ระเบิดโชว์รูมรถ 8 จุดวินาศ ยะลาวิกฤติหนัก

ไฟใต้โหมปะทุหนักไม่เว้นวัน แม้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอโทษต่อญาติของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ตากใบ


รวมทั้งสั่งไม่ฟ้องผู้ที่ร่วมก่อเหตุ ล่าสุดยังสั่งยกเลิกบัญชีดำกลุ่มอุสตาซและแกนนำผู้ก่อเหตุความไม่สงบ เพื่อสร้างความสมานฉันท์ แต่เหตุร้ายในพื้นที่กลับปะทุเดือด

โดยเฉพาะวันที่ 8 พ.ย. ที่ผ่านมา กลุ่มโจร 20 คน บุกยิงถล่มฐานทหารพรานที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา จนถูกเจ้าหน้าที่สอยร่วงไป 2 ศพ และเป็นวันเดียวกันที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เดินทางไปพบปะกลุ่มเยาวชนใน จ.ยะลา ด้วย และจากเหตุความไม่สงบทำให้ชาวไทยพุทธใน จ.ยะลา พากันอพยพหนีตายเพราะผวาภัยโจร

บึม 8 โชว์รูมรถกลางเมือง


เหตุระอุกลางเมืองรายนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 9 พ.ย. เกิดเหตุระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวขึ้นพร้อมกัน 8 แห่งในเขต อ.เมืองยะลา เสียงระเบิดมหาวินาศสร้างความตื่นตกใจให้กับชาวบ้านพากันวิ่งตายกันโกลาหล หลังสิ้นเสียงบึมเขย่าเมือง ปรากฏว่าบริษัทและโชว์รูมจำหน่ายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในเขตเทศบาลนครยะลา ถูกแรงอัดระเบิดพังเสียหายจำนวนมาก ประกอบด้วย

1. บริษัท อีซูซุปัตตานี เจริญเทรดดิ้ง จำกัด
2. บริษัท นิสสัน จำกัด
3. บริษัท ยะลาฮอนด้า จำกัด
4. บริษัท มาสด้าศรีปุตรคอปอเรชัน จำกัด
5. ร้านนำฮั้วจั่น ฮอนด้า
6. หจก.แสงเจริญนาประดู่ ซูซูกิ สาขายะลา
7. บริษัท มูรนี จำกัด จำหน่ายรถยี่ห้อเชฟโรเลต และ
8. หจก.ปัตตานีคอมเมอร์เชียล ฟอร์ด ยะลา

ซึ่งอยู่ห่างจากจุดตรวจขุนไว เพียง 80 เมตร

บาดเจ็บระนาว 14 ราย

นอกจากนี้แรงระเบิดยังทำให้พนักงานและลูกจ้างของแต่ละบริษัท ล้มระเนนระนาดส่งเสียงร้องระงมด้วยความเจ็บปวด สะเก็ดระเบิดฝังตามร่างกาย คราบเลือดสาดกระเซ็น ต้องช่วยกันหามส่ง รพ.ศูนย์ยะลากันโกลาหล รวมทั้งหมด 14 คนคือ

1. น.ส.นูรีซัน อาแว อายุ 25 ปี
2. นางกาญจนา มั่นสิทธิกุล อายุ 47 ปี
3. น.ส.อัมพร ศรีชัย อายุ 24 ปี
4. นายอับดุลรอฮิม สาและ อายุ 41 ปี
5. น.ส.แอเสาะ คารี อายุ 48 ปี
6. น.ส.สาวิตรี เหรียญทอง อายุ 22 ปี
7. นายมูฮำมัด ซากี หม้อแหล่ อายุ 28 ปี
8. นายอาแด ตีมุง อายุ 29 ปี 9. นายชัชวาลย์ ดือราแม อายุ 31 ปี
10. นายนิซฟา ฮะดูมอ อายุ 25 ปี
11. นายมะอาสาวี อับดุลเลาะ อายุ 22 ปี
12. นายนพรัตน์ เยอสูงเนิน อายุ 26 ปี
13. น.ส.สุขุมา ร่มมณี อายุ 25 ปี และ
14. น.ส.สัลมา ร่มมณี อายุ 30 ปี

ในจำนวนนี้ น.ส. นูรีซัน พนักงานขายของ หจก.แสงเจริญนาประดู่ อาการสาหัสถูกสะเก็ดระเบิดฝังที่ศีรษะ แขนซ้ายและกลางหลัง แพทย์ต้องผ่าตัดช่วยชีวิตทันที

รถยนต์-จยย.พังกว่า 20 คัน


ต่อมา พล.ต.ต.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผบก.ภ.จ.ยะลา พ.ต.อ.นราศักดิ์ เชียงสุข รอง ผบก.ภ.จ.ยะลา พ.ต.อ.ชัยทัต อินทนูจิตร รอง ผบก.ภ.จ.ยะลา พ.ต.อ.ภูมิเพ็ชร พิพัฒน์เพ็ชรภูมิ ผกก.สภ.อ.เมืองยะลา พ.ต.ท.จิรสิทธิ์ ลอแม รอง ผกก. (สส.) พ.ต.ท.สักรินทร์ บำเพ็ญสมัย รอง ผกก. (ป.) และกำลังต่างแยกย้ายกันไปตรวจที่เกิดเหตุ

พบโชว์รูมแต่ละแห่งเสียหายยับเยิน

กระจกแตกกระจายเกลื่อน รถกระบะกับรถเก๋งถูกแรงระเบิดเสียหายกว่า 10 คัน และรถ จยย.อีกไม่ต่ำกว่า 10 คัน รวมทั้งหมดกว่า 20 คัน

แอบซุกระเบิดไว้ใต้เบาะนั่ง

จากการตรวจสอบจุดระเบิดของทุกแห่ง พบคนร้ายแอบนำระเบิดแสวงเครื่องซุกไว้บริเวณใต้เบาะที่นั่งคนขับทั้งในรถกระบะและรถเก๋งในโชว์รูม แล้วตั้งเวลาทำงานไว้เวลา 12.00 น. เหมือนกัน

แรงระเบิดทำให้หลังคาและประตูฉีกขาดกระจุย นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบชิ้นส่วนนาฬิกาควอตซ์ยี่ห้อคาซิโอในที่เกิดเหตุทุกแห่งแต่ไม่พบสะเก็ดระเบิด

ยกเว้นที่ หจก.แสงเจริญนาประดู่ พบชิ้นส่วนนาฬิกาควอตซ์ในเศษหมวกกันน็อกที่แตกกระจาย

คาดว่าการลอบวางระเบิดครั้งนี้คนร้ายมีไม่ต่ำกว่าสิบคน

แบ่งเป็นชุดย่อยไม่ต่ำกว่าชุดละ 2 คน แยกย้ายกันนำระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนักไม่เกิน 10 ปอนด์ นำเข้าไปในบริษัทและร้านแต่ละแห่ง โดยทำทีเข้าไปติดต่อขอดูรถใหม่ ขอขึ้นไปนั่งทดลอง สบจังหวะพนักงานเผลอ แอบวางระเบิดไว้แล้วเดินออกไป จนเกิดระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว

ภาพวงจรปิดจับผู้ต้องสงสัย


หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้หลักฐานสำคัญจากโชว์รูมรถ 1 ใน 8 แห่ง ที่ติดตั้งวงจรปิดได้จับภาพผู้ต้องสงสัย 2 คน แต่งชุดดาวะห์เดินเข้ามาในร้านแล้วทำทีขอดูรถ จากนั้นได้ล้วงเอาระเบิดที่ซ่อนไว้ในชุดแต่งกายออกมาวางใต้เบาะรถ สำหรับร้าน จยย.ส่วนใหญ่จะซ่อนระเบิดไว้ในหมวกกันน็อก

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า

หลังเกิดเหตุระเบิดครั้งนี้ทำให้ร้านค้าในเขตเทศบาลนครยะลาโดยเฉพาะร้านทองรูปพรรณพากันปิดประตูหน้าร้านทุกแห่ง ทั้งนี้ เกรงว่าจะมีพวกฉวยโอกาสบุกเข้าปล้นจี้ ทำให้ตลาดนครยะลาเงียบเหงาวังเวงลงในทันที

แก๊งเดียวกันวางบึมธนาคาร

ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าเป็นแนวร่วมโจรใต้และเป็นพวกเดียวกับที่ลอบนำระเบิดแสวงเครื่องลักษณะเดียวกันถล่มธนาคาร ในเขตเทศบาลนครยะลา อ.บันนังสตา อ.รามัน อ.ยะหา และ อ.เบตง รวม 23 แห่ง

เมื่อวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บไม่ต่ำกว่า 30 คน ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมคนร้ายวัยรุ่นกลุ่มโจรอาร์เคเคได้ 4 ราย

ไล่ยิงชาวบ้านแต่พลาดเป้า


เมื่อเวลา 05.00 น. วันเดียวกัน ขณะที่นายวีรชัย จันทนา อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100 หมู่ 1 บ้านยุโป ต.ยุโป อ.เมืองยะลา เป็นอาสาสมัครชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ขี่ จยย.ไปกรีดยางพาราที่บ้านคลองทรายใน โดยมีนางสายจิน ภรรยานั่งซ้อนท้าย ผ่านบ้านบ่อเจ็ดลูก หมู่ 6 ต.ยุโป

ถูกคนร้ายดักซุ่มยิงด้วยปืนลูกซองยาวหลายนัดแต่ไม่โดน


นายวีรชัยจึงใช้ปืน 9 มม. ยิงต่อสู้ จนคนร้ายวิ่งหลบหนีไป อีกราย นายครีม ศรีนวล อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56/1 หมู่ 1 ต.ตาเซะ อ.เมืองยะลากับนายถนอม เพ็ชรเต็ม อายุ 44 ปี ทั้งคู่ทำงานโครงการชลประทานแม่น้ำปัตตานี ขี่ จยย.คนละคันไปทำงาน ผ่านบ้านเบ็ญญา หมู่ 2 ต.ตาเซะ

ถูกคนร้าย 2 คนซ้อน จยย.ตามไล่ยิง 4 นัด แต่กระสุนพลาดเป้าหมด เชื่อทั้ง 2 รายเป็นฝีมือโจรใต้สร้างสถานการณ์

ชาวไทยพุทธย้ายหนีโจรเพิ่ม

จากเหตุความรุนแรงในพื้นที่ จ.ยะลา และชาวไทยพุทธถูกทำร้ายมาอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ชาวไทยพุทธในพื้นที่ ต.เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา และ ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา กว่า 100 คน หวาดผวาพากันอพยพทิ้งถิ่นฐานหนีไปอาศัยอยู่ที่วัดนิโรธสังฆาราม เขตเทศบาลนครยะลานั้น

ต่อมาในเช้าวันเดียวกัน

ยังมีชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงทยอยหนีตายมาอาศัยวัดอยู่อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน นายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ รอง ผวจ.รักษาการ ผวจ.ยะลา นายเดชรัฐ สิมสิริ ปลัดจังหวัดยะลาและหน่วยงานด้านความมั่นคงได้เข้าพบปะชาวบ้านที่วัดนิโรธสังฆราม เพื่อหาทางช่วยเหลือในชีวิตความเป็นอยู่

โจรนรกไล่ฆ่าอุกอาจ 2 ศพ


ส่วน จ.ปัตตานี เกิดเหตุฆ่ารายวันหลายราย

ศพแรก นายไพโรจน์ พรประสิทธิ์ อายุ 49 ปี อยู่หมู่ 2 ต.ดอนรัก อ.หนองจิก อาชีพรับเหมาก่อสร้าง ถูกคนร้าย 2 คนซ้อน จยย.ไล่ประกบยิง ขณะขี่ จยย.พาภรรยาซ้อนท้าย ผ่านหน้าโรงเรียนบ้านดอนรักบน ถนนสายปัตตานี-ยะลา หมู่ 1 ต.ดอนรัก กระสุนถูกกลางหลังนายไพโรจน์เสียชีวิต

ส่วนภรรยาปลอดภัย

หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.ถวัลย์ นคราวงศ์ ผกก.สภ.อ.หนองจิก จ.ปัตตานี นำกำลังไปตรวจสอบคาดเป็นฝีมือโจรใต้ อีกรายขณะที่นายภิรมย์ ปิ่นทอง อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 หมู่ 3 ต.ท่าข้าม อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี

ทำงานเป็นลูกจ้างแขวงการทางอำเภอยะรัง กำลังตัดหญ้าริมถนนสายปัตตานี-ยะลา หมู่ 2 ต.ปิตูมุดี อ.ยะรัง ถูกคนร้ายซ้อน จยย.ผ่านมาใช้ปืน 9 มม. ยิงเสียชีวิต

ยิง อส.ดับ-ผู้ใหญ่บ้านสาหัส


ต่อมาเวลา 11.20 น. วันเดียวกัน พ.ต.อ.ปิยะพงษ์ ผลวานิชย์ ผกก.สภ.อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี รับแจ้งว่ามีกลุ่มคนร้ายบุกยิงถล่มเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร ขณะซ่อมแซมบ้านให้ประชาชน ริมถนนหน้าโรงเรียนบ้านปล่องหอย ต.ปล่องหอย

จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี นำกำลังไปที่เกิดเหตุ พบชาวบ้านมุงดูศพนายอับดุลรอนิง สุหลง อายุ 46 ปี เป็นอาสาสมัคร อำเภอกะพ้อ

ถูกยิงด้วยปืนไม่ทราบขนาดเข้าลำตัวจนพรุน และทราบว่านายมะรอนิง สะนิ อายุ 45 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 ต.ปล่องหอย ถูกยิงสาหัสถูกนำส่ง รพ.ปัตตานี ไปแล้ว นอกจากนี้ ยังพบรถกะบะยี่ห้อโตโยต้า ถูกวางเพลิงเสียหายทั้งคัน บริเวณที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนอาก้าและเอ็ม 16 นับสิบปลอก

สอบสวนทราบว่า

ขณะที่ผู้ตายร่วมกับกำลัง อส. และชาวบ้าน ช่วยกันซ่อมแซมบ้านเรือนให้ประชาชนถูกคนร้าย 6 คน ซ้อน จยย. 3 คัน

ขับมาจอดบนถนนแล้วสาดกระสุนปืนทั้งอาก้าและเอ็ม 16 ถล่มใส่ทันทีจนเกิดปะทะกับกำลัง อส.นานประมาณ 5 นาที จนนายอับดุลรอนิง ถูกยิงเสียชีวิต และนายมะรอนิง บาดเจ็บสาหัส และก่อนหลบหนีคนร้ายยังชิงเอาปืนเอ็ม 16 จำนวน 2 กระบอกกับปืนสั้นอีก 1 กระบอกไป

รถหลานนายก อบต.หวิดเละ


ด้าน จ.นราธิวาส เช้าวันเดียวกัน พ.ต.ท.วิเชียร ยันตรัตน์ รอง ผกก.(ป.) สภ.อ.ระแงะ นำกำลังตำรวจ ทหารและหน่วยเก็บกู้ระเบิดชุด เหยี่ยวดง ของ นปพ.ภ.จ. นราธิวาส

ไปตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย

วางไว้หน้ารถที่จอดซ่อมอยู่หน้าอู่ซ่อมรถ เลขที่ 83/1 บ้านบาโงสะโต หมู่ 7 ต.บาโงสะโต พบบนฝากระโปรงรถเก๋ง ยี่ห้อฟอร์ดสีแดง ทะเบียน กจ 2619 สงขลา มีห่อกระดาษหนังสือพิมพ์ วางไว้ จึงแกะตรวจสอบพบขวดบรรจุน้ำมันเบนซินเต็มขวด

สอบสวนทราบว่า

อู่ซ่อมรถเป็นของนายยาการียา หะยีมะดีเยาะ อายุ 27 ปี เป็นหัวหน้าชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านปาเซ (ชรบ.) ต.เฉลิม และอดีตทหารกองพันพัฒนาที่ 4 ส่วนรถเป็นของหลานชายนายก อบต.มะนังดาลัม อ.สายบุรี จ.ปัตตานี นำมาซ่อม คาดว่าคนร้ายแอบนำระเบิดเพลิงมาวางไว้บนฝากระโปรงรถ เพื่อจะจุดไฟเผา แต่โชคดีมีคนเห็นเสียก่อนเลยหลบหนีไป

สาดเอ็ม 16 ถล่มหัวหาย


อีกรายเวลา 19.30 น. ขณะที่นายบือราเฮง เจ๊ะนะ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 208 หมู่ 2 บ้านต้นไม้สูง ต.ปะลุรู อ.สุไงปาดี จ.นราธิวาส ขี่รถ จยย.ไปธุระผ่านบ้านไอกวิง ต.ปะลุรู ถูกคนร้ายซุ่มอยู่ข้างทางสาดกระสุนเอ็ม 16 ถล่มเข้าศีรษะหลุดหายไปทั้งแถบเสียชีวิตสภาพชวนสยดสยอง

หลังเกิดเหตุ

กำลังตำรวจ ทหารและ อส.ไปตรวจสอบพบปลอกกระสุนเอ็ม 16 ตกเกลื่อน สำหรับนายบือราเฮง เคยถูกคนร้ายไล่ยิงมาหนหนึ่งที่ตลาดสุไหงปาดี เมื่อต้นเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา แต่กระสุนกลับไปโดนพี่สาวของนายอารีเพ็ญ อุตรสินธ์ อดีต ส.ส.นราธิวาส พรรคไทยรักไทย ที่มาส่งขนมขายในตลาดได้รับบาดเจ็บ

ชาวบ้านเสมือนญาติพี่น้อง

ที่กองบังคับการหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินภาคใต้ค่ายจุฬาภรณ์ อ.เมืองนราธิวาส พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผบ.ทร.และคณะเดินทางมาตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่ทหารชุดเฉพาะกิจหน่วยนาวิกโยธินภาคใต้ ที่มีการโยกย้ายสับเปลี่ยนกำลังตามวาระเพื่อเป็นการบำรุงขวัญกำลังใจและรับทราบปัญหา

โดยมี น.อ.นิเวช บุตรศรี ผบ.ฉก.นย. ภาคใต้ ต้อนรับ ซึ่ง ผบ.ทร.ได้ให้โอวาทกำลังพลว่า

ขอให้ทหารทุกนายตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นที่ยอมรับของชาวบ้านมากขึ้น และสามารถเป็นที่พึ่งของชาวบ้านได้ในทุกเรื่อง และต้องคิดเสมอว่าชาวบ้านทุกคนเปรียบเสมือนกับพี่น้องเครือญาติของเรา

พระนาย ขอคำชี้แนะ อานันท์


ส่วนนายพระนาย สุวรรณรัฐ ผอ.ศอ.บต.ได้เข้าพบนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตประธาน กอส.เพื่อขอคำแนะนำในการลงปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการในวันที่ 13 พ.ย.นี้ โดยใช้เวลา 2 ชั่วโมง

โดยนายอานันท์ กล่าวว่า

ได้แนะนำให้นายพระนายดูรายงานของ กอส.ที่เขียนบันทึกไว้ ทั้งนี้ การลงพื้นที่และกล่าวขอโทษแทนรัฐบาลชุดที่แล้วถือว่าเหมาะสมน่าชมเชย เพราะเหตุการณ์ที่ผ่านมาหลายอย่างสร้างความอึดอัด คับแค้นใจให้ประชาชน โดยรัฐบาลไม่มีการเปิดเผยข้อเท็จจริงโดยสมบูรณ์

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่การแก้ปัญหาจะลุล่วงไปได้หลังการกล่าวขอโทษ

แต่ถ้ามองด้านจิตวิทยา สามารถสร้างความสบายใจให้กับคนในพื้นที่ได้ และแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันมีความกล้าและยอมรับสถานการณ์ นอกจากนี้ได้ให้แนวทางว่าควรแยกแยะสถานการณ์ปัญหาออกจากกัน

เพราะมีปัญหาที่เกิดจากอาชญากรรม การค้าของเถื่อน หรือการเมือง ซึ่งการข่าวยังไม่ดีก็อาจลำบากที่จะแก้ปัญหาได้

เหตุร้ายไม่เกี่ยวนโยบายรัฐ


พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางไปพบเยาวชนในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ ว่า เป็นการเน้นย้ำให้กลไกใหม่ที่เริ่มลงไปปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งได้เริ่มทำงานกันอย่างจริงจัง โดยไม่ต้องรอให้เสร็จสมบูรณ์ ไม่ได้หวังผลว่าเหตุการณ์ร้ายๆจะเป็นเครื่องวัดความสำเร็จของนโยบายใหม่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประชาชน

หากประชาชนมีความพอใจนโยบายนี้

ถือว่าประสบความสำเร็จ ซึ่งต้องใช้เวลา ขณะนี้ต้องอดทนจนกว่าทุกอย่างจะดำเนินไปตามแผนที่ได้วางไว้ เมื่อถามว่า การเจรจากับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบอย่างไร ไม่ให้ต่างประเทศเข้ามายุ่งเกี่ยวกับกิจการภายในของไทย

พล.อ.บุญรอดกล่าวว่า

ขอให้ใจเย็นๆ เพราะเป็นเรื่องของรัฐบาล และ คมช.โดย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และประธาน คมช. ซึ่งรับผิดชอบเป็น ผอ.รมน.จะลงไปดูแลด้วยตัวเอง คงไม่สามารถพูดได้ พร้อมรับ 131 คนไทยกลับ

โพลเชื่อเหตุร้ายยังคงเดิม


ขณะเดียวกันศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลได้ออกสำรวจความเห็นประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่าคิดอย่างไรกับการแก้ปัญหาความไม่สงบของรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์

โดยร้อยละ 53.7 เชื่อว่าสถานการณ์ยังคงเหมือนเดิม
ร้อยละ 18.0 เชื่อว่าจะดีขึ้น
และร้อยละ 28.3 เชื่อว่าแย่ลง

ต่อคำถามที่ว่า มีความเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะสามารถแก้ปัญหาความไม่สงบให้หมดไป

ร้อยละ 12.8 เชื่อว่าแก้ได้ เพราะรัฐบาลมีความจริงใจ
ร้อยละ 30.8 เชื่อว่าแก้ไม่ได้ เพราะรัฐบาลมีเวลาน้อยเกินไป
และร้อยละ 56.4 ไม่แน่ใจ


แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์