ล่าคนร้ายฆ่าหนุ่มใหญ่ชาวเกาหลี หมกโรงแรมหรู

ร.ต.ท.อานนท์ พ่องเฟื่อง ร้อยเวร สน.ลุมพินี ได้รับแจ้งวันนี้ (8 เม.ย.) ว่า มีชาวต่างชาติถูกฆาตกรรม

ภายในห้องพักของโรงแรมแกรนด์สุขุมวิท (กรุงเทพฯ) ถนนสุขุมวิท (ซอย 4) แขวงคลองเตย เขตปทุมวัน กทม. โดยที่เกิดเหตุอยู่บนชั้น 5 ภายในห้องเลขที่ 1518 ซึ่งเป็นห้องชุดหรูหรา ตกแต่งอย่างดี จากการตรวจสอบพบศพ Mr.Ho In Hee อายุประมาณ 40 ปี สัญชาติเกาหลี สภาพศพ นุ่งกางเกงในสีดำ เพียงตัวเดียว ไม่สวมเสื้อ นอนตะแคงคว่ำหน้าขวาจมกองเลือดอยู่บนเตียงนอน  มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด.38 ม.ม. จำนวน 1 นัด กระสุนเข้าที่ท้ายทอยทะลุเบ้าตาขวาเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้ว ประมาณ 6 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังพบอาวุธปืนลูกโม่ ยี่ห้อสมิธแอนด์เวสสัน ขนาด .38 ตกอยู่ด้านหลังของผู้ตาย จำนวน 1 กระบอก

โดยมีกระสุนปืนที่ยังไม่ยิงคาอยู่ในรังเพลิงอีก 5 นัด พบหัวกระสุน 1 หัว ตกอยู่บนที่นอน

ส่วนบริเวณห้องรับแขก พบว่ามีบุหรี่ที่สูบแล้ว 3 มวน วางอยู่บนปากขวดเบียร์ ที่ตั้งอยู่บนเก้าอี้ และที่พื้นห้องมีหมอนและผ้าห่มวางกองอยู่ คล้ายกับว่ามีคนมาขอพักอยู่ด้วย โดยโทรทัศน์ถูกเปิดทิ้งไว้ เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมรายละเอียดที่พบไว้เป็นหลักฐาน 
จากการสอบถามพนักงานของโรงแรม ทราบว่า เมื่อเวลา 01.30 น.วันเดียวกันนี้ ผู้ตายได้มาเปิดห้องพัก พร้อมกับ Mr.Khon Hyeukyouns และ Mr.Mour เพื่อนชาวเกาหลี โดยขอเปิดห้องเลขที่ 1517 และ 1518 ซึ่งโรงแรมพอมีข้อมูลว่า Mr.Mour เป็นไกด์ของบริษัททัวร์แห่งหนึ่ง และมักพานักท่องเที่ยวมาพักที่โรงแรมแห่งนี้เสมอ

สำหรับผู้ตายไม่ทราบว่าทำอาชีพอะไร
เนื่องจากไม่เคยเข้าพักที่โรงแรมแห่งนี้มาก่อน

ครั้งนี้การเปิดห้องทั้ง 2 ห้องได้ใช้ชื่อของ Mr.Khon ซึ่งทางโรงแรมเองก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใด Mr.Mour จึงไม่ใช้ชื่อของตัวเองอย่างที่เคยทำทุกครั้ง ต่อมา Mr.Khon ซึ่งพักอยู่ห้องเลขที่ 1517 ได้ออกมาให้ปากคำว่า ตนเดินทางมาจากเกาหลี พร้อมกับผู้ตาย และ Mr.Mour ซึ่งก่อนหน้านี้ ตนไม่เคยรู้จักกับผู้ตายมาก่อนเลย เพียงแค่ร่วมเดินทางมาด้วยกันเท่านั้น ส่วนเรื่องที่การจองห้องของโรงแรมเป็นชื่อตน ไม่ได้มีจุดประสงค์อื่นใด อีกทั้งเมื่อคืนไม่ได้เข้าไปในห้องของผู้ตาย จนมาทราบว่ากลายเป็นศพไปแล้ว ในช่วงเช้า
ด้านพ.ต.อ.สมบัติ เปิดเผยว่า เบื้องต้น ได้ประสานไปยังบริษัททัวร์ที่ Mr.Mour ทำงานอยู่ พบว่าทางบริษัทไม่มีประวัติใดๆเกี่ยวกับ Mr.Mour  เลยมีเพียงเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้ติดต่อเท่านั้น ทราบเพียงว่า Mr.Mour  ได้เอาชื่อของตัวเองไปขอร่วมอยู่ในบริษัทดังกล่าวเพื่อใช้เป็นส่วนลดในการพานักท่องเที่ยวเข้าพักตามโรงแรมต่างๆหลังจากเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่พยายามติดต่อกับ Mr.Mour  แต่ไม่สามารติดต่อได้ จึงได้ขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในโรงแรม โดยจากการตรวจสอบพบว่ามีชายอีก 1 คนซึ่งยังไม่ทราบที่มาที่ไปเข้ามาภายในโรงแรมพร้อมกับผู้ตาย และ Mr.Mour   

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์