รวบมือฆ่ารัดคอสาว ม.รามฯ ในร้านขายของชำ

"รวบมือฆ่ารัดคอสาว ม.รามฯ"


จับแล้วหนุ่มเขมรมือฆ่ารัดคอสาว ม.รามฯ ในร้านชำย่านอุดมสุข หลังหนีไปทำงานก่อสร้าง ตร.บุกจับต่างด้าวบังเอิญเจอตัว สารภาพหวังข่มขืนแต่สาวฮึดสู้เลยฆ่าทิ้ง หิ้วตัวพาทำแผนหวิดโดนญาติเหยื่อรุมประชาทัณฑ์

จากเหตุการณ์ น.ส.วัชรี ยอดสิงห์ อายุ 23 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาวิชาบริหารธุรกิจ เอกประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ถูกคนร้ายใช้เชือกไนลอนรัดคอเสียชีวิต ภายในร้านขายของชำ เลขที่ 5/367 หมู่ 8 ซ.ทุ่งเศรษฐี แยก 44 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ ซึ่งเป็นร้านของน้าสาวของผู้ตาย โดยคนร้ายขโมยโทรศัพท์มือถือหลบหนีไป เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ที่ผ่านมานั้น

ล่าสุด เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 28 ธันวาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.อุดมสุข และ กก.สส.น.4 สามารถจับกุม นายเบิ้ม หรือรองเปิ้ล ซิน อายุ 23 ปี ชาวกัมพูชา ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ ที่บ้านพักคนงานก่อสร้างแห่งหนึ่ง ริมถนนพระราม 9 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกีย รุ่น 6820 สีเทาฟ้า พร้อมซิมการ์ด และบัตรเติมเงินโทรศัพท์มือถือระบบต่างๆ 6 ใบ เสื้อยืดคอกลมสีเหลือง 1 ตัว กางเกงยีนสีน้ำเงินปนเทาที่ผู้ต้องหาใส่ในวันเกิดเหตุ

"ทำแผนฯหวิดโดนรุมประชาทัณฑ์"


ต่อมา พล.ต.ต.วิทยา โกสิยะสถิต ผบก.น.4 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปกรณ์ กิตติวัฒน์ ผกก.สส.น.4 และ พ.ต.อ.วิวัฒน์ ศิริสุนทร ผกก.สน.อุดมสุข นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนควบคุมตัวผู้ต้องหาไปที่ร้านของของชำที่เกิดเหตุ เพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยมีญาติของผู้ตายและชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงเกือบ 200 คน มารอดูการทำแผน และตะโกนด่าทอผู้ต้องหาด้วยถ้อยคำหยาบคาย เจ้าหน้าที่เกรงว่าญาติของผู้ตายและชาวบ้านอาจจะรุมประชาทัณฑ์ จึงประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจประมาณ 30 นาย มาป้องกันเหตุ แต่ขณะเจ้าหน้าที่นำผู้ต้องหาลงจากรถได้มีญาติของผู้ตายพยายามฝ่าวงล้อมเจ้าหน้าที่เข้ามารุมประชาทัณฑ์ แต่เจ้าหน้าที่สามารถกันตัวไว้ได้ ก่อนจะรีบนำผู้ต้องหาเข้าไปทำแผนภายในร้าน และรีบนำตัวกลับไปสอบสวนที่ สน.อุดมสุข อีกครั้ง

ด้าน พล.ต.ต.วิทยา กล่าวว่า เมื่อเวลา 14.15 น.วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน บก.น.4 เข้าจับกุมแรงงานต่างด้าวในบ้านพักคนงานก่อสร้างดังกล่าว กระทั่งพบนายเบิ้ม กับเพื่อนอีก 2 คน ซึ่งเป็นบุคคลต่างด้าว จึงควบคุมตัวไปดำเนินคดีในข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต

"ตั้งใจข่มขืน แต่ผู้ตายขัดขืนเลยฆ่าทิ้ง"


ผบก.น.4 กล่าวต่อว่า หลังจากจับกุมปรากฏว่านายเบิ้ม มีตำหนิรูปพรรณตรงกับผู้ต้องสงสัยในคดีฆ่ารัดคอ น.ส.วัชรี และยังสวมใส่เสื้อผ้าตรงกับวันเกิดเหตุ จึงนำตัวไปตรวจค้นที่ห้องพัก พบโทรศัพท์มือถือของ น.ส.วัชรี จึงตรวจยึดเป็นของกลาง ก่อนจะตรวจสอบโทรศัพท์ดังกล่าว พร้อมกับสอบสวนขยายผลจนนายเบิ้มให้การรับสารภาพ จึงแจ้งข้อหาเพิ่มอีก 1 ข้อหา คือ ร่วมกันปล้นทรัพย์ผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย หรือรับของโจร

ทั้งนี้ นายเบิ้ม ให้การว่า ก่อนหน้านี้เคยมาทำงานก่อสร้างในละแวกบ้านของผู้ตาย และเคยซื้อของใช้ที่ร้านเป็นประจำ จนรู้จักและแอบชอบผู้ตาย กระทั่งย้ายไปทำงานที่อื่น แต่ช่วงวันลอยกระทงได้กลับมาตั้งวงดื่มสุรากับเพื่อนที่พักอยู่ในละแวกบ้านของผู้ตาย จนวันเกิดเหตุได้ชวนเพื่อนอีก 2 คน เดินไปที่ร้าน โดยให้เพื่อนทำทีเลือกซื้อของใช้ ส่วนตนเข้าไปพยายามจะข่มขืน แต่ผู้ตายขัดขืนต่อสู้จึงชกผู้ตายจนล้มศีรษะกระแทกพื้น

"ผมกลัวว่าจะจำหน้าได้ เลยใช้เชือกที่วางขายในร้านมารัดคอจนตาย แล้วเอาโทรศัพท์มือถือและบัตรเติมเงินติดมือไปด้วย ก่อนจะเดินไปขึ้นรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างออกจากซอย และขึ้นรถแท็กซี่หนีไป แต่ก็มาถูกตำรวจจับได้" นายเบิ้ม กล่าว

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์