รัวอาก้า ฆ่าอบต. คาดปมขัดแย้งท้องถิ่น

เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 10 ส.ค. พ.ต.ท.ถาวร อารีรื่น สารวัตรเวร สภ.อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งพบศพคนถูกยิงบนถนนสายนครหลวง-บางปะหัน หมู่ 4 ต.บางระกำ จึงรายงาน พล.ต.ต.วราวุธ พุกประยูร ผบก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยาทราบ เดินทางไปร่วมตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบรถปิกอัพอีซูซุ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ป-1346 พระนครศรีอยุธยา ลักษณะเสียหลักพุ่งตกถนนหัวทิ่มในพงหญ้า กระจกและตัวถังรถมีรอยถูกยิงด้วยกระสุนปืนเป็นรูพรุน ตรงเบาะนั่งคนขับพบศพนายสนม เสมอภักดิ์ อายุ 62 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.คลองสะแก อ.นครหลวง ปัจจุบันมีตำแหน่งเป็น ส.อบต.หมู่ 3 ต.คลองสะแก ลักษณะนอนฟุบไปทางเบาะนั่งซ้าย สวมเสื้อเชิ้ตลายสกอตแขนสั้น กางเกงขายาวสีน้ำเงิน

มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนอาก้าและ 9 มม. เข้าไหล่ขวา 1 นัด ข้อมือขวา 1 นัด เข่าขวา 1 นัด เอวขวา 1 นัด ขาซ้าย 1 นัด ตรงพื้นถนนห่างจากรถ 3 เมตร พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. 4 ปลอก ถัดออกไปราว 40 เมตร พบปลอกกระสุนปืนอาก้าอีก 6 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

สอบปากคำนางสำรวม เสมอภักดิ์ อายุ 53 ปี ภรรยาผู้ตาย และมีตำแหน่งเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.คลองสะแก ให้การทั้งน้ำตาว่า เดิมสามีเป็นผู้ใหญ่บ้าน แต่หลังลาออกไปสมัครเป็น ส.อบต. ให้ตนมาลงสมัครเป็นผู้ใหญ่บ้านแทน ก่อนเกิดเหตุนายสนมได้ขับรถคันดังกล่าวออกจากบ้านไปซื้อแกงถุงในตลาดบางปะหันเพื่อนำไปขายในหมู่บ้าน ซึ่งเป็นปกติทุกวัน

กระทั่งมาทราบอีกทีถูกยิงเสียชีวิต เบื้องต้นตำรวจประมวลเหตุการณ์แล้วคาดว่าคนร้ายคงทราบความเคลื่อนไหวของผู้ตายเป็นอย่างดี เมื่อผู้ตายขับรถออกจากบ้านจึงขับรถยนต์ตามประกบสบโอกาสมือปืนที่นั่งมาในรถได้ใช้ปืนอาก้ากราดยิงนายสนมจนรถเสียหลักตกถนน ก่อนที่คนร้ายจะลงจากรถตามไปยิงซ้ำเสียชีวิต

ต่อมาวันเดียวกัน พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร. (ปป.) พร้อม พล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.วราวุธ พุกประยูร ผบก.ภ.จ. ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุคนร้ายยิงนายสนมอีกครั้ง โดย พล.ต.ต.วราวุธกล่าวภายหลังว่า จากการตรวจสอบประวัติรวมทั้งลักษณะศพของผู้ตายเชื่อว่าไม่มีความเกี่ยวโยง

กับแก๊งคนร้ายคดีฆ่า พ.ต.ต.กิติศักดิ์ สถิตพานิช สวป.สภ.อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา เนื่องจากอาวุธปืนที่ พ.ต.ต.กิติศักดิ์ใช้ยิงต่อสู้กับคนร้ายเป็นปืน 11 มม. แต่นายสนมถูกยิงด้วยปืนอาก้า ส่วนสาเหตุอาจจะมาจากเรื่องส่วนตัวหรือไม่ก็เรื่องขัดแย้งการเมืองท้องถิ่น แต่อย่างไรก็ตาม ตำรวจจะได้สอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ