รวบแก๊งค้าเอ๊าะๆ ฆ่าเสี่ยหลี แค้นโดนตัดค่าตัว

"ไม้กอลฟ์ตีศรีษะตายสยอง"





คดีฆาตกรรมอำมหิต กรณีนายชาลี อุไรรุจน์ หรือ เสี่ยหลี อายุ 67 ปี เจ้าของอู่ซ่อมรถชื่อ ชาลีเซอร์วิส อู่ซ่อมรถรายใหญ่ของเมืองนครปฐม ถูกคนร้ายลวงไปฆ่าอุกอาจระหว่างออกจากบ้านไปนั่งดื่มกินที่ร้าน เจ.อาร์.คาราโอเกะ ตั้งอยู่กลางเมืองนครปฐม โดยคนร้าย ใช้ไม้กอล์ฟทุบใบหน้าและศีรษะตายสยอง นำศพทิ้งในคลองระบายน้ำไม้เฝ้า ต.เขาขลุง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี แล้วชิงเอาทรัพย์สิน


ประกอบด้วย สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท พร้อมพระเครื่อง 5 องค์ ซึ่งมีพระสมเด็จวัดระฆังรวมอยู่ ด้วย นาฬิกายี่ห้อโรเล็กซ์เรือนทองฝังเพชร และรถเบนซ์ ซี 220 สีเขียว ทะเบียน 9ฬ-0878 กรุงเทพมหานคร หลบหนี เบื้องต้นตำรวจมุ่งประเด็นสังหารเป็นการฆ่าชิงทรัพย์ โดยคนร้ายอาจจะให้หญิงสาวที่ผู้ตายติดพันเป็นนางนกต่อ โทรศัพท์ลวงผู้ตายออกไปพบแล้วลงมือสังหารก่อนจะชิงเอาทรัพย์สินทั้งหมดหลบหนี ล่าสุดตำรวจสามารถติดตามลากคอฆาตกรรายนี้ได้แล้ว


เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (23 มิ.ย.) พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผบช.ภ.7 ได้เรียกประชุมชุดสอบสวนในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานตำรวจภูธร ภาค 7 อาทิ พล.ต.ต.เกษม สังขพันธ์ ผบก.ภ.จ.นครปฐม พ.ต.อ.เรวัช กลิ่นเกษร รอง ผบก. ศสส.ภาค 7 พ.ต.อ.กฤษณะ ทรัพย์เดช ผกก.ปพ.ศสส.ภาค 7 พ.ต.ท.ปรีชา ทิมหอม สว.สส.ภ.จ.นครปฐม พ.ต.ท.ทูน เดชคุณมาก รอง ผกก.ศสส.ภาค 7 เพื่อร่วมคลี่คลายคดีคนร้ายลวงฆ่านายชาลี อุไรรุจน์ หรือ เสี่ยหลี เจ้าของอู่ซ่อมรถ โดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง ก่อนที่ทั้งหมดจะแยกย้ายกันออกหาเบาะแสของคนร้าย จนกระทั่งเวลา 12.00 น. วันเดียวกัน พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงศ์ ผบก.ภ.จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้รับรายงานจากสายสืบว่า พบวัยรุ่นชายหญิง 2 คน นำรถเบนซ์ รุ่นซี 220 สีเขียว ทะเบียน 9ฬ-0878 กรุงเทพมหานคร



"ล่อซื้อ 3หมื่น"




ซึ่งเป็นรถของนายชาลีที่ถูกคนร้ายชิงเอาไปมาตระเวนขายให้แก่เจ้าของอู่รถในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน ทำให้ตำรวจมั่นใจว่าวัยรุ่นดังกล่าวเป็นคนร้ายที่ก่อคดี จึงได้รายงานให้ พล.ต.ท.ฉลองทราบ พร้อมสั่งการให้ พ.ต.ต.ประสิทธิ์ เพชรศรี สว.สส.สภ.อ.หัวหิน นำกำลังไปตรวจสอบ พร้อมกับวางแผนล่อซื้อรถคันดังกล่าวในวงเงิน 3 หมื่นบาท โดยนัดส่งมอบกันที่บริเวณริมถนน เพชรเกษม หน้าร้านหัวหินทันสมัย เขตเทศบาลเมืองหัวหิน


กระทั่งเวลา 13.00 น. วัยรุ่นทั้ง 2 คน ได้นำรถเบนซ์มาส่งมอบให้กับสาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จู่โจมจับกุมเอาไว้ได้ ทราบคนขับชื่อ น.ส.หวาน (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นักเรียนโรงเรียนมีชื่อแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม อีกคนชื่อนายไกรสร หรือแอ๊บ ทุมาภา อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/2 หมู่ 1 ต.หนองกก อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี อาชีพขายไก่ย่างตามงานวัด และเป็นแฟนของ น.ส.หวาน ควบคุมตัวคนทั้งคู่ไปสอบสวนที่ สภ.อ.หัวหิน ในเบื้องต้น น.ส.หวานให้การสารภาพว่า ได้ร่วมกันสังหารนายชาลี จริง โดยก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงค่ำวันที่ 20 มิ.ย. ได้โทรศัพท์ ไปหานายชาลี ซึ่งขณะนั้นผู้ตายนั่งดื่มกินที่ร้านเจ.อาร์. คาราโอเกะ


แจ้งให้ทราบว่ามีเพื่อนสาวคนหนึ่งชื่อ ด.ญ. จอย (นามสมมติ) อายุ 14 ปี เป็นสาวบริสุทธิ์ ต้องการขายบริการทางเพศ นายชาลีจึงตอบตกลงทันที โดยนัดพบกันที่ริมถนนสายหนองดินแดง-สระกระเทียม หมู่ 7 ต.หนองดินแดง อ.เมืองนครปฐม แต่ปรากฏว่าหลังจากนายชาลี ดูตัว ด.ญ.จอยแล้วกลับปฏิเสธ อ้างว่าหน้าตาไม่ตรงสเปก



"เห็นไม่ตาย ตีด้วยไม่กอลฟ์จนตาย"




หลังจากถูกบอกปัด ทําให้เกิดความไม่พอใจ ประกอบกับก่อนหน้านี้เคยติดต่อหาหญิงสาวให้ไปร่วมหลับนอนกับนายชาลีหลายคน คิดค่าตัวคนละ 4,000 บาท แต่หลังร่วมหลับนอนกันแล้ว นายชาลีกลับเบี้ยวค่าตัวเด็ก จ่ายให้เพียงรายละ 1,500 บาท อ้างว่าไม่สด ไม่ซิง จึงส่งสัญญาณให้นายไกรสร ซึ่งคบหาเป็นแฟนออกมาจากที่ซ่อนใช้ไม้หน้าสามตีนายชาลีจนล้มฟุบกับพื้นแน่นิ่ง ตอนแรกคิดว่าเสียชีวิตแล้ว ได้ช่วยกันยกร่างยัดใส่กระโปรงท้ายรถของนายชาลี จากนั้นพร้อมนายไกรสรขับรถพาร่างนายชาลีไปทิ้งที่คลองชลประทานในเขต อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ส่วน ด.ญ.จอยแยกตัวไปรอที่บ้าน ระหว่างนำร่างออกจากรถ


พบว่านายชาลียังไม่ตาย จึงใช้ไม้กอล์ฟของผู้ตายที่เก็บไว้ในรถออกมาทุบตีหลายครั้ง จนแน่ใจว่าเสียชีวิตแล้วปลดทรัพย์สินในตัวแล้วนำศพโยนลงคลองชลประทาน จากนั้นขับรถย้อนกลับไปรับ ด.ญ.จอย พาหลบหนีไปเช่าห้องพักที่โรงแรมอนันตชัยเกสต์เฮาส์ริมถนนเลียบชายหาดชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี โดยมี น.ส.สุภาวรรณ หรือกิ๊ก เพชรมาลี อายุ 18 ปี บ้านเลขที่ 142 หมู่ 10 ต.หนองอ้อ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เพื่อน ด.ญ.จอยร่วมเดินทางไปด้วย โดยไม่ทราบว่าพวกตนเพิ่งก่อเหตุฆ่าคนตายมาหยกๆ กระทั่งถึงเช้าของวันใหม่ ได้มอบเงิน 300 บาท ให้แก่ ด.ญ.จอย และ น.ส.สุภาวรรณ เป็นค่ารถเดินทางกลับบ้านก่อน ตกลงกันว่าจะนำเงินจากการขายรถเบนซ์ไปแบ่งให้ภายหลัง แต่ระหว่างนำรถตระเวนขายกลับถูกตำรวจจับกุมเอาไว้ได้



"ยึดไม้หน้าสาม ก่อเหตุ"




หลังสอบปากคำตำรวจได้ควบคุมตัวคนทั้งสองไปตรวจค้นห้องพักหมายเลข 404 ชั้น 4 โรงแรมอนันตชัยเกสต์เฮาส์ ที่นายไกรสรและ น.ส.หวานมาเช่าพัก พบทรัพย์สินของนายชาลี ประกอบด้วย ปืน .357 พร้อมกระสุน 4 นัด นาฬิกาโรเล็กซ์เรือนทองฝังเพชร 1 เรือน และทะเบียนอาวุธปืนขนาด 11 มม. จึงยึดของกลางทั้งหมด ไว้ประกอบสำนวนคดี ส่วนสร้อยคอทองคำและพระเครื่องซึ่งมีพระสมเด็จวัดระฆังฯรวมอยู่ด้วยนั้น ทั้งสองอ้างว่าไม่ได้เอาไป


ต่อมาวันเดียวกัน พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงศ์ ผบก.ภ.จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้ประสานตำรวจชุดสืบสวนภาค 7 นำกำลังเข้าจับกุม ด.ญ.จอยและ น.ส.สุภาวรรณ ได้ที่บ้านใน จ.นครปฐม พร้อมรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ขขร 718 นครปฐม จากนั้นนำตัวไปสอบสวน ก่อนจะพาไปชี้จุดเกิดเหตุ ยึดไม้หน้าสามที่ใช้ก่อเหตุ ควบคุมตัวทั้งหมดดำเนินคดี






แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์