ล่าโจรอ้างเป็นตร. ปล้นแม่ค้าตลาดไท ฉกทรัพย์ 5 ล้านเผ่น

"คนร้ายปล้นทรัพย์ มัดมือมัดเท้า"


เมื่อเวลา 01.30 น.วันที่ 14 ธ.ค. พ.ต.ท.บัญชา ศรีสุข สารวัตรเวร สภ.อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายปล้นทรัพย์จับเจ้าทุกข์มัดมือมัดเท้าแล้วรุมทำร้าย ที่บ้านเลขที่ 71/201 หมู่บ้านพระปิ่น 7 เฟส 3 ซอยย่อย 2 หมู่ 9 ต.คลองหนึ่ง จึงรายงานให้ พ.ต.อ.สุรศักดิ์ ขุนณรงค์ ผกก. นำกำลังฝ่ายสืบสวน พร้อมประสาน พ.ต.อ.ปรีดี พงษ์เศรฐสันต์ ผกก.วท.เขต 11 นำเจ้าหน้าที่ วิทยาการไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮาส์ 2 ชั้นมีรั้วรอบขอบชิด พบ น.ส.ชูศรี เชี่ยวเชิงศึก อายุ 45 ปี เจ้าของบ้านอยู่ในอาการตื่นตระหนกเปิดเผยว่า ถูกคนร้ายเป็นชาย 4 คน อ้างตัวเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ บุกเข้ามาปล้นทรัพย์สินไปหลายรายการ ประกอบด้วยรถเก๋งยี่ห้อบีเอ็มดับบลิว รุ่น 318 ไอ สีบรอนซ์เทา สภาพใหม่ ทะเบียน ษอ 318 กรุงเทพมหานคร ราคา 2.6 ล้านบาท สร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท มูลค่า 33,000 บาท สร้อยข้อมือทองคำฝังเพชร ราคา 3 แสนบาท เงินสด 1 แสนบาท แหวนทองคำหัวหยก ราคา 35,000 บาท แหวนเพชร 3 วงรวมมูลค่า 82,000 บาท พระเหรียญหลวงพ่อโต วัดพนัญเชิงเลี่ยมทอง ราคาประมูล 45,000 บาท กล้องถ่ายรูปราคา 20,000 บาท และทรัพย์สินอื่นๆ อีกหลายรายการ รวมทั้งบัตรเอทีเอ็มและบัตรเครดิตธนาคารต่างๆ อีกหลายใบ รวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท

"อ้างเป็นตำรวจ ขนทรัพยสินหนี"


สอบสวน น.ส.ชูศรีให้การว่า เป็นเจ้าของร้าน แจ๋ว-ใหญ่ ขายส่งหอมหัวใหญ่ แครอท และลูกท้อรายใหญ่ในตลาดไท อ.คลองหลวง ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 00.45 น. ได้ขับรถเก๋งบีเอ็มดับบลิวออกจากร้านกลับมาถึงบ้าน ลงไปกดกริ่งเรียกสาวใช้ชาวพม่าชื่อ น.ส.นก อายุ 16 ปี มาเปิดประตูแล้วเลื่อนรถเข้าไปจอดในบ้าน หลังจากดับเครื่องยนต์แต่ยังไม่ทันลงจากรถ ได้มีคนร้ายเป็นชายฉกรรจ์ 4 คน อายุประมาณ 25-30 ปี ทุกคนสวมหมวกแก๊ปอำพรางโฉม ขับรถเก๋งโตโยต้ายาริส สีเทา ไม่ทราบทะเบียน มาจอดหน้าบ้าน กรูกันเข้ามาในบ้าน เปิดประตูรถจับตนล็อกมือไพล่หลัง พร้อมบอกว่าเป็นตำรวจสายสืบ หนึ่งในนั้นมีปืนเหน็บอยู่ที่เอว ส่วนอีกคนอ้างตัวเป็นผู้กอง จะนำกำลังมาจับกุมแรงงานต่างด้าวตามคำสั่งของ นาย

แม่ค้าเหยื่อโจรให้การถึงนาทีระทึกขวัญต่อไปว่า จากนั้นกลุ่มคนร้ายกระชากตนลงจากเบาะที่นั่งคนขับ เปิดประตูหลังรถผลักเข้าไปที่เบาะท้าย ใช้สายรัดพลาสติกมารัดข้อมือไพล่หลัง ใช้เทปพันสายไฟมัดขาทั้ง 2 ข้าง แล้วเอาผ้าขี้ริ้วมาปิดปาก ก่อนช่วยกันอุ้มเข้าไปในบ้าน ชายคนที่อ้างตัวเป็นผู้กองข่มขู่บังคับให้บอกที่ซ่อนทรัพย์สิน พร้อมบอกว่าคุยกับหัวหน้า รปภ.ตลาดไท ว่า มึงปากดีนัก ไปทำอะไรนายกูไว้ ส่วนที่เหลือช่วยกันปลดทรัพย์สินที่สวมใส่ติดตัว ตนพยายามมองหน้ากลุ่มคนร้ายจึงถูกตบหน้าและชกต่อยหลายครั้งจนจุก ส่วน น.ส.นก สาวใช้ชาวพม่า ถูกพาไปขังไว้ในห้องนอนชั้นบนแล้วใช้ผ้าห่มคลุมไว้ ระหว่างนั้นคนร้ายเคาะประตูห้องนอน น.ส.ณัฐกฤต สะใบแก้ว อายุ 16 ปี หลานสาวที่หลับอยู่ แต่หลานสาวคงรู้ว่าเกิดเหตุร้าย จึงไม่ยอมเปิดประตูให้ ก่อนที่ทั้งหมดจะแยกย้ายกันรื้อค้นหาทรัพย์สิน อยู่ประมาณ 30 นาที จึงพากันหลบหนีไป โดยเชิดเอารถเก๋งบีเอ็มดับบลิวของตนไปด้วย

"สั่งเร่งติดตามคนร้ายโดยด่วน"


ด้าน พ.ต.อ.ปรีดี พงษ์เศรฐสันต์ ผกก.วท.เขต 11 เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุได้เก็บลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายไว้หลายจุด ทั้งชั้นล่างและชั้นบน นอกจากนี้ ยังพบเส้นผมที่คาดว่าเป็นของคนร้ายติดอยู่ กับผ้าเทปที่ใช้มัดขาผู้เสียหาย จะนำไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

ต่อมาเวลา 10.00 น. พล.ต.ต.ประพันธ์ พานิคม ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี เดินทางไปที่ สภ.อ.คลองหลวง เรียกประชุมวางแนวทางคลี่คลายคดี จากนั้นเปิดเผยว่า กลุ่มคนร้ายรู้ความเคลื่อนไหวของผู้เสียหายเป็นอย่างดี ขับรถสะกดรอยตามจากตลาดมาถึงบ้านโดยที่เหยื่อไม่รู้ตัว อาศัยจังหวะที่ขับรถเข้าไปจอดในบ้านแล้วคนใช้ยังปิดประตูไม่สนิทบุกเข้าไปก่อเหตุ หลังเกิดเหตุเวลาตี 1 เศษ รปภ.ของหมู่บ้านเห็นชายสวมหมวกแก๊ปขับรถเก๋งบีเอ็มฯ ของผู้เสียหายออกไป ทิ้งช่วงประมาณ 5 นาที ก็เห็นรถเก๋งโตโยต้า ยาริส สีเทา มีชายในรถ 3 คน ขับตามออกไป ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนออกหาเบาะแสแก๊งโจรรายนี้อย่างเร่งด่วน

"ปมสืบสวนหลายประเด็น"


หากประชาชนพบเห็นหรือให้เบาะแสจนสามารถจับกุมคนร้ายได้ ผู้เสียหายจะให้รางวัลนำจับ 1 แสนบาททันที ล่าสุด ช่วงเวลาตี 3 เศษ มีคนเห็นรถเก๋งบีเอ็มฯคล้ายรถของผู้เสียหายจอดคุยกับรถเก๋งอีกคันบริเวณใกล้ห้างเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน ตำรวจ สภ.อ. คลองหลวงประสานไปยังตำรวจในพื้นที่ออกตรวจสอบแต่ยังไม่พบ

ช่วงบ่ายวันเดียวกัน พล.ต.ต.ประพันธ์ พานิคม ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี เดินทางไปตรวจบ้านที่เกิดเหตุเพื่อสอบปากคำพยานเป็นสาวใช้ในบ้านและ รปภ.หมู่บ้านอีก 3-4 คน จากนั้นนำผู้เสียหายไปสเกตช์ภาพคนร้ายที่กองวิทยาการเขต 11 โดย พล.ต.ต.ประพันธ์เปิดเผยว่า ตั้งข้อสันนิษฐานไว้ 2 ประเด็น ประเด็นแรกคือคนร้ายประสงค์ต่อทรัพย์ กับอีกประเด็นอาจเป็นเรื่องโกรธแค้นส่วนตัว มีสาเหตุมาจาก 3 เรื่อง เรื่องแรกทราบว่าผู้เสียหายมีลักษณะเป็นทอม เคยมีแฟนสาวและมีปากเสียงกันก่อนที่แฟนสาวจะเลิกราไปคบหาผู้ชาย เรื่องที่สองคือผู้เสียหายมีปากเสียงกับร้านค้าในตลาดถึงขั้นท้าชกต่อยกัน และเรื่องสุดท้ายคือหลานเขยคนหนึ่งของผู้เสียหายมีนิสัยเป็นนักเลงอันธพาล จะได้เร่งสืบสวนคลี่ปมคดีต่อไป

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์