ลวง´สาวไทย´ ค้ากามโคนม

"จบสูงยังโดนหลอก หลงเชื่อคนไทยด้วยกัน"


เรื่องราวของสาวไทยที่ถูกหยิบยกขึ้นมา เพื่อเป็นอุทาหรณ์สอนหญิงอย่าหลงเชื่อใจใครง่ายๆ แม้แต่คนชาติเดียวกันในครั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ว่าได้รับจดหมายร้องเรียนจากหญิงไทย ไม่ขอระบุชื่อ แต่อ้างว่าแต่งงานและโยกย้ายไปอยู่กับสามีที่ประเทศเดนมาร์ก ได้เขียนมาเล่าเรื่องราวที่น่าจะเป็นอุทาหรณ์สอนใจสาวไทยที่คิดจะมาขุดทองในเดนมาร์ก โดยอ้างข่าวที่ตีพิมพ์ ในหนังสือพิมพ์แทบลอยด์ เอ็กสตร้า แบลด (EKstra Bladet)

ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ฉบับประจำวันที่ 20 พ.ย. 2549 ว่ามีหญิงไทยสองคนถูกนายหน้าคนไทย ด้วยกันหลอกไปขายตัวในประเทศเดนมาร์ก ซึ่งเนื้อข่าวระบุว่า หญิงไทยทั้งสองคนมีชื่อว่า แอน กับ อำ (นามสมมติ) มีการศึกษาดี เรียนจบระดับปริญญาตรี แต่กลับถูกนายหน้าหญิงไทยชื่อว่า สุภานาถ ไม่ทราบนามสกุล หลอกลวงจนหลงเชื่อว่ามีงานในตำแหน่งเลขานุการให้ทำในเดนมาร์ก โดยเสนอเงินเดือนให้นับแสนบาท การที่ทั้งสองถูกหลอกเข้าใจว่าเป็นเพราะเห็นว่าหญิงไทยที่ชื่อ สุภานาถ เป็นคนไทยเหมือนกัน ประกอบกับเงินเดือนค่อนข้างสูง ทำให้ทั้งสองตัดสินใจมาขุดทองที่เดนมาร์ก โดยไม่ได้พินิจพิจารณาให้ถี่ถ้วน

"ถูกบังคับขายตัวทารุณ กว่า ตร.ช่วยได้"


สาวไทยเจ้าของจดหมายยังระบุอีกว่า ตามข่าวที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าว เมื่อคนทั้งสองเดินทางไปถึงเดนมาร์ก ทั้งสองถูกนายหน้าหญิงไทยพาไปพักที่บ้านแห่งหนึ่ง โดยให้ทั้งสองอยู่ในห้องใต้ดิน จากนั้นก็ยึดหนังสือเดินทางของทั้งสองไว้ แล้วเริ่มเปลี่ยนจากคนที่มีใจงดงามกลายเป็นแม่เล้าใจร้าย บังคับให้ทั้งสองขายตัว ถ้าไม่ยอมก็ขู่ว่าจะฆ่าให้ตาย หรือขังให้อยู่ในห้องใต้ดินจนตายทั้งเป็น

ด้วยความกลัวหญิงไทยทั้งสองคนจึงจำยอมรับแขกทั้งน้ำตา บางครั้งเจอแขกซาดิสต์ก็จะถูกทุบตีขณะร่วมประเวณีด้วย ซ้ำร้ายยามมีรอบเดือนยังถูกบังคับให้รับแขก โดยแม่เล้าชาวไทยคนดังกล่าวบอกให้ทั้งสองเอาฟองน้ำที่ใช้ล้างจานยัดเข้าไปในช่องคลอดเพื่อซับเลือดของประจำเดือนเอาไว้ ทำให้แขกที่มาเที่ยวไม่ทราบว่าทั้งสองมีประจำเดือน ซึ่งทั้งสองต้องทนทุกข์ทรมานนานถึง 6 เดือนกว่าตำรวจเดนมาร์กจะเข้าช่วยเหลือนำตัวออกมา แต่ที่น่าเจ็บใจคือแม่เล้าคนดังกล่าวถูกศาลพิพากษาจำคุกแค่ 6 เดือน

"คิดให้ดีอย่าหลงเชื่อใคร"


ผู้เขียนจดหมายระบุด้วยว่า จากข่าวดังกล่าว ทำให้รู้สึกหดหู่และอยากให้ไทยรัฐเป็นสื่อกลางนำเสนอข่าวเรื่องนี้ เพื่อให้หญิงไทยทุกคนระวังตัวในการตัดสินใจเดินทางไปค้าแรงงานยังต่างประเทศว่าตรวจสอบดีแล้วหรือยัง อย่าคิดว่าเป็นสวรรค์ เบื้องหลังอาจเป็นนรกก็ได้

ต่อมาผู้สื่อข่าวสอบถามเรื่องดังกล่าวไปยังนายธีรกุล นิยม อธิบดีกรมการกงสุล ซึ่งได้รับคำตอบว่า จากการตรวจสอบยังไม่ทราบว่า ขณะนี้หญิงทั้งสองคนนี้อยู่ที่ไหน กลับมาเมืองไทยหรือยัง เพราะยังไม่มีรายงานจากสถานทูต อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวอยากจะบอกว่าปัญหาการค้าประเวณีของหญิงไทยทั้งที่เต็มใจและไม่เต็มใจ ไม่ใช่มีแต่ประเทศเดนมาร์ก ในหลายๆประเทศก็มีปัญหาเรื่องค้าประเวณีของหญิงไทยเช่นกัน เฉพาะตัวเลขกรมการกงสุลที่เข้าไปช่วยเหลือ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2548- พฤศจิกายน 2549 ช่วยมาได้ทั้งหมด 270 คน ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นปัญหาที่ใหญ่และรุนแรง

"ให้ตรวจสอบข้อมูลให้ดี ไม่แน่ใจให้ติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง"


อธิบดีกรมการกงสุลกล่าวอีกว่า ควรมีมาตรการป้องปรามไม่ให้เกิดปัญหาขึ้น เป็นการแก้ไขที่ต้นเหตุ อยากจะบอกแรงงานไทยทั้งหญิงและชาย ที่คิดจะไปขุดทองเมืองนอกว่า ก่อนที่จะตัดสินใจควรตรวจสอบนายหน้าว่ามีประวัติความเป็นมาอย่างไรก่อน หรือสอบถามชื่อจริงนามสกุลจริงตามบัตรประชาชนทุกครั้ง ไม่ใช่รู้จักแต่ชื่อเล่นกับเบอร์โทรศัพท์ หรือถ้าไม่แน่ใจ

ให้ติดต่อกลับมาที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมการกงสุล กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน นอกจากนี้ ปี 2550 ทางกรมการกงสุลร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ คณะกรรมการค้ามนุษย์ระหว่างจังหวัด ภาคเอกชน จะจัดสัมมนาให้ความรู้ในพื้นที่จังหวัดแถบภาคเหนือและอีสาน ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มพื้นที่เสี่ยง ที่ชอบไปค้าแรงงานในต่างแดน ว่าควรจะเตรียมตัวอย่างไรก่อนเดินทางไปขายแรงงาน ถึงจะไม่ถูกหลอก



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์