ร้านทองลำปางใจเด็ด คว้าค้อน-เก้าอี้สู้ปืน ไล่ตีโจรหนีกระเจิง

เหตุคนร้ายควงปืนปล้นร้านทองกลางเมืองลำปาง แต่ไม่ได้ทอง เป็นตัวอย่างให้โจรกระจอกทั้งหลายพึงสังวรเอาไว้ว่าบางทีบางครั้งการจะไปเอารัดเอาเปรียบชาวบ้าน ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไปจับพลัดจับผลูไปเจอของแข็งเข้าให้อาจต้องโกยอ้าวอย่างไม่คิดชีวิต หรือเผลอๆ ก็อาจได้คุกเป็นรางวัลในการทำผิด ทางที่ดีอย่าประพฤติชั่วเลยดีกว่า!!

เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นที่ร้านทองเลิศสุวรรณ สาขาตลาดน้ำโท้ง กลางเมืองลำปาง
 
ซึ่งจู่ๆ มีโจรกระจอกควงปืนทำท่าบุกปล้นทอง แต่ถูกเจ้าของร้านคว้าเก้าอี้กับค้อนสู้ยิบตา เล่นเอาโจรกระจอกต้องล่าถอยไปอย่างไม่เป็นท่า ทองก็ไม่ได้แถมยังเฉียดคุกอีกด้วย ย้อนกลับไปดูเหตุการณ์ครั้งนี้ เกิดขึ้นตอนบ่ายวันที่ 13 ธ.ค. ตำรวจเมืองลำปางได้รับแจ้งเหตุคนร้ายบุกเดี่ยวปล้นร้านทองเลิศสุวรรณ สาขาตลาดน้ำโท้ง ตั้งอยู่เลขที่ 388/34 ถ.จามเทวี ต.บ่อแฮ้ว อ.เมืองลำปาง พ.ต.อ.นันทวิทย์ เทียมบุญธง ผกก.สภ.เมืองลำปาง พ.ต.ท.เกรียงไกร ศรีธัญรัตน์ สารวัตรเวร จึงนำกำลังตำรวจรุดไปยังที่เกิดเหตุ พบนายชวลิต ตรงปัญญาเลิศ อายุ 50 ปี กับนางอรัญธิยา ตรงปัญญาเลิศ สองสามีภรรยา เจ้าของร้านยืนรอให้การเจ้าหน้าที่อยู่ด้วยความตกใจ

เจ้าของร้านชี้มือชี้ไม้บอกคนร้ายเผ่นหนีไปแล้ว!!

ตำรวจตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่าสภาพในร้านทองไม่มีอะไรสูญเสีย ทุกอย่างยังอยู่ปกติดี จะมีก็แต่ค้อนกับเก้าอี้ที่วางไว้ระเกะระกะ ซึ่งนายชวลิตเจ้าของร้านให้การว่า เจ้าค้อนกับเก้าอี้นี่เองที่ใช้เป็นอาวุธต่อกรกับโจรปล้นทองจนทำให้มันล่าถอยไป ไม่น่าเชื่อว่าค้อนกับเก้าอี้จะสู้ปืนได้

นายชวลิต เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุเปิดร้านขายทองตามปกติ

จู่ๆ ได้มีคนร้ายเป็นชายรูปร่างสูงโปร่ง ใส่เสื้อแจ๊กเกตสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์ขายาวสีดำ สวมรองเท้าผ้าใบ และสวมหมวกกันน็อกสีดำอำพรางใบหน้าเดินอาดๆ เข้ามาในร้าน และชักอาวุธปืนจี้ให้อยู่นิ่งๆ โดยคนร้ายใช้มือซ้ายถืออาวุธปืน และใช้มือขวาล้วงเอาค้อนออกมาจะทุบตู้กระจกเอาทองคำรูปพรรณ ซึ่งในจังหวะที่คนร้ายกำลังจะทุบกระจกนั้น ภรรยาตนเองที่อยู่ในบ้านได้ยินเสียงเอะอะจึงเปิดประตูออกมาดู เมื่อเห็นเหตุการณ์จึงรีบคว้าเก้าอี้ใกล้มือขว้างใส่คนร้ายสุดแรงจนเสียหลักผละหนีไป

เหตุระทึกยังไม่จบเพียงแค่นั้น เจ้าของร้านยังเล่าด้วยว่า

ขณะนั้นคนร้ายถือปืนแกว่งไปมา แต่ไม่ได้ลั่นไกยิงใส่ ตนและภรรยาจึงฉวยโอกาสแย่งค้อนของคนร้ายมาได้และช่วยกันทุบ พร้อมทั้งใช้เก้าอี้ฟาดใส่จนคนร้ายทิ้งปืนและวิ่งหนีออกจากร้านไปขี่รถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ข้างร้านหลบหนีไป โดยที่คนร้ายยังไม่ได้ทองคำรูปพรรณติดมือไปแม้แต่เส้นเดียว หลังจากเกิดเหตุจึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจมาตรวจสอบ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจหาลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายภายในร้านทอง และพบตั๋วจำนำตกอยู่ 1 ใบ คาดเป็นของคนร้ายจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งจากการสันนิษฐานในเบื้องต้น คาดว่าคนร้ายน่าจะไม่ใช่โจรมืออาชีพ เนื่องจากมีอาวุธปืนอยู่ในมือแต่ยังกล้าๆ กลัวๆ ไม่ยิงเจ้าของร้านทอง และเมื่อเจ้าของร้านฮึดสู้ก็กลัวลนลานและวิ่งหนีกระเจิง และในขณะเดียวกัน จากการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดของร้าน พบว่าสามารถจับภาพขณะเกิดเหตุได้ทั้งหมด ซึ่งเจ้าหน้าที่จะใช้เป็นเบาะแสในการติดตามจับกุมโจรรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป

สำหรับมาตรการคุ้มครองร้านค้าทองในพื้นที่อ.เมืองลำปาง เจ้าหน้าที่จะได้เพิ่มความถี่ในการออกตรวจตราร้านค้าทองในพื้นที่ให้มากกว่าเดิม

โดยเฉพาะที่ร้านทองเลิศสุวรรณแห่งนี้ จะดูแลเป็นพิเศษ เพราะก่อนหน้านี้เคยถูกคนร้ายบุกจี้มาแล้ว 1 ครั้ง เมื่อวันที่ 11 ก.ค. 2549 ซึ่งในครั้งนั้นคนร้ายได้ทองรูปพรรณไป 6 เส้น และยังไม่สามารถตามจับตัวคนร้ายได้จนทุกวันนี้ และที่สำคัญ การที่เจ้าของร้านทองตัดสินใจสู้กับโจรจนต้องล่าถอยไปในครั้งนี้ อาจสร้างความแค้นใจให้คนร้ายคิดหวนกลับมาเอาคืนได้ ซึ่งในเรื่องนี้เพื่อไม่เป็นการประมาททั้งเจ้าของร้านทองและเจ้าหน้าที่เตรียมรับมือไว้อย่างรอบคอบแล้ว
กล่าวถึงเหตุการณ์โจรปล้นร้านทองเคยเกิดขึ้นนับครั้งไม่ถ้วน มีทั้งทำสำเร็จและไม่สำเร็จ

พวกที่ทำสำเร็จได้ทองไป ก็ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ เพราะกลัวถูกจับ ส่วนพวกที่ทำไม่สำเร็จก็ต้องจนมุมต่อกฎหมายหรือไม่ก็เพลี่ยงพล้ำถูกเจ้าของร้านทองตอบโต้ทำร้าย บางรายถึงกับเอาชีวิตมาทิ้งไว้ก็มี เหมือนกับเหตุการณ์โจรกระจอกปล้นทองในรอบปี ที่บุกฉกทองร้านทองธาราทิพย์ในอ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อปลายเดือนมิ.ย. ที่ผ่านมา ได้ทองไป 2 บาท โดยคนร้ายคือนายรุ่งโรจน์ เหลืองอร่าม อายุ 22 ปี พลาดท่าถูกยิงตายหลังฮึดฮัดชักอาวุธปืนยิงใส่เจ้าของร้านแต่ช้าไปเลยโดนยิงก่อน

อีกรายเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้

เมื่อน.ส.ลำไพ หรือ "ไผ่" ไผ่โสภา โจรสาววัย 25 ปี ที่สวมบทคนร้ายบุกเดี่ยวควงปืนปลอมเข้าปล้นร้านทองในต.โพธิ์แก้ว อ.สามพราน จ.นครปฐม แต่พลาดท่าถูกนายกิตติ โรจนภิญญู ลูกชายเจ้าของร้านซึ่งเตรียมพร้อมอยู่แล้วใช้อาวุธปืนขนาด .38 ยิงเข้าใส่จนได้รับบาดเจ็บสาหัสอาการปางตาย นอกจากนี้ ยังมีตัวอย่างให้เห็นอีกหลายราย ที่คนร้ายลงมือปล้นร้านทองแต่ไม่ได้ทอง กลับต้องพลาดท่าให้เจ้าของร้านจนได้

แต่ทั้งนี้ก็ใช่ว่าโชคจะเข้าข้างเจ้าของร้านทองเสมอไป

ทางที่ดีไม่ประมาทเข้าไว้จะดีกว่า!?!


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์