รวบ2หลานคมแฝกกระหน่ำฟาดอาแท้ๆหน้าเละ กลัวไม่ตายกลับมาฟันซ้ำดับสยอง แค้นถูกด่า

รวบ2หลานคมแฝกกระหน่ำฟาดอาแท้ๆหน้าเละ กลัวไม่ตายกลับมาฟันซ้ำดับสยอง แค้นถูกด่า


รวบ2หลานคมแฝกกระหน่ำฟาดอาแท้ๆหน้าเละ กลัวไม่ตายกลับมาฟันซ้ำดับสยอง แค้นถูกด่า

 เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 3 เม.ย. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า ที่หน้า สภ.เมืองกาญจนบุรี พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จ.กาญจนบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.วันชัย อ่อนละออ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.บัญชา ศรีรุจิเมธากร รอง ผกก.ป.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.สุชาย เทศัชบุตร สวป.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.เจษฎา ปิ่นชูทอง สว.สส.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ต.พิเชษฐ์พงศ์ แจ้งค้ายคม สวป.สภ.เมืองกาญจนบุรี ร่วมกันแถลงข่าวจับผู้ต้องหาคดีฆ่าคนตาย ได้ผู้ต้องหา 2 ราย ประกอบด้วย นายณัฐพล หรือ ตั้ว จิณแพทย์ อายุ 22 ปี อยู่หมู่ 4 ต.ท่ามะขาม อ.เมืองกาญจนบุรี และ นายธวัชชัย หรือ ต๋อง โทแก้ว อายุ 21 ปี อยู่หมู่ 4 ต.ท่ามะขาม อ.เมืองกาญจนบุรี หลังร่วมกันก่อเหตุฆ่า นายอนันต์ จิณแพทย์ อายุ 49 ปี อาแท้ๆ ของ นายณัฐพล เหตุเกิดเมื่อวันที่ 2 เม.ย. พบศพที่บริเวณกลางไร่พื้นที่ หมู่ 4 ต.ท่ามะขาม พร้อมของกลางอาวุธที่ใช้ก่อเหตุเป็นไม้คมแฝก 1 อัน และมีดทำครัว 1 เล่ม

 พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จ.กาญจนบุรี แถลงว่า หลังตำรวจรับแจ้งและ พบศพนายอนันต์ ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดย พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี และ ภ.จ.กาญจนบุรี ลงพื้นที่สืบสวนในทางลับ จนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายณัฐพล ซึ่งเป็นหลานชายแท้ๆ ของผู้ตาย หลังทราบเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังกันออกเพื่อติดตามจับกุม จนกระทั่งเวลาประมาณ 16.00 น. ก็พบตัวนายณัฐพล กำลังขี่รถจักรยานยนต์แบบพ่วงข้างเพื่อหลบหนี เมื่อพบเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวและจับกุมได้ในที่สุด โดยผู้ต้องรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุลงมือฆ่าอาแท้ของตนจริง โดยมีผู้ร่วมก่อเหตุอีก 1 คน คือ นายธวัชชัย เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน

โดย นายณัฐพล สารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 17.00 - 18.00 น. ตนและนายธวัชชัย ได้เดินทางไปไร่เพื่อติดเครื่องสูบน้ำรดดงตะไคร้ และนำของที่ผู้ตายฝากซื้อไปให้ เมื่อมาถึงผู้ตายก็ได้ด่าทอพวกตนอย่างหยาบคาย เนื่องจากไม่พอใจที่เครื่องสูบน้ำเสียงดัง นอกจากนั้นยังไม่พอยังขับไล่ให้พวกตนไปทำมาหากินที่อื่นอีกด้วย ด้วยความโกรธแค้น ตนทั้งสองจึงได้มาปรึกษากันที่บ้าน จึงมีความเห็นพร้อมกันว่าจะฆ่าอาให้ตาย ในที่สุดเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 1 เม.ย. ตนและนายธวัชชัย จึงเดินทางมาที่ไร่ที่ผู้ตายอาศัยอยู่ และพบว่ากำลังนั่งเล่นอยู่บนเปลญวน

นายธวัชชัย จึงใช้ไม้คมแฝกที่เตรียมมาด้วยตีเข้าที่บริเวณท้ายทอยและใบหน้าอย่างแรงรวมประมาณ 4-5 ครั้ง จนผู้ตายตกจากเปลและแน่นิ่งไป จากนั้นจึงกลับไปบ้าน เมื่อไปถึงบ้านตนเกรงว่าอาอาจจะไม่เสียชีวิต ตนจึงตัดสินใจย้อนกลับมาดูเพียงคนเดียวเพื่อให้แน่ใจว่า อาเสียชีวิตแล้ว เมื่อมาถึงสังเกตดูที่ท้องพบว่ายังกระเพื่อมเหมือนกับยังหายใจอยู่ จึงตัดสินใจใช้มีดทำครัวกระหน่ำฟันที่ใบหน้าและศีรษะผู้ตายอีก 3-4 ครั้ง จนแน่ใจว่าอาเสียชีวิตแล้ว จึงเดินทางกลับ จนกระทั่งเช้าของวันที่ 2 เม.ย.มีผู้มาพบศพและแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ และขณะที่ตนกำลังหลบหนีแต่ก็มาถูกจับกุมตัวในที่สุด

ซึ่งต่อมาตำรวจได้ตามจับกุมตัว นายธวัชชัย ได้ขณะไปเกณฑ์ทหารที่หอประชุมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อำเภอเมืองกาญจนบุรี บริเวณข้างศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี ทั้งสองให้การรับสารภาพจึงควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีต่อไป

การจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองรายมาดำเนินคดีได้อย่างรวดเร็วในครั้งนี้ สิ่งที่น่าสนใจคือการสืบจากรอยรองเท้าผ้าใบ ที่เหยียบย่ำอยู่บนพื้นดิน โดยร่วมกับ ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน โดยการขุดเอาดินที่มีรอยเท้าทั้งซ้ายและขวาเพื่อนำมาพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ และจากการตรวจสอบพบว่าเป็นรองเท้าเบอร์ 41 ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ไปตรวจค้นบ้านพักของนายธวัชชัย ซึ่งก็พบรองเท้าผ้าใบขนาดเดียวกัน อีกทั้งยังมีคราบเลือดติดอยู่ และจากการสอบสวนพยานบุคคลทราบว่านายธวัชชัย กำลังไปเกณฑ์ทหาร เจ้าหน้าที่จึงรีบไปจับกุมตัวได้ดังกล่าว


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์