รวบโจ๋สุราษฎร์ฯก่อเหตุชิงทรัพย์หาเงินเลี้ยงลูกอ่อน

ตำรวจสุราษฎร์ธานี รวบโจ๋ชิงทรัพย์ได้ทันควันหลังก่อเหตุเพียงไม่ถึง 10 นาที รับสารภาพหาเงินซื้อนมให้ลูกที่เพิ่งคลอด


(25สค.) เวลา 08.10 น.

ด.ต.วิชาญ แก้วสาธร และ จ.ส.ต.วรายุทธ โลหิตธาดา ตำรวจสายตรวจรถจักรยานยนต์ สภ.อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนดูแลความสงบเรียบร้อยประจำร้านทองต่างๆในเขตตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 สภ.อ.เมือง

มีวัยรุ่นก่อเหตุชิงทรัพย์หลบหนีเข้าไปในซอยพาณิยช์

 มุ่งหน้าไปถนนศรีวิชัย ซึ่งเป็นถนนสายไปยัง อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ตำรวจทั้งสองนายจึงได้ขี่รถจักรยานยนต์ไล่ติดตาม กระทั่งสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าปากซอยศรีวิชัย 43 ทราบชื่อคือ นายออย แซ่ล้อ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11/12 ม.2 ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง สร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึง 1 เส้น รถจักรยานต์ 1 คัน ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์ที่ผู้ต้องหาเช่ามาเพื่อใช้ก่อเหตุชิงทรัพย์


จากการสอบสวนผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า

ได้ก่อเหตุชิงทรัพย์จริง เพื่อต้องการนำเงินไปซื้อนมให้ลูกและเลี้ยงภรรยา อายุ 17 ปี ที่เพิ่งคลอดลูกสาว อายุได้ไม่ถึงเดือน เดิมมีอาชีพรับจ้างทาสี แต่เงินไม่พอใช้ จึงตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว และได้ก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง ในขณะที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อมากนัก เพราะเคยมีคดีค้างเก่ามาแล้วหลายคดี และอาศัยก่อเหตุช่วงเวลาที่ตำรวจปรับเปลี่ยนเวรยามประมาณ 08.00 น.เพื่อไม่ให้ตำรวจติดตามจับกุมได้ทัน


โดยครั้งนี้ได้ฉวยโอกาสขี่รถจักรยานยนต์ไปที่หอพักหญิงชื่อ "กนกนันท์"

 ภายในซอยดงตาล เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี จากนั้นได้จอดรถจักรยานยนต์และเดินไปเคาะประตูห้องหมายเลข 5 ขณะที่ น.ส.จันทร์ทรา พรมทอง อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 ม.7 ต.บ้านเสด็จ อ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี พนักงานร้านเอเน็ตคอมพิวเตอร์ กำลังจะเปิดประตูห้องเพื่อไปทำงานพอดี โดยคนร้ายทำทีว่ามีอาวุธปืนจี้พร้อมกับพูดว่า "ถ้าไม่อยากตายเอาทรัพย์สินออกมาให้หมด" และคนร้ายได้ฉวยโอกาสเดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่แล้วภายในห้องพัก จากนั้นได้วิ่งออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว


ต่อจากนั้นคนร้ายได้วิ่งไปเคาะประตูห้องพักหมายเลข 9 หอพักเดียวกัน

ซึ่งเป็นห้องพักของ น.ส.อัจฉิรา ศรียาภัย อายุ 21 ปี นักศึกษาวิทยาลัยตาปี ชั้นปี 4 เมื่อ น.ส.อัจฉิรา เปิดประตูห้องพัก คนร้ายได้กระชากสร้อยคอทองคำ วิ่งหลบหนีไปขึ้นรถจักรยานยนต์ทันที โดยที่ผู้เสียหายทั้งสองคน จำทะเบียนรถจักรยานยนต์ได้ จึงโทรศัพท์แจ้ง 191 ระหว่างนั้นทางตำรวจสายตรวจสองนายดังกล่าว ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาพอดีจึงได้ไล่ติดตามจับกุมตัวได้ทันที


น.ส.จันทร์ทรา พรมทอง อายุ 22 ปี ผู้เสียหาย กล่าวว่า

 ตอนเกิดเหตุ ตกใจมาก ช่วงเกิดเหตุตนเองกำลังจะเปิดประตูห้องเพื่อรีบไปทำงาน และเป็นช่วงเดียวกับที่คนร้ายเคาะประตู จึงรีบเปิดทันที ไม่คิดว่าจะถูกชิงทรัพย์ และหอพักนี้ก็เป็นหอพักผู้หญิง โดยที่ผู้ที่เข้าไปได้เป็นผู้หญิงเท่านั้น แต่มาทราบภายหลังว่าทางเข้าประตูหอพักได้เปิดค้างไว้ และไม่มีคนอยู่ เพราะส่วนใหญ่ช่วงเช้าคนที่อยู่หอพักนี้ จะรีบเดินทางไปทำงานกัน จึงทำให้คนร้ายเข้าออกได้สะดวก
 

ขณะที่ น.ส.อัจฉิรา ศรียาภัย อายุ 21 ปี ผู้เสียหายอีกราย กล่าวว่า

ได้อาบน้ำแต่งตัวเตรียมจะออกไปข้างนอก บังเอิญมีคนมาเคาะประตูห้อง จึงเปิดออกไปและถูกกระชากสร้อยทันที แต่ยังโชคดีที่คนร้ายไม่ได้ทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามตอนที่คนร้ายขู่นั้น รู้สึกตกใจและกลัวมาก เพราะคิดว่าคนร้ายมีอาวุธปืนหรืออาวุธอื่นๆที่อาจจะใช้ทำร้ายได้


พ.ต.ท.ประวิทย์ เรืองจรูญฤทธิ์ สวป.สภ.อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า

สำหรับผู้ต้องหารายนี้เคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง และก่อเหตุคนเดียว อย่างไรก็ตามระยะหลังนี้ มักจะมีกลุ่มวัยรุ่นกวนเมืองก่อเหตุฉกชิงวิ่งราวโดยอาศัยช่วงที่ตำรวจกำลังจะเปลี่ยนเวรยามดูแลความสงบเรียบร้อย ออกตระเวนก่อเหตุ เพื่อป้องกันไม่ให้ตำรวจไล่ติดตามจับกุมได้ทันโดยเหยื่อมักจะเป็นผู้หญิง และบางครั้งทำทีมาเคาะประตูห้องพัก โดยบางครั้งอ้างว่าเป็นเพื่อนกับเจ้าของห้องพัก ทั้งนี้ขอให้ประชาชนระมัดระวังในส่วนนี้ด้วย โดยที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะกวดขันและติดตามจับกุมอย่างเข้มงวดต่อไป


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์