ล่าแท็กซี่แทงสาว เมียแฉผัวผีพนันบอล

เจ้าหน้าที่รับเรื่องราวร้องทุกข์ บริษัทไอบีเอ็ม จำกัด ถูกนายวรพล ศิริชัย โชเฟอร์แท็กซี่ ใช้อาวุธมีดแทง ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะนั่งอยู่บนรถแท็กซี่โตโยต้า อัลติส ทะเบียน ทม 2670 กรุงเทพมหานคร ของบริษัทสหกรณ์สหมิตร จำกัด เหตุเกิดบนถนนอโศก-ดินแดง ขาเข้า บริเวณใกล้แยกโบสถ์แม่พระ เมื่อคืนวันที่ 5 ต.ค. ที่ผ่านมา จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน. ดินแดง เชื่อว่าเป็นเหตุประสงค์ต่อทรัพย์ เนื่องจากนายวรพลติดการพนันทายผลฟุตบอลงอมแงม

พ.ต.ท.ศุภกฤช เดือนแจ้งรัมย์ สว.สส.สน.ดินแดง เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำผู้เสียหายยืนยันว่าผู้ก่อเหตุคือนายวรพล ศิริชัย ขณะนี้พนักงานสอบสวนไปขออนุมัติศาลออกหมายจับแล้ว ในข้อหาพยายามฆ่าและพกพาอาวุธไปในที่สาธารณะ

ส่วนสาเหตุเชื่อว่าเป็นการ ประสงค์ต่อทรัพย์ สอดคล้องกับหลักฐานที่ตำรวจค้นเจอโพยแทงพนันฟุตบอลในรถแท็กซี่ที่นายวรพลเช่าไปขับขี่ รวมทั้งเจ้าของอู่แท็กซี่ที่ให้นายวรพลเช่ารถก็ยืนยันว่าทุกครั้งที่นายวรพลนำรถไปส่ง จะเจอโพยแทงพนันฟุตบอลอยู่ในรถเกือบทุกครั้ง และดูจากพฤติการณ์ของคนร้ายน่าจะก่อเหตุในลักษณะเดียวกันนี้มาแล้วหลายครั้ง ตอนนี้ฝ่ายสืบสวนกำลังขยายผลถึงผู้เสียหายรายอื่นๆด้วย

ที่พักรักษาตัวอยู่อาคารสถาบันโรคหัวใจ โรงพยาบาลราชวิถี นายนพดล ชินบัวทอง บิดา ซึ่งเฝ้าดูอาการของบุตรสาวอย่างใกล้ชิดเปิดเผยว่า ตอนนี้อาการของบุตรสาวอยู่ในขั้นปลอดภัย รู้สึกตัวดีแล้ว แต่แพทย์ยังเป็นห่วงเรื่องติดเชื้อ อยากให้พักผ่อนมากๆระหว่างนี้จึงไม่อยากให้ใครรบกวน เท่าที่ได้คุยกันโดยตนถามนำและให้บุตรสาวพยักหน้าตอบ

ทำให้รู้ว่าน้องเปิ้ลเป็นเด็กเข้มแข็งพยายามต่อสู้คนร้าย ในขณะเกิดเหตุคนร้ายอาศัยจังหวะที่น้องเปิ้ลเผลอจ้วงแทงทันที เหมือนต้องการให้ตายแล้วปลดทรัพย์เอาศพไปทิ้ง เรื่องข่มขืนไม่น่าใช่ เพราะแทงตายแล้วขืนใจไม่ได้ ถ้าจะขืนใจต้องโปะยาสลบ

จ.นนทบุรี เพื่อพบนางอชิรยา ศิริชัย อายุ 35 ปี ภรรยาของนายวรพล ซึ่งไปเฝ้าบุตรสาวที่อยู่ระหว่างพักรักษาตัวหลังเข้าผ่าตัดไส้ติ่ง ตั้งแต่วันที่ 5 ต.ค. ที่ผ่านมา นางอชิรยาเปิดเผยว่า นายวรพลเป็นคนดี รักลูกรักเมีย ระยะหลังเริ่มมีปัญหาเกี่ยวกับติดหนี้พนันบอลเมื่อวันที่ 2 ต.ค.


ที่ผ่านมามีพวกโต๊ะบอลตามไปทวงหนี้ 2 หมื่นบาท แต่นายวรพลไม่มีเงินจ่าย จากนั้นตนกับสามีก็มีปากเสียงกัน ไม่พูดกันหลายวัน กระทั่งเย็นวันที่ 5 ต.ค. หลังจากลูกสาวเข้าโรงพยาบาล นายวรพลโทรศัพท์มาบอกว่าจะไปขอยืมเงินญาติที่ จ.ขอนแก่น ไปใช้หนี้และเอามาจ่ายค่ารักษาพยาบาลลูก แล้วก็เงียบหายไป กระทั่งตำรวจไปบอกว่าสามีก่อเหตุชิงทรัพย์และใช้มีดแทงผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บ

อยากให้นายวรพลรีบเข้ามอบตัว เพราะมอบตัวแล้วยังไปเยี่ยมเห็นหน้ากันได้ ดีกว่าหลบหนีอยู่อย่างนี้ ลูกๆก็ติดพ่อ อยากให้พ่อกลับมาเร็วๆ ส่วน น.ส.พรรณีรัตน์ ผู้เสียหาย ขอกราบขอโทษที่สามีไปทำร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส คิดว่าหลังจากลูกสาวออกจากโรงพยาบาลแล้ว จะพากันไปกราบขอโทษที่โรงพยาบาล