ลวงฆ่าเหี้ยม คนขับแท็กซี่ คิวสนามบิน

เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 7 มี.ค. พ.ต.ท.บัญชา บัวทอง สารวัตรเวร สภ.ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสนามบินสุวรรณภูมิ ว่ามีเหตุโชเฟอร์ แท็กซี่ถูกคนร้ายฆ่าตายในรถ บริเวณริมทางคู่ขนานเข้าสนามบินสุวรรณภูมิ ห่างจากถนนสายบางนา-ตราด ประมาณ 2-3 กม. จึงออกไปสอบสวนพร้อม พล.ต.ต.ชยุตม์ ธนะทวีรัชต์ ผบก.ภ.จ.สมุทรปราการ พ.ต.อ.ยงยุทธ เดชะรัตน์ ผกก.สภ.ต.ราชาเทวะ แพทย์เวร รพ.บางพลี และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู

จุดที่เกิดเหตุบริเวณปลายรันเวย์ด้านทิศใต้ของสนามบินสุวรรณภูมิ พบรถแท็กซี่มิเตอร์ สีเขียวเหลือง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นลิโม่ หมายเลขทะเบียน มจ 5158 กรุงเทพมหานคร จอดข้างทางด้านซ้าย ภายในรถพบศพในสภาพนั่งฟุบคอพับในเบาะคนขับ คาดเข็มขัดนิรภัย สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีฟ้า กางเกงขายาวสีเทา ไม่ใส่เข็มขัด รองเท้าหนังสีดำ ทราบชื่อนายสมหวัง หรือริน พึ่งสมบุญ อายุ 54 ปี อาชีพขับรถแท็กซี่ อยู่บ้านเลขที่ 55 หมู่ 7 แขวงบางบอน เขตบางขุนเทียน กทม.

สภาพศพมีบาดแผลถูกแทงด้วยมีดปลายแหลมที่ก้านคอขวา 1 แผล ใต้ราวนมขวา 2 แผล และบริเวณศีรษะอีก 1 แผล รวม 4 แผล เลือดไหลเปรอะ พบกระเป๋าสตางค์ของผู้ตายวางบนเบาะข้างตัว ส่วนเงินสดจำนวนหนึ่งและโทรศัพท์มือถือของผู้ตายหายไปเกลี้ยง ระหว่างชันสูตรศพได้มีนางน้ำเพ็ชร สีฟอง 40 ปี ภรรยานายสมหวัง ซึ่งทราบข่าวร้ายเดินทางมาดูศพถึงกับร่ำไห้โฮโศกเศร้าเสียใจอย่างหนัก

จากการสอบพยานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสนามบินสุวรรณภูมิผู้หนึ่ง ซึ่งเป็นผู้พบศพเปิดเผยว่า ช่วงประมาณ 6 โมงเช้า ได้รับแจ้งจากศูนย์ควบคุมรักษาความปลอดภัยการท่าอากาศยานว่า กล้องวงจรปิดได้จับภาพรถแท็กซี่มาจอดในที่เกิดเหตุนานผิดสังเกต จึงเข้ามาตรวจสอบก็พบศพถูกฆ่าตายในรถ เมื่อตรวจสอบย้อนหลังไปพบว่ารถแท็กซี่คันดังกล่าวขับมาจอดกลางดึกช่วงประมาณ 01.00 น. แต่ไม่สามารถตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับคนร้ายได้เนื่องจากตรงจุดเกิดเหตุมืดมาก

ด้านนางน้ำเพ็ชร สีฟอง ภรรยาผู้ตาย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ สามีขับรถออกจากบ้านมาตั้งแต่ช่วงประมาณ 3 ทุ่ม บอกว่าจะไปเข้าคิวรับผู้โดยสารที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพราะได้รับการอนุญาตและมีบัตรสมาชิกสามารถวิ่งรับส่งผู้โดยสารในสนามบินสุวรรณภูมิได้ หลังออกจากบ้านไปสามีได้ติดต่อกลับมาครั้งเดียวช่วงประมาณ 4 ทุ่ม จากนั้นขาดกการติดต่อไป จนกระทั่งมาทราบตอนเช้าว่าถูกคน ร้ายฆ่าตาย

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบมิเตอร์ในรถของผู้ตายโดยการพ่วงแบตเตอรี่ เนื่องจากไฟในแบตเตอรี่หมดเกลี้ยง พบว่ารถแท็กซี่ของผู้ตายวิ่งมาได้ประมาณ 11.8 กม. และเวลาหยุดลงเมื่อ 01.00 น. ประมวลเหตุการณ์ว่าคนร้ายทำทีเป็นผู้โดยสารวางแผนลวงผู้ตายจากบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิให้ไปส่งที่ใดที่หนึ่ง พอรถวิ่งมาถึงที่เกิดเหตุ คนร้ายได้ออกอุบายให้จอดรถแล้วใช้อาวุธมีดที่เตรียมมาจี้ข่มขู่ปลดทรัพย์สิน ระหว่างนั้นผู้ตายคงจะขัดขืนและพยายามต่อสู้ จึงถูกคนร้ายใช้อาวุธกระหน่ำแทงตายอย่างเหี้ยมโหดแล้วรื้อค้นเอาเงินสดในกระเป๋าสตางค์ และโทรศัพท์มือถือของผู้ตายก่อนพากันหลบหนีไป

ด้าน พล.ต.ต.ชยุตม์ ธนะทวีรัชต์ ผบก.ภ.จ. สมุทรปราการ กล่าวว่า ได้ประสานฝ่ายควบคุมกล้องวงจรปิดของสนามบิน เพื่อตรวจสอบคนร้ายนั่งรถของผู้ตายมาด้วยกันกี่คน เบื้องต้นสันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะมีไม่ ต่ำกว่า 2 คน และเป็นการประสงค์ต่อทรัพย์ ขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการเก็บลายนิ้วมือแฝงของคนร้าย และพอทราบเบาะแสของคนร้ายบ้างแล้ว ขณะนี้ได้จัดชุดสายสืบออกสืบจับกุมตัวแล้ว

ขณะเดียวกัน ได้มีกลุ่มตัวแทนคนขับรถแท็กซี่ในสนามบินสุวรรณภูมิ กว่า 10 คน เดินทางมาพบ พล.ต.ต. ชยุตม์ ธนะทวีรัชต์ ผบก.ภ.จ.สมุทรปราการ ขอให้เร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว เพราะเป็นคดีอุกฉกรรจ์และก่อเหตุอย่างอุกอาจภายในบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ อาจเป็นภัยกับพวกตน ซึ่ง พล.ต.ต.ชยุตม์ รับปากจะดำเนินการโดยเร็ว