุพการีไล่

คม-ชัด-ลึก

ตำรวจรวบ 5 วัยรุ่นเมืองเชียงใหม่ ขี่ จยย.ตระเวนฆ่าผู้บริสุทธิ์ คืนเดียว 2 ศพ สารภาพทำเพื่อระบายเครียดหลังถูกพ่อแม่ไล่ออกจากบ้าน รองนายกฯ "สุชัย" ชี้คนไทยป่วยโรคเครียดขั้นรุนแรงเกือบ 5 ล้านคน พร้อมจัดงบรักษาฟื้นฟูและป้องกันรวม 1,658 ล้านบาท

เหตุวัยรุ่น จ.เชียงใหม่ ถูกพ่อแม่ไล่ออกจากบ้านแล้วชวนเพื่อนขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนฆ่าคน เปิดเผยเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 19 กรกฎาคม พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 (ผบช.ภ.5) พ.ต.อ.ชำนาญ รวดเร็ว รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (รอง ผบก.ภ.จว.) เชียงใหม่ พร้อมชุดปราบจราจรและชุดสืบสวน สภ.ต.ช้างเผือก แถลงข่าวผลการจับกุมวัยรุ่นแก๊งเอ็นดีอาร์ 5 คน ที่ก่อเหตุฆ่านายธีรภัทร์ งามปัน อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17/2 หมู่ 3 ต.แม่สูน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และนายทวีศักดิ์ วันจรูญ อายุ 20 ปี บ้านเดิมอยู่ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน เมื่อกลางดึกวันที่ 15 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

พล.ต.ท ภาณุพงศ์ กล่าวว่า คนร้ายที่ถูกจับกุมคือ นายพงษ์พิพัฒน์ ดีพิน อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26/1 ถนนชลประทาน ต.ป่าตัน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายวัชระ แซ่ตั้ง อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74/1 ถนนโชตนา ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายปอม (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ชาว ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ นายแจ็ค (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ชาว ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ และนายดิว (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ชาว ต.สันทรายน้อย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่

พล.ต.ท ภาณุพงศ์ กล่าวอีกว่า ตำรวจ สภ.ต.ช้างเผือก เข้าจับกุมนายพงษ์พิพัฒน์ได้เป็นเป็นคนแรก ที่บ้านพักในหมู่บ้านจัดสรรเทียมพร จากการสอบปากคำ นายพงษ์พิพัฒน์ให้การรับสารภาพและซัดทอดถึงผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุอีก 4 คน ตำรวจจึงขยายผลเข้าจับกุมได้ทั้งหมด พร้อมของกลางมีดปลายแหลมยาว 6 นิ้ว 1 เล่ม และรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า มีโอ 2 คัน รถจักรยานยนต์ซูซูกิ สแมช 1 คัน ซึ่งทั้ง 3 คันไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ ทะเบียน คมง 344 เชียงใหม่

โหดมาก ฆ่าแม้กระทั่งคนไม่เคยรู้จัก

พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ กล่าวด้วยว่า โดยเหตุการณ์แรก นายพงษ์พิพัฒน์และเพื่อนได้ขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนไปตามสถานที่ต่างๆ กระทั่วเวลา 20.40 น. วันที่ 15 กรกฎาคม พบนายธีรภัทร์ยืนโทรศัพท์อยู่ในตู้สาธารณะหน้าธนวัฒน์คอร์ท ถนนกาสะลอง ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จึงเข้ารุมทำร้าย ซึ่งนายพงษ์พิพัฒน์ได้ใช้มีดปลายแหลมปาดคอนายธีรภัทร์จนเสียชีวิต และขี่รถหนีไป กระทั่งเวลา 21.30 น.คืนเดียวกัน ระหว่างทางที่ขี่รถหลบหนีไปเจอ นายทวีศักดิ์ และพวกอีก 4 คน ที่บริเวณตู้โทรศัพท์สาธารณะหน้าโรงเรียนพาณิชยการลานนา นายพงษ์พิพัฒน์ได้พาพวกเข้ารุมทำร้าย แต่นายทวีศักดิ์หนีไม่ทันจึงถูกจับตัวไว้ และถูกนายพงษ์พิพัฒน์ใช้มีดแทงที่หน้าอกและหลัง หลายครั้งจนเสียชีวิต

"น่าแปลกตรงสาเหตุที่นายพงษ์พิพัฒน์รับสารภาพว่า ลงมือเพราะเครียด ที่ถูกพ่อแม่ไล่ออกจากบ้าน และทำไปด้วยความความคึกคะนองเท่านั้น ซึ่งคดีนี้ได้สั่งการให้ดำเนินคดีกับกลุ่มดังกล่าวให้ถึงที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่คนอื่น นอกจากนี้ยังสั่งการให้ตำรวจติดตามตัวและขออนุญาตศาลจังหวัดเชียงใหม่ออกหมายจับผู้ร่วมก่อเหตุที่เหลือมาดำเนินคดีให้ได้" พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ กล่าว

พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ บอกว่า คนร้ายกลุ่มนี้เรียกตัวเองว่า กลุ่มมีโอ ตามชื่อรุ่นรถจักรยานยนต์ที่ใช้ตระเวนก่อเหตุ มีผู้ร่วมขบวนการ 7-8 คน และยังเป็นสมาชิกกลุ่มเอ็นดีอาร์ หรือหน้าดารา ด้วย ทั้งหมดมีพฤติการณ์รุมทำร้ายร่างกายคนอื่นในช่วงเวลากลางคืนจนถึงแก่ชีวิต โดยใช้มีดปาดและแทงคอเหยื่อเคราะห์ร้าย ทั้งๆ ที่ไม่ได้รู้จักมาก่อน

ชี้เด็กไทยเครียดมากขึ้น

สอดคล้องกับที่ น.พ.สุชัย เจริญรัตนกุล รักษาการรองนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมสุขภาพจิตแห่งชาติ (คสสจช.) เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 19 กรกฎาคม ว่า ขณะนี้ปัญหาสุขภาพจิต เป็นโรคระบาดระดับโลก ที่มีความซับซ้อน น่าเป็นห่วงมาก จำเป็นต้องหาทางแก้ไขโดยเร่งด่วน จากผลการสำรวจสถานการณ์สุขภาพจิตคนไทยครั้งล่าสุด เมื่อปี 2546 พบว่าคนไทยมีความเครียดขั้นรุนแรงถึงร้อยละ 8 หรือเกือบ 5 ล้านคน โดยเฉพาะกลุ่มเด็กนักเรียนมีสติปัญญาต่ำกว่ามาตรฐานโลกถึง 10 จุด ส่วนกลุ่มวัยแรงงานอายุ 15-59 ปี พบผู้มีความเครียดอยู่ในขั้นรุนแรง อันเป็นผลจากการทำงาน เกือบ 4 ล้านคน ขณะที่กลุ่มผู้สูงอายุ มีผู้อยู่ในภาวะซึมเศร้า ประมาณ 9 แสนคน

น.พ.สุชัย กล่าวว่า การแก้ปัญหาสุขภาพจิตของไทยในช่วงที่ผ่านมา จะเน้นการรักษาฟื้นฟูมากกว่าการป้องกัน ซึ่งในงบประมาณปี 2549 ได้จัดงบรักษาฟื้นฟู 1,500 ล้านบาท และจัดงบป้องกันเพียง 158 ล้านบาท การทำงานจึงอยู่ในลักษณะการแก้ปัญหาที่ปลายทาง ทำให้คนที่มีปัญหาสุขภาพจิตแต่ยังไม่ถึงขั้นป่วยไม่ได้รับการส่งเสริม หรือชี้ทางออกที่เหมาะสม จนกลายเป็นปัญหาออกสู่สังคมเรื่อยๆ

นายพินิจ จารุสมบัติ รักษาการ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า จากการสำรวจของกระทรวงสาธารณสุข เมื่อปี 2546 พบว่าทั่วประเทศมีคนไทยป่วยทางจิตประมาณ 12 ล้านคน ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น่าเป็นห่วงมาก โดยองค์การอนามัยโลกคาดว่าโรคซึมเศร้าจะกลายเป็นปัญหาอันดับ 1 ของโลก เท่ากับโรคหัวใจในอีก 14 ปีข้างหน้า

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์