ล่าฝรั่งมือปืน คลี่ฆ่า2แหม่ม

"กระหน่ำ 4 นัด 9 วินาที สังหาร"


จากกรณีมือปืนสังหารโหด น.ส. สวิรโควา ลูโบฟ อายุ 25 ปี กับ น.ส.ซืนเมร ทาทิอานา อายุ 30 ปี สัญชาติรัสเซีย ตายเคียงคู่กันบนเตียงผ้าใบขณะนอนเล่นรับลมทะเลที่ชายหาดจอมเทียน หน้าโรงแรมอนันทยารีสอร์ต จอมเทียน หมู่ 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยมือสังหารฉายเดี่ยว ขี่รถ จยย.มาจอดริมถนนเลียบชายหาด เดินลงไปกระหน่ำยิง 4 นัด ใช้เวลาลงมือเพียง 9 วินาที ก่อนขี่ จยย.เผ่นหนีไป โดยไม่ได้แตะต้องทรัพย์สินของเหยื่อ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจมุ่งปมขัดแย้งเกี่ยวกับขบวนการค้ากามข้ามชาตินั้น

ต่อมาบ่ายวันที่ 25 ก.พ.ที่ศูนย์บัญชาการสืบสวนสอบสวนคดีฆ่า 2 แหม่มรัสเซีย ซึ่งตั้งอยู่ภายในอาคารโรงแรมอนันทยา รีสอร์ต จอมเทียน พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.ภ.2 ได้เรียกเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเข้าประชุมสรุปผลของคดี โดยมี พล.ต.ต.ระพีพัฒน์ ปาละวงศ์ รอง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.อนันต์ เจริญชาศรี ผบก.ภ.จ.ชลบุรี พ.ต.อ.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รอง ผบก.ภ.จ.ชลบุรี พ.ต.อ. สุทิน ทรัพย์พ่วง ผกก.สภ.ต.พัทยา พื้นที่เกิดเหตุ ชุดสืบสวน สภ.ต.พัทยา ชุดสืบสวน บก.ภ.จ.ชลบุรี สภ.อ.บางละมุง สภ.อ.สัตหีบ และชุดสืบสวน บช.ภ.2 รวมทั้งสืบสวนตำรวจท่องเที่ยวพัทยา และ พ.ต.อ.ภิรมย์ ปรียากร ผกก. สภ.อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ในฐานะหัวหน้าชุดปราบปรามคนร้ายข้ามชาติ บช.ภ.2 ร่วมประชุมด้วย

นอกจากนี้ นายวาลดีเมีย วี โปรวิน หัวหน้ากงสุลรัสเซีย ประจำประเทศไทย เข้าร่วมประชุมพร้อมนำประวัติของผู้ตายทั้งสองมาแสดงเพื่อเป็นแนวทางคลี่คลายคดีด้วย พร้อมกันนี้ในที่ประชุมได้นำภาพวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุ และภาพวงจรปิดที่ติดตั้งในรัศมีจุดเกิดเหตุ 200 เมตร มาเปิดดูและวิเคราะห์อย่างละเอียด

"ตร.คาด ปมค้ากามข้ามชาติ"


หลังการประชุม พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.ภ.2 และชุดสืบสวนในคดีได้จำลองเหตุการณ์สังหาร 2 สาวรัสเซียเพื่อประกอบคดี พร้อมเปิดเผยว่า จากการประชุมและวิเคราะห์จากภาพวงจรปิดเชื่อว่าคนร้ายเป็นชายไม่ทราบสัญชาติ 1 คน สูงประมาณ 185 ซม. ลงมือก่อเหตุอย่างรวดเร็ว ส่วนปมสังหารยังไม่ปักใจเชื่อเรื่องใดเรื่องหนึ่ง สำหรับสาเหตุที่ระบุว่า ถูกฆ่าโดยกลุ่มมาเฟียค้ากามข้าม ชาติที่ฝังตัวในเมืองพัทยานั้นมีมูลเหตุน้อยมาก และอาจไม่ใช่สาเหตุของการฆ่าโหดครั้งนี้ แต่ยังไม่ตัดทิ้งไปเสียทีเดียว ชุดสืบสวนต้องหารายละเอียดอีกครั้ง

พล.ต.ท.อัศวินกล่าวอีกว่า สำหรับประวัติของผู้ตายทราบว่า ทั้ง 2 คนทำอาชีพเป็นพนักงานรับโทรศัพท์ ของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในประเทศรัสเซีย เดินทางมาเที่ยวประเทศไทยเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา และมีกำหนดกลับรัสเซียในวันที่ 3 มี.ค.นี้ ทั้ง 2 เดินทางมาในลักษณะกรุ๊ปทัวร์กับบริษัท ดิสคัฟเวอร์รี่ ฮอลิเดย์ จำกัด ตั้งอยู่ปากทางเข้าพัทยาปาร์ค จอมเทียน พร้อมลูกทัวร์อื่นๆประมาณ 50 คน แต่พอมาถึงทั้งคู่ ต้องการใช้ชีวิตที่อิสระ จึงแยกตัวมาพักเพียงลำพังที่โรงแรมดราก้อนบีช รีสอร์ต จอมเทียน

ผบช.ภ.2 กล่าวอีกว่า ก่อนพบจุดจบผู้ตายทั้งสองได้เดินทางไปเที่ยวเกาะล้าน พัทยา จากนั้นกลับมาเที่ยวตามสถานบริการย่านถนนวอล์กกิ้ง สตรีท พัทยาใต้ กระทั่ง เที่ยงคืนก่อนจะกลับที่พักได้ชวนกันมานอนเล่นริมหาดจอมเทียนกระทั่งถูกยิงเสียชีวิต ทางชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่หาข่าวแต่ละแห่งที่เหยื่อสังหารไปเที่ยวพร้อมทั้งตรวจ สอบเบอร์โทรศัพท์จากมือถือของผู้ตายที่โทร.เข้า-ออก เพื่อหาชนวนเหตุในการสังหารในครั้งนี้

"ตร.มืดแปดด้าน"


คดีนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการ ผบ.ตร. สั่งกำชับให้จับกุมคนร้ายรายนี้ให้ได้ เพราะทำลายชื่อเสียงการท่องเที่ยวของประเทศ และเป็นคดีสะเทือนขวัญประชาชน ผมยอมรับว่า คดียังมืดแปดด้าน แต่ก็พอมีเบาะแสบ้างแต่ยังไม่ขอเปิดเผยเกรงจะเสียรูปคดี อย่างไร ก็ตาม คดีนี้หากผู้ใดสามารถชี้เบาะแสนำไปสู่การจับกุมคนร้ายได้ผมจะให้รางวัลนำจับ 1 แสนบาท ผบช.ภ.2 กล่าว

ทางด้านการสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกตัว นายสุรินทร์ แบนสกุล อายุ 30 ปี ไกด์ประจำบริษัทดิส-เวอร์รี่ ฮอลิเดย์ จำกัด และเป็นผู้ที่ไปรับผู้ตายทั้งสองจากสนามบินมาสอบปากคำ โดยนายสุรินทร์ให้การว่า หลังรับตัวจากสนามบิน ทั้งสองขอแยกตัวไปเที่ยวและพักผ่อนอย่างอิสระ ไม่ได้เดินทางไปด้วย เลยไม่ทราบว่าผู้ตายมี ปัญหาหาขัดแย้งกับใคร อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวจากชุดสืบสวนระบุว่าแม้ว่าคดีนี้จะระบุว่าอาจจะไม่เกี่ยวกับเรื่องค้ากามข้ามชาติ แต่ชุดสืบสวนยังไม่ตัดทิ้ง โดยเฉพาะหลัง ดูภาพมือปืนจากกล้องวงจรปิด คนร้ายมีรูปร่างสูงใหญ่

อาจเป็นฝรั่งต่างชาติที่รู้จักกับเหยื่อทั้งสอง อาจมีการหักหลังกันในธุรกิจบางอย่างแล้วตามมาฆ่าในประเทศไทย

"นักท่องเที่ยวแห่กลับประเทศ"


ขณะที่นายธเนศร์ ศุภสหัสรังษี นายกสมาคมนักธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุฆ่าโหด 2 แหม่มรัสเซีย ทำให้นักท่องเที่ยวชาว รัสเซียที่พักอยู่ตามโรงแรมต่างๆ กว่า 200 แห่ง ในเมืองพัทยา พากันหวาดผวาในความไม่ปลอดภัยแห่กลับประ-ทศจำนวนมาก นอกจากนี้ กลุ่มที่จับจองห้องพักไว้ ล่วงหน้าต่างแจ้งยกเลิกจำนวนมากเช่นกัน ส่งผลให้การท่องเที่ยวเมืองพัทยาได้รับผลกระทบอย่างหนัก ดังนั้นจึงขอให้ ผบช.ภ.2 เร่งคลี่คลายคดีโดยเร็ว เพื่อเรียกความเชื่อมั่นในความปลอดภัยกลับคืนมา

ส่วนนายสาธิต ปิตุเตชะ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เป็นการกระทำอย่างอุกอาจ รัฐบาลควรเข้าไปดูแลอย่างจริงจัง เพราะว่าพัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูงจากชาวต่างชาติ แม้ว่าสาเหตุจะเกิดจากเรื่องใดก็ตาม ทั้งเรื่องมาเฟียค้ากามหรือความขัดแย้งส่วนตัว ขอให้รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการอย่างจริงจัง เพราะคดีนี้มีผลกระทบอย่างมากต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐบาลได้ประกาศว่าปีนี้จะเพิ่มรายได้ของประเทศจากการ ท่องเที่ยว ดังนั้น รัฐบาลต้องเอาจริงเอาจัง และที่สำคัญหากเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเรื่องมาเฟียต่างชาติหรือมาเฟียค้ากาม ยิ่งต้องขอให้รัฐบาลดำเนินการอย่างเด็ดขาด ชนิดถอนรากถอนโคน อย่าให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์