รวบ4โจ๋พิษณุโลกปาหินใส่รถเสียหายร่วม10คัน

รวบ4โจ๋พิษณุโลกปาหินใส่รถเสียหายร่วม10คัน

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต


9 ธค. 2552 10:22 น.


เมื่อเวลา 00.00 น.วันที่ 9 ธันวาคม ศูนย์วิทยุ 191 พิษณุโลก รับแจ้งเหตุจากผู้ใช้รถบนถนนสายพิษณุโลก-นครสวรรค์ บริเวณหลัก กม.27 ต.บ่อทอง อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ว่ามีแก๊งค์ปาหินได้ปาก้อนหินใส่รถยนต์ขาขึ้นที่กำลังเข้าสู่ตัวเมืองพิษณุโลก มีรถยนต์เสียหายร่วม 10 คัน โดยต่างจอดเรียงรายริมถนน หลายคันกระจกรถแตกกระจายเสียหาย หลายคันกระจกร้าว ต่อมา ร.ต.ท.วสันต์ ไทรโพธิ์ทอง รองสวป.สภ.บางระกำ นำรถยนต์สายตรวจ สภ.บางระกำตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าจุดดังกล่าวเป็นถนนสี่เลน ขาขึ้นเหนือ ถนนค่อนข้างเปลี่ยว ไม่มีไฟลายทาง ได้แนะนำให้ผู้เสียหายนำรถยนต์ที่เสียหายไปแจ้งความที่ สภ.บางระกำ ขณะที่ด.ต.ไตรนิภพ นกเทศ และจ.ส.ต.วิรัตน์ เซพงษ์ ตำรวจประจำจุดตรวจบ่อทอง อ.บางระกำ พร้อมอส. ตร.บ่อทองอีก 2 นาย กระจายกำลังค้นหาผู้กระทำความผิดตามเส้นทางถนนสายพิษณุโลก - หล่มสัก และถนนภายในหมู่บ้าน พบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัย 2 คัน มีวัยรุ่นขี่และซ้อนรวมกัน 4 คัน ที่ตระกร้าหน้ารถจักรยานยนต์ มีก้อนหินคลุกวางอยู่ และที่มือของวัยรุ่นทั้งสี่ มีร่องรอยการเปื้อนฝุ่น จึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.บางระกำ กระทั่งวัยรุ่นชายทั้ง 4 คน รับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุใช้หินคลุกปาใส่รถยนต์ที่สัญจรไปมาจริง

สำหรับผู้ก่อเหตุปาหินทั้ง 4 คน ล้วนเป็นเยาวชนในพื้นที่ ต.บ่อทอง อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก เรียนอยู่ที่โรงเรียนบ้านหนองนากวางอั้น ประกอบด้วย ด.ช.แซ็ก(นามสมมติ) อายุ 14 ปี อยู่ชั้น ม.3 ด.ช.โจ้ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี อยู่ชั้น ม.1 นายอาร์ม (นามสมมติ) อายุ 15 ปี อยู่ชั้น ม.3 และด.ช.เหน่ง (นามสมมติ) อายุ 12 ปี อยู่ชั้น ม.1 และต่างรับว่าเป็นผู้ลงมือก่อนเหตุจริง โดยก่อนก่อเหตุ ได้ไปเที่ยวชมงานลิเกภายในหมู่บ้าน ในต.บ่อทอง อ.บางระกำ หลังจากลิเกเลิก กำลังกลับบ้าน ขณะนั้นเกิดความคึกคะนอง ได้ชวนกันมาที่ถนนพิษณุโลก-นครสวรรค์ โดยขี่รถจักรยานยนต์มา 2 คัน และจอดรถหลบอยู่ข้างทาง ได้เก็บหินคลุกที่ใช้ก่อสร้างถนนบริเวณนั้น ดักปาใส่รถที่วิ่งขึ้นมาหลายคัน ด.ช.เหน่ง (นามสมมติ) กล่าวว่า ตอนปาหินใส่รถไม่ได้คิดอะไร ปาแล้วมันติดใจ และทำครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง

         ทั้งนี้ รถยนต์ที่เสียหายจากแก๊งค์ปาหิน อ.บางระกำครั้งนี้ มีร่วม 10 คัน แต่มีผู้ที่นำรถยนต์มาแจ้งความที่ สภ.บางระกำจำนวน 4 คัน เพราะหลายคันได้รับความเสียหายสีถลอกเล็กน้อย หลายคันไม่อยากเสียเวลาที่ต้องมาแจ้งความและบางคันเมื่อรู้ว่าแก๊งค์ปาหินเป็นเยาวชน แม้มาถึง สภ.บางระกำแล้ว ก็เดินทางกลับทันที บอกเพียงว่าไม่อยากเอาความ จึงเหลือผู้ที่แจ้งความที่ สภ.บางระกำ 3 คัน ได้แก่ นายวิรัตน์ ต้มกัน อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29/4 ม.5 ต.ไกรนอก อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย ขับรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน น 9010 สุโขทัย ถูกปาเป็นคันสุดท้าย แต่กระจกหน้าแตกละเอียดทั้งหมด นายตรีชาย อนุวงศ์เจริญ อายุ 28 ปี ขับรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน ผค 6757 เชียงใหม่ กระจกหน้าแตกเป็นรอยร้าว สีด้านข้างถลอกได้รับความเสียหายหลายจุด และนายสานติย์ สร้อยทอง อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 191/2 ม.9 ต.บึงพระ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ขับรถเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ ทะเบียน ศย 6001 กทม. กระจกหน้าแตกเป็นรอยร้าว สีด้านข้างได้รับความเสียหลายหลายจุด ผู้เสียหายหลายรายระบุว่า เหมือนโดนปาหินเข้ามาหลายก้อนในเวลาเดียวกัน

จ.ส.ต.วิรัตน์ เซพงษ์ ตำรวจประจำจุดตรวจบ่อทอง อ.บางระกำ กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งทางวิทยุได้เดินทางมาที่เกิดเหตุทันที และพบว่าริมถนนพิษณุโลก-นครสวรรค์ ช่วงหลักกม .27 ม .6 ต.บ่อทอง มีกองหินคลุกวางอยู่ แต่ไม่พบผู้กระทำผิด จึงกระจายกำลังไปตามถนนซอยภายในหมู่บ้านและพบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยสองคัน มีวัยรุ่นชาย 4 คน จึงขอตรวจค้น ลักษณะส่อพิรุธที่ตระกร้าหน้าก็มีหินคลุกวางอยู่ 2 ก้อน ตนจับที่มือทุกคนก็มีร่องรอยการเปื้อนฝุ่น เมื่อซักรายละเอียด วัยรุ่นทั้ง 4 รับว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง ทั้งนี้ พ.ต.ต.อภิชาติ พรหมสง สารวัตรเวร สภ.บางระกำ ได้รับแจ้งความจากผู้เสียหายทั้ง 3 รายไว้แล้ว ส่วนเยาวชนผู้ก่อเหตุนั้น ได้ควบคุมตัวไว้ที่ สภ.บางระกำ และกำลังเรียกตัวผู้ปกครองมาร่วมสอบปากคำด้วย

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์