ระดมล่าเสือหิวหลุดจากอุทยาน

ไล่กินวัวควาย9ตัวหวั่นขย้ำชาวบ้าน


ผวาเสือหิวอาละวาดออกกัดกินวัวควายชาวบ้าน เผยหลุดจากป่าอุทยานแห่งชาติศรีล้านนาเชียงใหม่ ชาวบ้านระดมพร้อมอาวุธครบมือ กำนันยันเสือขนาดใหญ่กัดกินวัวควายของชาวบ้านไปแล้ว 9 ตัว เป็นควาย 4 ตัว วัว 5 ตัว ทั้งประกาศเสียงตามสายให้ชาวบ้านระมัดระวัง ส่วนชาวบ้านที่ปล่อยวัวควายออกเลี้ยงในป่าเขตอุทยานฯ ก็ให้ระงับไว้ก่อน

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 พ.ย. ที่ทำการกำนันตำบลโหล่งขอด อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ มีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติศรีล้านนา เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอพร้าว กำนันตำบลโหล่งขอด เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสภ.ต.โหล่งขอด และชาวบ้านผู้เสียหายที่ถูกเสือกัดกินวัวควายมารวมตัวกันพร้อมอาวุธครบมือ เพื่อออกตรวจบริเวณที่เชื่อกันว่ามีเสือโคร่งออกมากัดกินวัวควายชาวบ้าน บริเวณเขตป่าอุทยานแห่งชาติศรีล้านนา หมู่ 6 ต.โหล่งขอด อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบรอยเท้าของเสือบริเวณลำห้วยในป่า และรอยลากวัว ควาย ที่เสือโคร่งลากนำไปกินอย่างชัดเจน

"เสือขนาดใหญ่หลุดกัดกินวัวควายชาวบ้าน"


นายอิ่นแก้ว สมพันธ์ กำนันตำบลโหล่งขอด เปิดเผยว่า ขณะนี้มีเสือขนาดใหญ่โผล่ออกมากัดกินวัวควายของชาวบ้านในละแวกนี้ โดยมีชาวบ้านต้องเสียวัวควายไปแล้ว 9 ตัว เป็นควาย 4 ตัว วัว 5 ตัว ซึ่งได้ให้ชาวบ้านผู้เสียหายแจ้งรายชื่อมาเพื่อหาทางช่วยเหลือ และได้ประกาศเสียงตามสายให้ชาวบ้านระมัดระวังเสือโคร่งในช่วงนี้ด้วย ซึ่งเสือโคร่งดังกล่าวนั้นน่าจะเป็นเสือที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติศรีล้านนาและหิว จึงได้ออกหากินใกล้กับหมู่บ้าน และพบวัวควายของชาวบ้านที่ปล่อยเลี้ยงตามลำพังจึงกัดกินดังกล่าว ตอนนี้ได้ประกาศให้ชาวบ้านได้ช่วยกันสร้างกรงกับดักไว้บริเวณคอกเลี้ยงวัวควายไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้เสือเข้ามาในหมู่บ้านเพื่อกัดกินวัวควาย

ส่วนชาวบ้านที่มักจะปล่อยวัวควายออกเลี้ยงในป่าเขตอุทยานฯ ก็ให้ระงับไว้ก่อน เพราะตอนนี้เสือโคร่งออกมาเพ่นพ่าน และมีชาวบ้านหลายคนไปพบเห็นหลายครั้งบอกว่า ตัวใหญ่มาก อย่างไรก็ตามได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไว้แล้ว ให้มาช่วยดำเนินการกับเสือโคร่งตัวนี้ เพื่อไม่ให้ชาวบ้านเดือดร้อนอีก เพราะชาวบ้านหวั่นเสือจะบุกเข้ามาในหมู่บ้าน และลามไปยังหมู่บ้านอื่นอีก

"เสือใหญ่ขนาด 8 ศอก"


สำหรับรายงานที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่เดือดร้อนจากเสือโคร่งนั้น ครั้งแรก เมื่อประมาณวันที่ 2 พ.ย. ที่ป่าห้วยลึก ต.โหล่งขอด เสือกัดกินควายไป 1 ตัว น้ำหนัก 300 ก.ก. เป็นควายของนายปอง มูลปา ครั้งที่ 2 เมื่อประมาณวันที่ 4-6 พ.ย. ควาย 2 ตัว น้ำหนักตัวควายตัวละประมาณ 60 ก.ก. ถูกเสือกัดกินบริเวณห้วยน้ำลึกจุดเดิม ควายทั้งสองเป็นของนายปอง มูลปา ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 10 พ.ย. ที่ห้วยแล้ง เสือไปกัดกินวัว 1 ตัว น้ำหนักประมาณ 200 ก.ก. ของนางจำเรียน ไชยยงค์ ครั้งที่ 4 วัวของนายดวงจันทร์ พลหาญ อายุ 57 ปี หายไป 4 ตัว บริเวณห้วยแล้ง ต.โหล่งขอด ขณะปล่อยเลี้ยงในป่า และล่าสุดเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ควายของนายสงวน สังวร ถูกเสือกัดกิน บริเวณห้วยน้ำลึกอีกเช่นกัน ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก ต้องรีบมาแจ้งให้กำนันเพื่อประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยเหลือ ซึ่งตนก็ได้ดำเนินการทันที

ด้านนายจร รัตนนัง อายุ 37 ปี ชาวบ้านที่พบเห็นเสือ เปิดเผยว่า เมื่อ 2-3 วันก่อน ตนออกไปหากบเขียดบริเวณห้วยลำธารห้วยลึก ช่วงประมาณ 4-5 โมงเย็น ปรากฏว่าขณะที่ตนกำลังหาอยู่นั้นได้พบเห็นเสือโคร่ง กำลังกินน้ำบริเวณลำธารห้วยลึกดังกล่าว ตนตกใจมากยืนขาสั่นและรีบแอบตัวกับต้นไม้ ซึ่งตนได้นำปืนแก๊ปยาวติดตัวมาด้วย แต่ไม่กล้ายิง เพราะเสือตัวใหญ่ลายพาดกลอน เป็นเสือโคร่งความยาวประมาณ 8 ศอก ตนปล่อยให้เสือกินน้ำจนเสร็จ จึงได้วิ่งหนี นึกว่าไม่รอดแล้ว และได้รีบมาแจ้งให้กับกำนันทราบ เชื่อว่าเสือโคร่งนั้นคงวนเวียนอยู่ในละแวกดังกล่าว

"ชาวบ้านเดือดร้อนหนักเสือออกอาละวาดกัดกินวัวควาย"


นายดวงจันทร์ พลหาญ อายุ 57 ปี บ้านเลขที่ 205 หมู่ 6 ต.โหล่งขอด เปิดเผยว่า ก่อนที่วัวจะหายไป 4 ตัว ตนได้นำฝูงวัวไปปล่อยเลี้ยงแบบธรรมชาติในป่าละเมาะใกล้กับหมู่บ้าน จู่ๆ ได้ยินเสียงวัวร้องและพากันวิ่งมายังคอกที่บ้านด้วยท่าทางตกใจ ตนจึงนับวัวปรากฏว่าได้หายไป 4 ตัวเป็นวัวตัวเล็ก จึงออกไปตามดูบริเวณป่าละเมาะห้วยลึก พบแต่รอยลากและรอยดิ้นของวัว จึงแน่ใจว่าถูกเสือนำไปกินแล้วทั้งตัว เพราะวัวที่หายไปตัวเล็ก

นายสงวน สังวร ชาวบ้านผู้เสียหายที่ควายถูกเสือกัดกิน เปิดเผยว่า ไปพบเห็นซากวัวควายของตนเสียชีวิตในป่าห้วยลึก ซึ่งขาขาดหายไปเหลือแต่ตัว ตอนแรกคิดว่าพวกขโมยวัวควาย แต่ตรวจดูตามตัวของวัวควายที่เสียชีวิตก็ไม่พบรอยกระสุนปืน แต่พบรอยกัดบริเวณลำคอ และสะโพก จึงแน่ใจว่ามีเสือขนาดใหญ่ออกมากัดกินวัวควายแน่ ตนจึงได้นำซากควายของตนที่เหลือกลับบ้านไปทำอาหาร เสือเอาไปแต่ขาหลัง

"ให้ชาวบ้านระวังตัวเวลาออกป่า"


นายอัมพร ปานมงคล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติศรีล้านนา เปิดเผยว่า จากคำบอกเล่าและรอยเท้าที่พบน่าจะเป็นเสือ ซึ่งทุกจุดที่พบเสือตัวดังกล่าวนั้นเป็นพื้นที่ป่าของอุทธยานแห่งชาติศรีล้านนา ซึ่งกินพื้นที่กว่า 800,000 ไร่ ติดกับอ.ดอยสะเก็ด เชียงดาว แม่แตง และเวียงป่าเป้า จ.เชียงราย เป็นพื้นที่ป่าอุดมสมบูรณ์มากแห่งหนึ่งมีสัตว์นานาชนิด ทั้งเก้ง กวาง เสือ หมี และสัตว์หายากอีกหลายชนิด ซึ่งตรงจุดใกล้หมู่บ้านนี้มักจะมีหมี เข้ามากินลำไย ของชาวบ้านบ่อย แต่ก็ห่างหมู่บ้านไม่เข้าใกล้หมู่บ้านมากนัก ซึ่งเสือก็มีพื้นที่หากินแถบนี้ แต่ก็คงระยะนี้ และคงจะหมุนเวียนไปตามวัฏจักร ซึ่งก็คงจะออกหากินเวียนไปในป่าแถบอื่นต่อไป ซึ่งหากชาวบ้านจะเข้ามาล่าเสือในป่าอุทยานแห่งชาตินี้เราคงไม่ยอม แต่ก็ให้ชาวบ้านระวังตัวในเวลาออกมาหาของป่า เพราะเชื่อมั่นว่าเสือคงไม่เข้าไปใกล้หมู่บ้านมากกว่านี้แน่นอน

ด้านนายอนุทิน ศรีทรงผล ปลัดอำเภอพร้าว เปิดเผยว่า ตอนนี้ก็ได้กระจายเสียงตามสาย แจ้งชาวบ้านทุกคนให้รับทราบหมดแล้วให้ระวังภัยเวลาเข้าไปหาของป่า และขออย่าให้ชาวบ้านนำวัวและควายเข้าไปในป่าเพราะอาจจะเกิดเหตุได้ ควรเลี้ยงในหมู่บ้านเท่านั้น และควรล้อมคอกระวังภัยในหมู่บ้าน ส่วนที่ชาวบ้านจะทำกรงดักจับเสือ ก็ให้วางไว้ในเขตหมู่บ้านได้เท่านั้น ห้ามวางไว้ในเขตพื้นที่ป่าเพราะผิดกฎหมาย เพราะอย่างไรก็ตามพื้นที่ป่าเสือมีสิทธิที่จะอยู่ได้เพราะเป็นป่าสงวนฯ


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์