วงจรปิดพิชิตคนร้าย อดีตรปภ.หมู่บ้าน ฆ่าข่มขืนสาวใหญ่







พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ แถลงจับคนร้าย

แล้วในที่สุดตำรวจก็สามารถปิดคดีคนร้ายบุกฆ่าข่มขืน น.ส.สกุลนารี หรือ ก้อย แสงทอง สาวใหญ่ วัย 40 ปี หมกบ้านพักย่าน อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ลงได้สำเร็จ รวบตัวคนร้ายซึ่งเป็นอดีตรปภ.เอาไว้ พร้อมของกลางมากมาย

หนีได้ไม่นานก็จนมุมจนได้

นายวีระพันธ์ หรือ "ไอ้ตุ๊ก" หัวหนองหาญ อายุ 25 ปี คือคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ หมอนี่ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นอดีตรปภ.ประจำหมู่บ้าน ซึ่งมีพฤติกรรมสุดอุกอาจบุกเข้าไปในบ้านเหยื่อซึ่งพักอยู่ตามลำพัง ก่อนจะลงมือข่มขืนแล้วฆ่าเหยื่อจนตาย หลังจากนั้นจึงลงมือขโมยทรัพย์สินหลบหนีไป

แต่ทว่าหนีไปได้ไม่นานก็ถูกตำรวจตามจับได้

สุดท้ายเลยต้องเข้าไปใช้กรรมในคุก!!



ย้อนไปดูคราวเคราะห์ของน.ส.สกุลนารี เกิดขึ้นวันที่ 3 พ.ย. บ่ายวันนั้นตำรวจสภ.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี รุดไปชันสูตรพลิกศพของเธอ ซึ่งถูกคนร้ายฆ่าข่มขืนหมกบ้านพักเลขที่ 59/698 หมู่บ้าน บุรีรมย์ โดยคนร้ายบุกเข้าไปทางช่องลมห้องน้ำชั้นล่าง งัดเหล็กดัดเข้าไป

สภาพศพของ "สกุลนารี" ถูกฆ่าตายภายในห้องน้ำ ศพขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง มือทั้งสองข้างถูกใส่กุญแจมือไพล่หลัง ลำตัว แขน ขา โดนแทงพรุนกว่า 10 แผล อวัยวะเพศมีร่องรอยถูกข่มขืน เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน เจ้าหน้าที่สอบปากคำพยานบ้านใกล้กัน ได้ความว่า ก่อนพบศพ 3 วัน ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องกรี๊ด แต่ไม่รู้ว่าดังมาจากบ้านหลังไหน จึงไม่มีใครนึกเอะใจว่าจะเกิดเหตุร้าย





1ชาวบ้านฮือประชาทัณฑ์

2.งัดตรงนี้เข้าไป

3..นาทีฆ่า!



เรื่องมาเฉลยตอนที่คนในหมู่บ้านไม่เจอหน้าน.ส.สกุลนารี นานหลายวันจนผิดสังเกต ทั้งๆ ที่ปกติแล้ว "สกุลนารี" จะต้องออกมาพบปะพูดคุย หรือไม่ก็ไปกินข้าวกับเพื่อนบ้านคนสนิทเหมือนกับที่เคยทำ ทุกคนจึงพากันไปตะโกนเรียกที่บ้าน ก็ไม่มีเสียงตอบรับ มีแต่กลิ่นเหม็นเน่าของซากศพที่โชยมาเตะจมูก จนต้องตัดสินใจงัดบ้านเข้าไปดูกัน

เท่านั้นก็รู้ว่าเธอถูกฆ่ากลายเป็นศพ!!

ตำรวจตรวจสอบภายในบ้านพบร่องรอยรื้อค้นข้าวของกระจัดกระจาย สะพานไฟของบ้านถูกยกลง ทรัพย์สินหลายอย่างหายไป รวมทั้งรถยนต์มิตซูบิชิ รุ่นซีดาน สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน วพ 5997 กทม. ของผู้ตาย นอกจากนี้ ยังพบรองเท้าแตะของคนร้ายตกอยู่ 1 ข้าง

ตำรวจจึงบันทึกทุกอย่างเอาไว้

คดีนี้เป็นคดีใหญ่ท้าทายกฎหมาย พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. ลงมาสั่งการไล่ล่าคนร้าย เรียก พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธ์ ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี หารือแนวทางการตามล่า มอบหมายให้ พ.ต.อ. นันทชาติ ศุภมงคล รอง ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.อนุสรณ์ กลิ่นขจร ผกก.สภ.คูคต จัดตำรวจมือดีแกะรอยมือฆ่า

เริ่มนับถอยหลังลากคอมันมาดำเนินคดี

ตำรวจสอบปากคำพยานแวดล้อมหาปูมหลังผู้ตาย พบว่า "สกุลนารี" พักอาศัยอยู่ที่บ้านตามลำพัง เนื่องจากเพิ่งเลิกกับสามีได้ไม่นาน เธอทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ติดต่อประสานงานต่างประเทศ บริษัท จีเท็ค เอ็นจีเนียริ่ง จำกัด ซึ่งที่ผ่านมา "สกุลนารี" ไม่เคยมีปัญหากับใคร ยกเว้นนายวีระพันธ์ รปภ.ประจำหมู่บ้านที่เคยแสดงพฤติกรรมลวนลามใส่ จนเรื่องราวบานปลายกลายเป็นเรื่องใหญ่ ในที่สุดนายวีระพันธ์พร้อมกับเพื่อนรปภ.อีกหลายคน ถูกไล่ออกจากงานไป





น.ส.สกุลนารี



แต่ถึงโดนไล่ออก นายวีระพันธ์กับพวกก็ยังเช่าบ้านพักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านใกล้ๆ หมู่บ้านของผู้ตาย ราวเพื่อประวิงเวลาก่อเหตุร้าย

เป้าจึงพุ่งไปที่นายวีระพันธ์ก่อนใคร!!?

เพื่อให้เข้าใกล้คนร้าย ตำรวจจึงนำรองเท้าแตะไปตรวจสอบ และรีบเปิดดูกล้องวงจรปิดในหมู่บ้าน พบว่าในวันที่ 31 ต.ค. คนร้ายได้ขับรถเก๋งของผู้ตายออกจากหมู่บ้านไป ซึ่งคนขับไม่ใช่ใครที่ไหน คือ นายวีระพันธ์ที่ตำรวจสงสัยนั่นเอง ซึ่งนอกจากจะขโมยรถไปแล้ว คนร้ายยังพยายามนำบัตรเอทีเอ็มของผู้ตายไปรูดอีกด้วย แต่รูดไม่ผ่าน ภาพคนร้ายจึงไปปรากฏอีกครั้งในกล้องวงจรปิดหน้าตู้เอทีเอ็ม

เท่านั้นพนักงานสอบสวนก็ขออนุมัติศาลธัญบุรี ออกหมายจับเลขที่ 1371/2552 ลงวันที่ 4 พฤศจิกายน 2552 ตั้งข้อหานายวีระพันธ์ฐานฆ่าผู้อื่นทันที



ทีมสืบใช้เทคนิคขั้นสูงสืบจนรู้ว่านายวีระพันธ์หนีไปพักอยู่ที่บ้านพี่ชายแฟนสาว ย่านบางพลัด วันที่ 5 พ.ย. ตำรวจเมืองปทุมจึงตามไปดักจับเอาไว้ได้ ที่ซอยข้างห้างตั้งฮั่วเส็ง ถ.สิรินธร เขตตลิ่งชัน ขณะหมอนี่กำลังเดินเล่นอย่างสบายใจ

คนร้ายให้การรับสารภาพตลอดข้อหา

"วีระพันธ์" ย้อนเหตุการณ์ให้ฟังว่า เคยทำงานเป็นรปภ.ในหมู่บ้านเกิดเหตุ ต่อมาไปก่อเหตุลวนลามผู้ตายทำให้ถูกไล่ออกยกชุด จึงย้ายมาอาศัยกับแฟนสาวที่บ้านพักใกล้ๆ หมู่ บ้านเกิดเหตุ วันเกิดเหตุจะร่วมหลับนอนกับแฟน แต่ติดที่มีประจำเดือน จึงขี่รถจักรยานออกมารับลม และนึกถึงน.ส. สกุลนารี เพราะทราบว่าพักอยู่เพียงลำพัง เพราะผู้ตายเคยขอความช่วยเหลือให้ช่วยจับงูที่เข้าบ้าน ประกอบกับเคยแอบชอบพออยู่ก่อน และต้องการล้างแค้น จึงขี่จักรยานเข้าไปในหมู่บ้าน ปีนรั้วบ้านของผู้ตายเข้าไปด้านหลัง หยิบมีดในครัวมาเตรียมไว้แล้วขึ้นไปบนห้อง แต่ปรากฏว่าติดล็อก จึงใช้วิธีสับสวิตช์เบรก เกอร์ไฟฟ้าในบ้านเพื่อให้ไฟดับ คิดว่าผู้ตายซึ่งนอนในห้องแอร์ต้องออกมาจากห้อง เนื่องจากร้อน แล้วก็นั่งรอเวลาอยู่จนประมาณตี 4 น.ส.สกุลนารี ก็เปิดห้องออกมา จึงเข้าจับตัวใส่กุญแจมือและขืนใจ แต่ผู้ตายต่อสู้ขัดขืนจึงใช้มีดแทงตาย



บ่ายวันเดียวกัน ตำรวจนำตัวคนร้ายไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านเกิดเหตุ มีชาวบ้านกว่า 200 คน มามุงดูพร้อมตะโกนสาปแช่งขอให้ตายตกไปตามกัน ท่ามกลางความชุลมุนของชาวบ้าน ที่พยายามฝ่าวงล้อมตำรวจเข้ารุมประชาทัณฑ์ เจ้าหน้าที่ต้องรีบนำคนร้ายออกจากจุดเกิดเหตุอย่างทุลักทุเล

กล่าวถึงนายวีระพันธ์ นอกจากจะก่อคดีโหดฆ่าขืนใจผู้ตายแล้ว ตำรวจยังขยายผลพบว่าก่อนหน้านี้หมอนี่ยังมีประวัติขืนใจสาวพม่าในพื้นที่สน.บางนา ถูกจับกุมได้เมื่อเดือนต.ค. ที่ผ่านมา ระหว่างนี้อยู่ในช่วงประกันตัวสู้คดี

แต่หนนี้คงออกจากคุกยากเต็มที!!


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าวคุณภาพดี โดย : หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์