รวบแล้ว! 4แสบหยอดยา ฆ่าไม้สัก

กรณีไม้สักทองในเขตอุทยานแห่งชาติแม่ยม (แก่งเสือเต้น) ต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่

ถูกขบวนการมอดไม้ เข้าไปทำลายด้วยวิธีใช้ยาฆ่าหญ้าโรยใส่ตามแนวกาน รอบต้นเพื่อให้ไม้ยืนต้นตาย จากนั้นก็จะเข้าไปตัดชักลากออกจากป่า ส่งผลให้ป่าสักทองผืนสุดท้ายยืนต้นตายหลายพันต้นนั้น ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 ม.ค. ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแพร่ นายสมชัย หทยะตันติ รอง ผวจ.แพร่ พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว ผบก.ภ.จ.แพร่ นายบรรพต กันธเสน รอง ผอ.สำนักบริหารที่ 13 จ.แพร่ นำตัวแก๊งมอดไม้ที่ตำรวจจับกุมได้พร้อมของกลางมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
 

ผู้ต้องหา 4 คน ประกอบด้วย 1. นายธีรวัช บุญยืน อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 92/3 หมู่ 8 ต.บ้านกลาง อ.สอง พร้อมของกลาง ปืนแก๊ปยาว 1 กระบอก ไม้สักที่ยังไม่ได้ แปรรูป 2 ท่อน สารกำจัดวัชพืชยี่ห้อพาราควอต 2 แกลลอน สารกำจัดวัชพืชยี่ห้ออาทราซิน 80 จำนวน 2 ถุง สารกำจัดวัชพืชยี่ห้อซิงโมซา 2 ขวด เลื่อยมือ 1 ปื้น มีดพร้า ขวาน และอุปกรณ์อื่นๆ จำนวนมาก  2. นายนรุ่ง กาศมณี อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62/1 หมู่ 6 ต.บ้านหนุน อ.สอง จ.แพร่ ของกลางมีโพยหวย 2 ตัว 3 ตัว รวม 12 แผ่น เงินสด 17,264 บาท และสารกำจัดวัชพืชยี่ห้อพาราควอต 1 แกลลอน พร้อมอุปกรณ์เดินป่าครบชุด 3.นายกันยา แสนคำลือ อายุ 39 ปี บ้านเลขที่ 82/1 หมู่ 2 ต.บ้านหนุน อ.สอง จ.แพร่ พร้อมของกลาง ปืนแก๊ปยาว 1 กระบอก กระสุน 1 ชุด อุปกรณ์เดินป่าครบชุด และ 4. นายผจญ คำเขิน อายุ 38 ปี บ้านเลขที่ 121/1 หมู่ 8 ต.เตาปูน อ.สอง จ.แพร่ ของกลางอุปกรณ์การตัดไม้ 1 ชุด
 


ผบก.ภ.จ.แพร่เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุแล้ว ได้จัดชุดสืบสวนสอบสวนตามล่าขบวนการจนทราบว่า บุคคลที่จับกุมมาครั้งนี้เป็นบุคคลที่ต้องสงสัยมากที่สุด

จึงขอหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 15 ม.ค. ที่ผ่านมา จากนั้นนำตัวทั้ง 4 คน มาสอบสวน ซึ่งนายธีรวัช บุญยืน 1 ในผู้ต้องหาให้การสารภาพว่า ร่วมกับนายนรุ่ง กาศมณี นายผจญ คำเขิน นายกันยา แสนคำลือ เข้าไปทำไม้จริง โดยใช้ขวานไปกานต้นสัก จากนั้นใช้ยาฆ่าหญ้ายี่ห้อไกลโฟเซทไปหยอดใส่ต้นสักทอง ทำให้ ต้นไม้แห้งเหี่ยวเฉาตาย และช่วงนำยาฆ่าหญ้าไปหยอดใส่ต้นสักนั้น ยังร่วมกันตัดปลายไม้สัก ชักลากลงแม่น้ำยม แล้วผูกเป็นแพ แพละ 4 ท่อน จากนั้นก็ลากไปขึ้นที่บ้านหนองสุวรรณ ต.บ้านกลาง และใช้รถยนต์ชักลากเข้าโรงงาน
 

ด้านนายสมชัย หทยะตันติ รอง ผวจ.แพร่ กล่าวว่า

หลังเกิดเหตุได้ร่วมกันวางแผนกับหลายหน่วยงานเพื่อ ติดตามขบวนการนี้ เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การว่านำไม้ไปใช้สร้างบ้านเรือน แต่ทางการสืบสวนสอบสวนก็ยังคงสืบสวนต่อไป เพราะไม่เชื่อว่าจะเป็นการทำกันเพื่อเอาไม้สักไปสร้างบ้าน ซึ่งหากการสอบสวนสาวไปถึงใคร เจ้าหน้าที่คนไหน ขอยืนยันว่าจะไม่ปล่อยไว้ จะเห็นได้ว่าขณะนี้ได้ย้ายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องออกนอกพื้นที่ไปบ้างแล้ว เพื่อรอการสืบสวนสอบสวนเอาผิดอีกครั้ง ขอให้เชื่อว่าจะดำเนินการขั้นเด็ดขาด เพราะว่าการกระทำแบบนี้ประชาชนรู้ สื่อมวลชนก็เกาะติด การที่ผู้ต้องหาอ้างว่าทำไปเพื่อเอาไม้ไปสร้างบ้านเองจึงไม่น่าจะเป็นไปได้ ต้องมีขบวนการนายทุนเข้ามาจ้างวาน เพราะจากการติดตามสอบสวนพบว่าผู้ต้องหาก็มีบ้านเรือนอยู่ดีแล้ว จึงไม่ใช่เอาไม้ไปสร้างบ้าน ซึ่งขอให้ประชาชนวางใจว่าเราจะทำให้ถึงที่สุด
 

ขณะที่ 1 ในกลุ่มผู้ต้องหาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า

เคยใช้ยาฆ่าหญ้าดังกล่าวไปทดลองกับต้นไม้ยืนต้น และต้นไม้สักในสวนที่บ้านก็พบว่าได้ผลดี แต่ต้องใส่ในช่วงหน้าฝน น้ำยาจะซึมได้ดี และเวลาของการตาย หากเป็นไม้ใหญ่จะใช้เวลา 1 ปี พอดีกับช่วงหน้าฝนอีกครั้ง หากเป็นไม้สักเล็กๆ แค่ไม่กี่เดือนก็จะแห้งตาย จากนั้นก็ลงมือตัดได้ ส่วนไม้ในเขตอุทยานแห่งชาตินี้ต้นใหญ่ ต้องใช้เวลา 1 ปี คาดว่าพอถึงหน้าฝนก็จะลงมือตัด เป็นเวลาเดียวกับที่ฝนตก ระดับน้ำในแม่น้ำยมเพิ่มสูงขึ้น จึงง่ายต่อการชักลากไปขาย


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์