ลวงฆ่าแท็กซี่ กดน้ำชิงทรัพย์

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 3 พ.ย. พ.ต.ท.สมศักดิ์ ดาวสุข สารวัตรเวร สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งมีผู้พบศพกลางทุ่งนา

หมู่ 6 ต.ตลาดเกรียบ จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.นเรศ นันทโชติ ผบก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.ท.พิชา รุจินาม รอง ผกก.ป.สภ.บางปะอิน พ.ต.ท.เกรียงไกรภพ อธิปฏิเวชช รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.พิทักษ์ ยิ่งเหนือวงษ์ สว.สส. พ.ต.ต.สมนึก สีดารักษ์ สวป. พ.ต.ต. มนัสเวส ทองอิ่ม สว.สป. แพทย์เวรโรงพยาบาลบางปะอิน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู รุดไปตรวจสอบ 

ที่เกิดเหตุอยู่ริมถนนลูกรัง แยกไปจากถนนสายบางปะอิน-วัดไกเตี้ยเข้าไปประมาณ 1 กม. บริเวณทุ่งนาห่างจากถนนลูกรังราว 15 เมตร พบศพนายกฤษณะพัฒน์ เรืองสมบัติ อายุ 36 ปี

อยู่บ้านเลขที่ 272/1 ซอยนพเกล้า แขวงและเขตบางซื่อ กรุงเทพฯ เสียชีวิตอยู่ในทุ่งนาที่มีน้ำขังประมาณ 50 ซม. ผู้ตายสวมกางเกงขายาวสีดำ สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีฟ้า ลักษณะคล้ายเสื้อของคนขับรถแท็กซี่ โดยที่หน้าอกปักชื่อและนามสกุลผู้ตาย มีบาดแผลถูกทำร้ายจนขอบตาช้ำ ปากแตก ลำคอมีรอยบีบรัดเขียวช้ำ แพทย์ชันสูตรศพคาดเสียชีวิตมาประมาณ 6 ชม. สาเหตุมาจากขาดอากาศหายใจ
 

ตรวจสอบบริเวณถนนพบร่องรอยการต่อสู้และพบหลักฐานต่างๆตกกระจายอยู่หลายอย่าง ประกอบด้วย สร้อยสเตนเลส 1 เส้น

ตะกรุดลูกปืนพระอาจารย์อ๊อด วัดสายไหม 1 ดอก รองเท้าแตะ 1 คู่ นาฬิกาแบบผู้ชาย 1 เรือน ปากกา 1 ด้าม มีดคัตเตอร์ 1 เล่ม เข็มขัดหนังสีดำ 1 เส้น และป้ายไฟสำหรับติดหลังคารถแท็กซี่สีชมพู 1 อัน พระเครื่อง 1 องค์ และธนบัตรฉบับใบละ 100 บาท จำนวน 2 ใบ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน สอบสวนนายบุญเรือน ชูศรี อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 หมู่ 7 ต.ตลาดเกรียบ อ.บางปะอิน พยานที่พบศพให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงเย็นวันที่ 2 พ.ย. ได้มาลงข่ายดักปลาบริเวณดังกล่าว ขณะนั้นไม่พบสิ่งผิดปกติหรือศพผู้ตาย กระทั่งเช้ามาเก็บข่ายดักปลา มีเพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุมาบอกว่าพบศพอยู่ในน้ำ กลางทุ่ง จึงรีบไปดูก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำป้อมวัดตลาดเกรียบทราบ
  

ด้าน พ.ต.ท.พิชา รุจินาม รอง ผกก.ป.สภ.บางปะอิน กล่าวว่า จากหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุคาดว่า นาย กฤษณะพัฒน์ โชเฟอร์รถแท็กซี่เคราะห์ร้ายรายนี้ น่าจะถูกคนร้ายไม่ต่ำกว่า 2 คน วางแผนลวงให้ผู้ตายมาส่งก่อนชิงทรัพย์

แต่นายกฤษณะพัฒน์พยายามต่อสู้เลยถูกคนร้ายช่วยกันทำร้ายแล้วรัดคอก่อนลากไปกดน้ำนำร่างไปทิ้งห่างจากถนน จากนั้นค้นเอาทรัพย์สิน พร้อมกับถอดป้ายไฟบนหลังคาทิ้งแล้วขับรถแท็กซี่ของผู้ตายหลบหนี หลังสอบปากคำชุดสืบสวนได้ออกติดตามกลุ่มคนร้าย พร้อมวิทยุประสานท้องที่และจังหวัดใกล้เคียงช่วยสกัดจับ กระทั่งได้รับแจ้งจากตำรวจ สภ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์

ว่า ก่อนหน้านี้ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาได้จับกุมคนร้ายได้ 2 คน ขณะขับรถแท็กซี่ต้องสงสัยยี่ห้อโตโยต้า อัลติส สีชมพู ทะเบียน ทร 9540 กรุงเทพมหานคร เข้าไปในพื้นที่หมู่ 2 บ้านลาด ต.หนองหลวง อ.ท่าตะโก และรถเกิดเสียหลักตกถนนลูกรัง ทำให้ขับต่อไปไม่ได้ ทราบชื่อนายทองคำ หรือดำ ช้างโชติ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 หมู่ 13 ต.ท่าขุนราม อ.เมืองกำแพงเพชร และนายอาทิตย์ น้อยจันทร์วงศ์ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 114 ต.นิคมคำสร้อย อ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร

ต่อมา พล.ต.ต.นเรศ ได้มอบหมายให้ชุดสืบสวน สภ.บางปะอิน เดินทางไปรับตัว โดยมี พ.ต.อ.มนตรี จินดา ผกก.สภ.ท่าตะโก และ พ.ต.ท.ประสาท เมฆพันธ์ รอง ผกก. สส.สภ.ท่าตะโก ร่วมสอบปากคำเบื้องต้น ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้ง 2 ให้การรับสารภาพว่า

ร่วมกันวางแผนลวงคนขับรถแท็กซี่ไปฆ่าชิงทรัพย์จริง โดยก่อนเกิดเหตุช่วง 2 ทุ่มได้ยืนโบกรถแท็กซี่คันดังกล่าวมาจากย่าน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ให้ไปส่งที่ จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมกับบอกให้เลี้ยวเข้าไปทางถนนลูกรังที่เกิดเหตุซึ่งค่อนข้างเปลี่ยว ผู้ต้องหาร่วมกันให้การอีกว่า จากนั้นนายทองคำแกล้งปวดปัสสาวะและบอกให้จอดรถ เมื่อผู้ตายจอดจึงช่วยกันล็อกคอ แต่นายกฤษณะพัฒน์ดิ้นต่อสู้สุดฤทธิ์ จนร่วงลงมาด้วยกันและเกิดการปลุกปล้ำกลิ้งตกไปในทุ่งนาริมถนนที่มีน้ำขัง   และถูกทั้งคู่ช่วยกันจับกดน้ำจนแน่นิ่งแล้วลากไปทิ้ง ก่อนค้นเอากระเป๋าสตางค์ภายในมี เงินสด 1,000 บาท จากนั้นนายทองคำได้ขับรถพาหนีไปบ้านภรรยาที่ ต.หนองหลวง อ.ท่าตะโก

แต่รถเกิดเสียหลักตกถนน ระหว่างที่นายทองคำพยายามขับขึ้นมา ถูกสายตรวจที่รับแจ้งเหตุเกิดความสงสัยเข้ารวบตัวไว้ได้

ส่วนนายอาทิตย์วิ่งหลบหนี แต่ก็ไปไม่รอด สำหรับนายทองคำ 1 ในผู้ต้องหา จากการตรวจสอบประวัติพบว่า เมื่อปี 2547 เคยก่อคดีชิงทรัพย์ที่ จ.กำแพงเพชร ต่อมาเดือน ต.ค. 2548 ได้ทำร้ายนายโอ้ง วันดี อายุ 63 ปี ชาวบ้าน ต.หนองหลวง อ.ท่าตะโก จนเสียชีวิต ถูกตำรวจติดตามจับกุมและหลบหนีประกันในชั้นศาล กระทั่งมาก่อเหตุร่วมกับนายอาทิตย์ลวงโชเฟอร์รถแท็กซี่ไปฆ่าชิงทรัพย์ หลังสอบปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 กลับไปดำเนินคดีที่ สภ.บางปะอิน ทันที