ลูกชิงมอบตัว คดีไม้ตีฆ่าพ่อ

"เตรียมออกหมายจับลูกฆ่าพ่อ"


เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 1 มี.ค. นายเกียรติศักดิ์ แก้วประสม อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 492 หมู่ 3 ต.ทุ่งสง อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช เข้ามอบตัวกับ พ.ต.ท.ฐปกรณ์ เทิดรัตนพงศ์ รอง ผกก.สส. สภ.อ.นาบอน เพื่อต่อสู้คดี เนื่องจากนายเกียรติศักดิ์อยู่ระหว่างถูกพนักงานสอบสวน สภ.อ.นาบอน เตรียมขออนุมัติศาลออกหมายจับในข้อหาฆ่าบุพการีและลักทรัพย์

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเย็นวันที่ 8 ก.พ. ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ประพฤติ พูลศักดิ์ สารวัตรเวร สภ.อ.นาบอน รับแจ้งมีคนถูกฆ่าตายในสวนยางพาราบ้านควนสี หมู่ 3 ต.ทุ่งสง อ.นาบอน จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.สุวรรณ ขุนทองจันทร์ ผกก. แพทย์เวร รพ.นาบอน และหน่วยกู้ภัย ไปที่เกิดเหตุ พบศพนายสมพงศ์ แก้วประสม อายุ 61 ปี เจ้าของสวนยางพารารายใหญ่ใน ต.ทุ่งสง นอนตายอยู่ริมทางเดินภายในสวนยาง

มีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งที่ศีรษะกะโหลกแตก ฟันหน้าหักทั้งแถบ แขนขวาหัก ใบหน้ามีร่องรอยการถูกทำร้าย และพบไม้หน้าสามขนาดยาว 1 เมตร ตกอยู่ใกล้ศพ ตรวจสอบทรัพย์สินพบว่า รถ จยย.ฮอนด้า ดรีม สีแดง สภาพใหม่ ของผู้ตาย สร้อยคอทองคำหนัก 4 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง 1 องค์ แหวนทองคำหนัก 2 สลึง 1 วง และเงินสดอีกจำนวนหนึ่งหายไป

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายสมพงศ์ ขี่รถ จยย.ออกจากบ้าน เพื่อเข้าไปดูแลคนงานและสวนยางของตัวเองในหมู่บ้านเดียวกัน ต่อมามีผู้พบศพนายสมพงศ์ นอนตายอยู่ริมทางเล็กๆภายในสวน เบื้องต้นตำรวจคาดว่านายสมพงศ์อาจจะถูกฆ่าชิงทรัพย์ อย่างไรก็ตาม หลังจากตำรวจสอบสวนสืบสวนอย่างละเอียด รวมทั้งนำผู้ต้องสงสัยและบุคคลในครอบครัวมาสอบสวนและตรวจร่างกาย ตรวจเส้นผม เส้นขน เล็บ และเก็บดีเอ็นเอ

"ชิงมอบตัวก่อนถูกหมายจับ"


หาพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ รวมทั้งสอบพยานบุคคลที่เป็นประจักษ์ พยานและพยานแวดล้อม ตำรวจจึงได้ข้อมูลหลักฐานเป็นที่แน่ชัดว่า คนร้ายที่ก่อเหตุฆ่านายสมพงศ์ในครั้งนี้ คือนายเกียรติศักดิ์ ลูกชายของนายสมพงศ์นั่นเอง คดีอยู่ ระหว่างการเตรียมขออนุมัติศาลออกหมายจับ แต่ปรากฏว่านายเกียรติศักดิ์ชิงเข้ามอบตัวเสียก่อน พร้อมให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา อ้างว่าจะขอไปให้การในชั้นศาล

เบื้องต้น ตำรวจแจ้งข้อหาฆ่าบุพการีและลักทรัพย์ แก่นายเกียรติศักดิ์แล้วปล่อยตัวไป เนื่องจากคดียังไม่ได้ ออกหมายจับ โดยพนักงานสอบสวนจะได้มีหมายเรียกนายเกียรติศักดิ์ให้มาพบพนักงานสอบสวนอีกครั้ง เพื่อส่งตัวให้พนักงานอัยการส่งฟ้องศาลต่อไป

พ.ต.ท.ฐปกรณ์ เทิดรัตนพงศ์ รอง ผกก.สส. สภ.อ.นาบอน กล่าวว่า คดีนี้หลังเกิดเหตุได้สอบสวนสืบสวนอย่างละเอียด มีพยานที่เห็นเหตุการณ์ เป็นชาวสวนยางที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ และพยานแวดล้อมที่พบเห็นนายเกียรติศักดิ์ ขี่รถ จยย.ของผู้ตายออกไปจากที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว รวมทั้งพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ที่เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบแล้ว จึงเตรียมออกหมายจับนายเกียรติศักดิ์ ทั้งนี้ มีกำหนดจะนำสำนวนไปเสนอศาลขอออกหมายจับในวันที่ 2 มี.ค.นี้ แต่นายเกียรติศักดิ์ชิงเข้ามอบตัวเสียก่อน ซึ่งเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา เมื่อรู้ตัวว่าตกเป็นผู้ถูกกล่าวหา ก็สามารถมาพบพนักงานสอบสวน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาโดยไม่ต้องถูกควบคุมตัว แต่หากถูกออกหมายจับแล้วจะต้องถูกควบคุมตัว

"พฤติกรรมไม่ดี ช่วยมาตลอด ครั้งนี้ไม่ให้ถูกตีจนตาย"


รอง ผกก.สส. สภ.อ.นาบอน กล่าวอีกว่า จากการสอบสวนสืบสวนพบว่าสาเหตุการฆ่าพ่อของตัวเองครั้งนี้ เกิดจากการบันดาลโทสะของนายเกียรติศักดิ์ ทั้งนี้ นายเกียรติศักดิ์เป็นลูกชายคนโตของผู้ตาย เป็นคนที่มีความประพฤติไม่เรียบร้อย ต่อมาแยกตัวไปเปิดร้านรับซื้อยางพาราที่ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช แล้วไปรักใคร่ชอบพอกับหญิงวัยกลางคนคนหนึ่งใน อ.ทุ่งใหญ่ ถึงขั้นพามาอยู่กินกันที่ร้านรับซื้อยางของนายเกียรติศักดิ์ จากนั้นไม่นานปรากฏว่าสามีของผู้หญิงคนดังกล่าว ถูกคนร้ายใช้ปืนลอบยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส นายเกียรติศักดิ์จึงตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีพยายามฆ่าสามีของผู้หญิงคนดังกล่าว

พ.ต.อ.ฐปกรณ์กล่าวต่อว่า การสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุนายเกียรติศักดิ์กลับมาบ้านพ่อที่ อ.นาบอน เพื่อมาขอเงินนายสมพงศ์ ผู้เป็นพ่อ เพื่อนำเงินไปเคลียร์คดีที่ตัวเองตกเป็นผู้ต้องหาคดีพยายามฆ่า แต่นายสมพงศ์ไม่ อยู่บ้าน จึงเดินตามออกมา พบนายสมพงศ์ขี่รถ จยย.อยู่ กลางทาง จึงเรียกให้จอดและพูดคุยกัน ซึ่งน่าจะตกลงกันไม่ได้ นายสมพงศ์ไม่ยอมให้เงิน เนื่องจากเอือมระอากับความประพฤติของลูกชาย

ที่มีเรื่องมีราวไม่หยุดหย่อน ต้องเสียเงินเสียทองช่วยเหลือมามากแล้ว ก่อนหน้านี้นายเกียรติศักดิ์ก็เคยต้องคดีเสพยาเสพติด ทางบ้านได้ช่วยเหลือมาตลอด ครั้งนี้นายสมพงศ์จึงปฏิเสธที่จะให้เงิน ทำให้นายเกียรติศักดิ์ลูกชายบันดาลโทสะ คว้าไม้หน้าสามกระหน่ำทุบตีบิดาจนตายสยองคาที่ แล้วปลดทรัพย์สินก่อนขี่รถ จยย.ของผู้ตายหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุไป คดีนี้แม้ว่าผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจมั่นใจในพยานหลักฐานว่าจะสามารถเอาผิดผู้ต้องหารายนี้ได้แน่นอน

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์