รวบแก๊งมาเลย์ดูดข้อมูลเอทีเอ็มโอนเงินไปกว่า 3ล้าน ใช้เครื่องแจมมิ่ง ตระเวณทั่วสุราษฎร์ฯ-หลังสวน


ตร.หลังสวนโชว์ฝีมือ ตามรวบแก๊งมาเลย์ได้แล้ว 1 คน ลอบดูดข้อมูลบัตรเอทีเอ็มชาวบ้าน ก่อนโอนเงินออกจากบัญชีกว่า 3 ล้าน ใช้วิธีแกะรอยจากกล้องวงจรปิด จับกุมได้ที่หาดใหญ่ขณะเตรียมกลับประเทศ เผยใช้เครื่อง"แจมมิ่ง"ตระเวนสุราษฎร์ฯ-หลังสวน โจรกรรมข้อมูลจากตู้กดเงินอัตโนมัติ


เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมแก๊งคนร้ายที่ใช้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ลักลอบบันทึกข้อมูลบัตรเอทีเอ็มของประชาชนที่เข้าไปกดเงิน แล้วโอนเงินออกจากบัญชีของประชาชนกว่า 20 คน เป็นเงินประมาณ 3 ล้านบาท ได้แล้ว 1 คน โดย พ.ต.อ.สุพจน์ บุญชูดวง ผกก.สภ.หลังสวน จ.ชุมพร ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 8 มีนาคม ถึงความคืบหน้าคดีคนร้ายลักลอบโอนเงินออกจากบัญชีของลูกค้าธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด และธนาคารทหารไทย จำกัด สาขาหลังสวน หน้าตลาดอวยชัย 3 หมู่ 4 ต.วังตะกอ อ.หลังสวน ทำให้เหยื่อต้องสูญเงินจากบัญชีธนาคารไปกว่า 20 คน รวมเป็นเงินประมาณ 3 ล้านบาท ว่า ได้ตรวจสอบตู้เอทีเอ็มของทั้ง 3 ธนาคาร ที่วางเรียงกันริมทางเท้าติดถนนสายเอเซีย 41 พบว่าทั้ง 3 ตู้อยู่ในสภาพปกติ

พ.ต.อ.สุพจน์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งติดตามคนร้ายแก๊งนี้ จนได้เบาะแสว่าคนร้ายมีด้วยกันประมาณ 3-4 คน ใช้รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีบรอนซ์เงิน ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน เป็นพาหนะ ส่วนคนที่ลงมือปฏิบัติการเป็นชายรูปร่างท้วม อายุประมาณ 30 ปี สวมเสื้อแจ๊คเก็ตและหมวกแก๊ปอำพรางใบหน้า คาดว่าคนร้ายคงฉวยโอกาสขณะที่ผู้เสียหายเข้าไปใช้บริการที่ตู้เอทีเอ็ม แล้วใช้เครื่องสแกนรหัสลูกค้าแต่ละคน จากนั้นจึงนำรหัสไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม สาขาถนนชนเกษม จ.สุราษฎร์ธานี

รายงานข่าวแจ้งว่า สภ.หลังสวน ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนตั้งแต่กลางดึกของคืนวันที่ 7 มีนาคม โดยนำภาพวงจรปิดในจุดที่เกิดเหตุมาตรวจสอบ พร้อมประสานไปยังตำรวจจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อตรวจสอบรูปพรรณของคนร้าย ก่อนนำไปเปรียบเทียบในแฟ้มประวัติอาชญากรพบว่ารูปพรรณของคนร้ายมีลักษณะเป็นชาวจีน แต่ลักษณะไม่ตรงในแฟ้มอาชญากรชาวไทย แต่เมื่อตรวจสอบแฟ้มประวัติอาชญากรชาวต่างชาติก็พบว่ามีลักษณะคล้ายหนึ่งในแก๊งคนร้ายจากประเทศเพื่อนบ้านที่เคยเข้ามาก่อคดีในภาคใต้

"จากการตรวจสอบทะเบียนรถของคนร้ายจากกล้องวงจรปิดที่ตู้เอทีเอ็มทราบว่า เป็นรถเช่าจาก อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พ.ต.อ.สุพจน์จึงประสานไปยังเต๊นท์รถเช่าดังกล่าว และทราบว่าคนร้ายได้เช่ารถไปเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีกำหนดส่งคืนในวันที่ 8 มีนาคม พ.ต.อ.สุพจน์จึงนำกำลังเดินทางไปยัง อ.หาดใหญ่ และสามารถจับกุมนายเตียว ปุ่ยเฮ็ง อายุ 43 ปี ชาวมาเลเซีย ได้ที่ อ.หาดใหญ่" แหล่งข่าวกล่าว

แหล่งข่าวกล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่านายเตียวได้นำเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ชนิดหนึ่งเรียกว่า "แจมมิ่ง" จากมาเลเซีย แล้วเช่ารถที่ อ.หาดใหญ่ เดินทางไปยัง จ.สุราษฎร์ธานี และ อ.หลังสวน จากนั้นได้โจรกรรมข้อมูลของลูกค้าที่มากดเงินที่ตู้เอทีเอ็มทั้ง 3 ตู้ แล้วตรวจสอบว่ารายใดมีเงินในบัญชีมาก ก็จะทยอยโอนเงินจากบัญชีของผู้นั้นเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่งที่ จ.สงขลา ตั้งแต่วันที่ 6-8 มีนาคม และกำลังจะนำรถเช่าไปคืนเพื่อเดินทางกลับประเทศมาเลเซีย แต่ถูกจับกุมเสียก่อน และยังมีผู้ร่วมแก๊งเดียวกันอีก 2 คน

ด้านนายการันต์ ศุภกิจวิเลขการ ผวจ.ชุมพร ได้สั่งให้ พล.ต.ต.อภิชาติ เชื้อเทศ  ผบก.ภ.จว.ชุมพร เร่งติดตามจับกุมคนร้ายแก๊งนี้ให้ได้ทั้งหมด เพราะถือเป็นปัญหาเกี่ยวข้องกับความมั่นคงและความน่าเชื่อถือของสถาบันการเงินของประเทศ อีกทั้งผู้เสียหายส่วนใหญ่มีอาชีพค้าขาย หาเช้ากินค่ำ ซึ่งน่าเห็นใจมาก

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์