รวบไอ้เณรฆ่า5ศพ เด็ก7ขวบยังไม่เว้น ทะเลาะใคร-ตายหมด

ในที่สุดนายยุรนันท์ กับนายพัชรพงษ์ อดีตทหารเกณฑ์จากค่ายกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ที่หนีทหารออกมาก่อเหตุฆ่านายสายชล โจ๋วัย 17 ปี คู่อริที่ริมาจีบผู้หญิงคนเดียวกัน ก็ถูกตำรวจชุมพรตามจับกุมเอาไว้ได้สำเร็จ หลังจากที่ 2 คนร้ายลงมืออย่างโหดเหี้ยม ร่วมกันใช้มีดและขวานรุมทำร้ายนายสายชล จนถึงแก่ความตาย แล้วนำศพห่อผ้าปูที่นอนเอาไปโยนทิ้งน้ำ

ฆ่าคนอย่างท้าทายกฎหมาย!!

ศพของนายสายชล มีคล้าย อายุ 17 ปี มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 51/3 ม.11 ต.หาดพันไกร อ.เมือง ชุมพร ถูกฆ่าตายทิ้งสระน้ำหลังบ้านเลขที่ 140 ม.8 ต.ท่าข้าม ห่างจากป้อมยามตำรวจทางหลวง ประมาณ 600 เมตร มีชาวบ้านไปพบศพเมื่อวันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา

หลังเกิดเหตุพล.ต.ต.ประพัฒน์ ศิริวัฒน์ ผบก.ภ.จว.ชุมพร สั่งการให้เจ้าหน้าที่ระดมกำลังตามล่าคนร้ายทันที

โดยมีพ.ต.อ.ชำนาญ แทนม้วน ผกก.สภ.ท่าแซะ จ.ชุมพร พ.ต.ท.ภักดิ์ จันทร์ดอน รอง ผกก.(ป.) พ.ต.ท.วิมล พิทักษ์บูรพา รองผกก.(สส.) พ.ต.ท.สุชาติ พิเคราะห์ สวป. พ.ต.ท.ธานี นาคหกวิค สว.กสส. ภ.จว.ชุมพร และพ.ต.ต.สมพงษ์ ณ สงขลา พงส. (สบ 2) เป็นชุดไล่ล่า

ตำรวจขีดวงคนในก่อนอันดับแรก

เจ้าหน้าที่โฟกัสไปที่คู่อริของนายสายชลก่อน เพราะรู้มาว่านายสายชลก็มีศัตรูเป็นวัยรุ่นในย่านนั้นเช่นกัน โดยเฉพาะนายยุรนันท์ หรือ "ไอ้ท้วม" คลังนิมิตร อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 140 หมู่ที่ 8 ต.ท่าข้าม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร กับนายพัชรพงษ์ ชูศรี อายุ 21 ปี ซึ่งทั้งคู่เคยเป็นทหารเกณฑ์จากค่ายกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และหนีทหารมากบดานอยู่ในย่านนั้น ถือเป็นศัตรูตัวเอ้ที่นายสายชลมีปัญหาอยู่ด้วย เนื่องจากไปจีบผู้หญิงคนเดียวกัน

ตำรวจจึงพุ่งเป้าไปที่ 2 คนนั้นก่อน

หลังเกิดเหตุคนร้ายฆ่านายสายชล เจ้าหน้าที่ตามประกบนายยุรนันท์กับนายพัชรพงษ์ พบว่าทั้งคู่ยังอยู่ในพื้นที่ ไม่ได้หลบหนีไปไหน และเพื่อให้หายข้องใจตำรวจจึงเข้าควบคุมตัวมาสอบสวนทันที

โดยในช่วงค่ำของวันเดียวกันนั้น กำลังของพ.ต.อ.ชำนาญ แทนม้วน ผกก.สภ.ท่าแซะ ได้เข้าปิดล้อมตรวจค้นที่บ้านพักของนายยุรนันท์ พบทั้งคู่อยู่ในบ้านจึงนำตัวมาสอบสวน โดยในตอนแรกทั้งคู่ยังคงให้การปฏิเสธอ้างไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น แต่เมื่อถูกเจ้าหน้าที่ซักเข้ามากๆ จึงยอมรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่านายสายชล ด้วยน้ำมือตนเอง ทำไปเพราะโมโหที่นายสายชล บังอาจมาจีบผู้หญิงคนเดียวกัน จึงช่วยกันรุมทำร้ายโดยใช้ขวานและมีดฟันไปทั่วร่างกาย ก่อนนำศพไปโยนทิ้งน้ำอำพรางคดี

ตำรวจตั้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นทันที

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังตามยึดของกลางเป็นขวานและมีดปลายแหลม รวมทั้งก้อนอิฐที่ใช้ก่อเหตุไว้มัดคนร้ายอีกด้วย ซึ่งคดีฆ่านายสายชล จบลงง่ายๆ ด้วยการได้ตัวคนร้ายแบบไม่ทันข้ามวัน รวมทั้งยังได้พยานหลักฐานอีกเพียบในการเอาผิดกับฆาตกร

แต่สิ่งที่ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องตะลึงงันยิ่งไปกว่านั้น ก็ตรงที่นายยุรนันท์ให้การรับสารภาพด้วยว่า ก่อนหน้านี้ได้ก่อคดีฆ่าคนตายมาแล้วหลายราย หลายศพในอ.ท่าแซะ ล้วนเป็นฝีมือของนายยุรนันท์ทั้งนั้น

มีคนสังเวยชีวิตให้กับนายยุรนันท์ถึง 5 ศพ

โดยนายยุรนันท์บอกว่า เคยฆ่านางลมเช้า ชินศรี อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67 หมู่ที่ 2 ต.หินแก้ว พร้อมหลานชายคือ ด.ช.ภานุวัฒน์ เวหา อายุ 7 ขวบ โดยใช้มีดฟันใบหน้าและศีรษะของผู้ตายทั้งสองคนขณะอยู่ในบ้านพัก สาเหตุมาจากการทะเลาะวิวาทเกี่ยวกับการพนัน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 2546 ซึ่งคดีนี้นับเป็นคดีที่โหดร้ายมาก เพราะลงมือฆ่าเด็ก 7 ขวบอย่างเลือดเย็น นอกจากนี้ ยังลงมือฆ่านายบุญลือ ศรีวิจิตร อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 763 หมู่ที่ 5 ต.หินแก้ว โดยใช้ปืนลูกซองยิงกลางหลัง บนถนนสาย รพช.-จันทึง หมู่ที่ 6 ต.หินแก้ว สาเหตุมาจากความขัดแย้งส่วนตัวเรื่องชู้สาว เหตุเกิดเมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2549 และก่อคดีฆ่านายจรูญ ภมรนาค อายุ 65 ปี พ่อตาของนายบุญลือ โดยใช้ปืนลูกซองยิงบริเวณใบหน้า ที่บ้านเลขที่ 144 หมู่ที่ 2 ต.รับร่อ อ.ท่าแซะ บ้านของผู้ตาย เนื่องจากกลัวว่านายจรูญจะจ้างมือปืนมาฆ่าตนเองเพื่อแก้แค้นให้ลูกเขย จึงชิงลงมือฆ่าก่อน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา ก่อนจะมาร่วมกับนายพัชรพงษ์ก่อคดีฆ่านายสายชลเป็นรายต่อมา

ตำรวจนำตัวนายยุรนันท์กับนายพัชรพงษ์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในคดีฆ่านายสายชล

ก่อนจะแยกเอาตัวนายยุรนนท์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในคดีฆ่าค้างเก่า ซึ่งที่เกิดเหตุมีหลายจุดด้วยกัน อาทิ บริเวณสระน้ำหลังบ้านเลขที่ 140 หมู่ที่ 8 ต.ท่าข้าม อ.ท่าแซะ จุดฆ่านายสายชล ที่บ้านเลขที่ 67 หมู่ที่ 2 ต.หินแก้ว อ.ท่าแซะ บนถนนสาย รพช.-จันทึง หมู่ที่ 6 ต.หินแก้ว อ.ท่าแซะ และที่บ้านเลขที่ 144 หมู่ที่ 2 ต.รับร่อ อ.ท่าแซะ โดยแต่ละจุดมีประชาชนมุงดูการทำแผนจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงต้องวางกำลังคุ้มกันผู้ต้องหาอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันการรุมประชาทัณฑ์ที่อาจเกิดขึ้น เพราะญาติผู้เสียหายมีจำนวนหลายราย มองไปทางไหนก็มีแต่คนจ้องเล่นงานคนร้ายทั้งนั้น กว่าจะผ่านพ้นการทำแผนก็เล่นเอาตำรวจเหงื่อตกไปตามๆ กัน เพราะแต่ละสถานที่มีแต่อารมณ์โกรธและเกลียดชังของชาวบ้านที่มาดูเหตุการณ์ ซึ่งทุกคนต่างตะโกนสาปแช่งขอให้ตายตกไปตามกัน และขอให้กฎหมายลงโทษคนร้ายถึงที่สุด

ต้องชดใช้กรรมที่ทำไว้

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์