รวบแล้วอดีตนักมวยหมัดหนัก!! ต่อยปลายคางสาวน็อก

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 13 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กองบังคับการตำรวจสืบสวนภาค 5 พล.ต.ต.ปชา รัตนพันธ์ รอง ผบช.ภาค 5 พล.ต.ต.ประจวบ วงค์สุข ผบก.สส.ภ.5 พ.ต.อ.ชินวิช วิชัยธนพัฒน์ รอง ผบก.สส.ภ.5 พ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.5 ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัวผู้ต้องหาก่อคดีฆ่าแล้วเผาหญิงสาว ผู้ต้องหา คือ นายเศวต หรือ โจ้ มะโนธรรม อายุ 32 ปี อยู่ ต.แม่ลาน้อย อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน ตั้งข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาและกระทำการซ่อนเร้นอำพรางหรือเผาทำลายศพ , ลักทรัพย์สินหรือรับของโจร โดยจับกุมตัวได้ที่บ้านของผู้ต้องหาดังกล่าว โดยผู้ต้องหารับสารภาพ

พล.ต.ต.ปชา เปิดเผยว่า คดีเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 เม.ย. 58 เวลาประมาณ 10.15 น. ที่ผ่านมา ที่ สภ.แม่ลาหลวง ได้รับแจ้งเหตุพบศพไม่ทราบเป็นบุคคลใด ถูกไฟเผาอยู่ที่กระท่อมสวนของชาวบ้าน ระหว่างเขตติดต่อบ้านหนองแห้ง ต.เมืองปอน อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ต่อมาจากการสืบสวนทางตำรวจภาค 5 ได้สืบทราบมาว่าผู้ตายที่ถูกเผา คือ นางแสงคำ สุดแดนไกล หรือ วรรณวินิจ อายุ 40 ปี อยู่ ต.แม่ลาน้อย อ..แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน เนื่องจากนางแสงคำ หายออกจากบ้านไม่ทราบเลขที่ หมู่ 7 ต.แม่ลาน้อย อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นบ้านพักอาศัยปัจจุบันของนางแสงคำ

ตำรวจชุดสืบสวนภาค 5 จึงได้ทำการสืบสวนติดตามเรื่อยมา จนกระทั่งวันที่ 13 พ.ค. ทางตำรวจได้เชิญตัวนายเศวต หรือ โจ้ มะโนธรรม ผู้ต้องหา ซึ่งเป็นอดีตนักมวยเก่า และหันมาประกอบอาชีพค้าขายผลไม้ มาทำการสอบปากคำ เนื่องจากเป็นบุคคลที่ต้องสงสัยที่สุด และในที่สุดนายเศวต หรือโจ้ ผู้ต้องหาก็ได้รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ซึ่งผู้ต้องหาได้สารภาพว่า กระทำไปด้วยความแค้นที่ผู้ตายเป็นหนี้เรื่องยาเสพติด ฝิ่น แล้วไม่ยอมจ่ายเงิน เป็นจำนวนเงินประมาณ 90,000 กว่าบาท โดยเอาฝิ่นไปก่อนแล้วไม่ยอมจ่ายเงิน รวมทั้งค่าผลไม้บางส่วนด้วย จึงเกิดความโมโห ได้ร่วมกับเพื่อนอีกคนชื่อ นายทูน ไม่ทราบนามสกุล เป็นชาวพม่า ได้หลบหนีข้ามประเทศไปแล้ว ก่อเหตุฆ่าแล้วเผาดังกล่าว

ทั้งนี้ต้องขอชมเชยการทำงานของตำรวจภาค 5 ที่ดำเนินการสืบสวนสอบสวนคดีนี้อย่างต่อเนื่อง จนสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ ทั้งที่พื้นที่ที่เกิดเหตุนั้นเป็นพื้นที่ที่ห่างไกลมาก การเดินทางเข้าที่เกิดเหตุก็ยากลำบาก แต่ทางชุดสืบสวนภาค 5 ก็ไม่ย่อท้อ ดำเนินการสืบสวนสอบสวน จนรู้ตัวผู้ต้องหาและสามารถจับกุมได้ในที่สุด



ด้านผู้ต้องหา นายเศวต หรือ โจ้ ได้รับสารภาพว่า เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 58 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 11.00 น. ตนได้โทรศัพท์นัดผู้ตาย คือ นางแสงคำ ให้มาเจอที่ห้วยแม่โถ เพื่อตกลงกันเรื่องหนี้สิน เมื่อนางแสงคำมาหา ตนได้ให้นางแสงคำ ขึ้นรถยนต์กระบะของตน และยกรถจักรยานยนต์ที่นางแสงคำขี่มา ขึ้นรถยนต์กระบะของตน จากนั้นได้พากันไปที่กระท่อมบ้านหนองแห้ง ต.เมืองปอน อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน แล้วพูดคุยกันเรื่องหนี้สิน

เมื่อตนได้ทวงถามเรื่องหนี้สิน นางแสงคำปฏิเสธไม่ยอมให้เงิน ตนรู้สึกโกรธมาก จึงได้ชกเข้าไปที่ใบหน้าของผู้ตายเข้าที่บริเวณใต้คาง 1 ครั้ง นางแสงคำถึงกับทรุดลงและเสียชีวิตทันที ตนได้ตรวจสอบการเต้นของหัวใจและลมหายใจ เมื่อรู้ว่านางแสงคำ เสียชีวิตแล้ว จึงได้ให้เพื่อนที่มาด้วยกัน คือ นายทูน ชาวพม่า ทำการใช้ผ้าห่มคลุมตัวผู้ตาย แล้วหาเศษไม้มาคลุมทับ ก่อนจุดไฟเผา

หลังก่อเหตุก็ได้แยกย้ายกันหลบหนี โดยตนได้นำรถจักรยานยนต์ของผู้ตายไปขาย แล้วนำเงินไปใช้หนี้สินอื่นๆ หนี้สินที่นางแสงคำเป็นหนี้นั้นมาจากที่นางแสงคำ ได้สั่งซื้อฝิ่นดิบ จากตนเป็นแท่งๆ และผลไม้ที่ตนทำการค้าขาย เป็นหนี้สะสม ยอดถึง 90,000 บาท แต่นางแสงคำ กลับไม่ยอมจ่าย และบ่ายเบี่ยงมาตลอด ตนจึงได้ทำร้าย แต่ไม่คิดว่านางแสงคำ จะเสียชีวิตง่ายดาย ตนนั้นเป็นอดีตนักมวยมาก่อน ใช้ชื่อว่า "พันธุ์ดุ ลูกราชวัง" ต่อยที่เวที ชั่วคราวแม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน ครั้งเดียว ต่อมาก็หันมาต่อยหาเงิน "มวยทะเล" ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมาและมาค้าขายผลไม้ เคยติดคุกคดีค้ายาบ้าจำนวน 16 เม็ดเมื่อปี 52 ติดคุกได้ 1 ปี 7 เดือน ก็พ้นโทษ และมาติดต่อค้าฝิ่นกับนางแสงคำ เมื่อ 4 ปี ก่อน และมาถูกเบี้ยวหนี้ ไม่ยอมจ่าย จึงได้ก่อเหตุดังกล่าว นอกจากนี้ตนยังเป็นสายให้กับตำรวจ ที่ จ.แม่ฮ่องสอนอีกด้วย เพื่อหารายได้พิเศษ ในบางครั้ง แต่ก็มาถูกจับกุมในที่สุด

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์