ลูกผู้ใหญ่วอ ปัดพัวพันฆ่าฝรั่งบนเกาะเต่า เผยช่วงเกิดเหตุเรียนอยู่กทม.

ลูกผู้ใหญ่วอ ปัดพัวพันฆ่าฝรั่งบนเกาะเต่า เผยช่วงเกิดเหตุเรียนอยู่กทม.


ลูกผู้ใหญ่วอ ปัดพัวพันฆ่าฝรั่งบนเกาะเต่า เผยช่วงเกิดเหตุเรียนอยู่กทม. มีวงจรปิดยืนยัน 


เจ้าตัวเผยตั้งแต่มีข่าวก็ไม่ได้ไปเรียน ส่งผลกับตัวเอง-ครอบครัว วอนสังคมเข้าใจ 

จากคดีฆาตกรรมสยอง 2 หนุ่มสาวฝรั่งเมืองผู้ดี นายเดวิด มิลเลอร์ อายุ 24 ปี และน.ส.ฮันนาห์ วิเทอริดจ์ อายุ 24 ปี บนเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจสอบสวนและตรวจดีเอ็นเอผู้ต้องสงสัยชุดแรกทั้งแรงงานต่างด้าวและเพื่อนชาวฝรั่ง ต่อมาตรวจสอบดีเอ็นเอเจ้าของบาร์เบียร์ ล้วนไม่ตรงกับดีเอ็นเอที่เก็บได้จากจุดเกิดเหตุ ทำให้คดีต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ โดยการจัดทีมชุดสืบสวนจำนวนมากลงพื้นที่ควานตัว ด้านพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ว่าที่ผบ.ตร. ยืนยันผลดีเอ็นเอพบคนร้ายเป็นคนเอเชียแน่นอน ตามข่าวที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น 

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 30 ก.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นายวรท ตู้วิเชียร หรือดีโด้ อายุ 22 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยกรุงเทพ บุตรชายนายวรพันธ์ ตู้วิเชียร หรือผู้ใหญ่วอ ผู้ใหญ่บ้านใน ต.เกาะเต่า พร้อมนายอรรถกร อ้นอาจ ทนายความ เดินทางเข้าชี้แจงต่อสื่อมวลชน ถึงกรณีมีข่าวเกี่ยวข้องในคดีฆาตกรรม 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษบนเกาะเต่า

นายอรรถกร กล่าวว่า ยืนยันนายวรท ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวและไม่ได้หนีไปกบดานแต่อย่างใด โดยยังเรียนหนังสือตามปกติ ซึ่งกล้องวงจรปิดของหอพักใน จ.ปทุมธานี จับภาพนายวรทไว้ได้ว่าพักอาศัยอยู่ที่ห้องและไปเรียนหนังสือตามปกติ ตั้งแต่วันที่ 13-15 ก.ย. อีกทั้งยังมีรายละเอียดที่มหาวิทยาลัยเก็บรวบรวมไว้อีก ซึ่งเป็นเอกสารยืนยันการเข้าเรียนและการเข้าสอบของนายวรทได้

"ข่าวที่ออกมาสร้างความเสียหายให้นายวรทอย่างมาก ทำให้ไม่ได้เรียนหนังสือ ถูกสังคมตั้งคำถาม ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ จึงอยากเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้นายวรทด้วย" นายอรรถกรกล่าว

นายอรรถกรกล่าวอีกว่า นายวรทไม่คิดหลบหนีไปไหน ยืนยันพร้อมให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ แต่ที่ผ่านมายังไม่มีเจ้าหน้าที่เชิญตัวไปสอบปากคำ โดยข้อมูลดังกล่าวหวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี และสามารถให้ความกระจ่างชัดเจนต่อสังคมถึงความบริสุทธิ์ของนายวรทได้ เนื่องจากที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากข่าวที่ออกมา ทำให้มีผลกระทบวงกว้าง นำมาสู่การตอบโต้และการดูหมิ่นจากสังคม ส่งผลเสียให้นายวรทและครอบครัว

ด้านนายวรทกล่าวว่า ได้รับผลกระทบอย่างมาก ตั้งแต่เกิดเรื่องก็ไม่ได้ไปเรียนหนังสือ เนื่องจากคนรอบข้างตั้งคำถามว่าตนเป็นคนฆ่าหรือไม่ ขณะที่ในสังคมออนไลน์ก็เข้ามาด่าทอ จึงอยากขอความยุติธรรม เพราะรู้สึกหวาดกลัวและตอนนี้มีแต่เพื่อนสนิทรอบข้างเท่านั้นที่เข้าใจ

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์