รวบ เจ๊หงส์คาวัดในชุดชีพรามหมณ์

เกี่ยวกับความคืบหน้า เมื่อเวลา 14.40 น. วันที่ 5 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

ตำรวจชุดสืบสวนสืบทราบว่า นางสมจิตร หรือเจ๊หงส์ ผู้ต้องหาได้หลบหนีไปบวชชีพราหมณ์ ที่วัดใหม่สันติ หมู่ 5 ต.มะเกลือใหม่ อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา จึงนำกำลังไปจับกุม ในขณะที่นางสมจิตร ยังอยู่ในชุดนุ่งขาวห่มขาวปฏิบัติธรรมอยู่ภายในบริเวณ วัด ก่อนที่จะควบคุมตัว มาสอบสวนที่ สภ.อ. เมืองนครราชสีมา

จากการสอบสวนเบื้องต้น นางสมจิตร ยังให้การยืนยัน ปฏิเสธไม่รู้เห็นกับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้น โดยยอมรับว่าสนิทสนมกับนายธนากร ผู้ตายเป็นอย่างดี และขับรถไปไหนมาไหนด้วยกันอยู่บ่อย ๆ และยอมให้ยืมรถไปใช้เป็นประจำ แต่ไม่รู้เรื่องที่ผู้ตายไปมีเรื่องกับใครหรือจะวางแผนทำร้ายใคร ซึ่งตนจะขอประกันตัวและขอต่อสู้คดีในชั้นศาลต่อไป

นางสมจิตร กล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ว่า

 หลังจากตนเองถูกโยงเข้ามาพัวพันเหตุระเบิดดังกล่าว ก็รู้สึกไม่สบายใจ กังวลใจมาโดยตลอด เพราะกลายเป็นความซวยแท้ ๆ ที่ต้องมาตกเป็นผู้ต้องหา ทั้งที่ นายธนากร คนตายยืมรถตนไปใช้แล้วเกิดระเบิด แต่ตนยังต้องมาเจอปัญหาแบบนี้

จึงไปบวชชีพราหมณ์เพื่อล้างซวยตั้งแต่วันที่ 28 ส.ค. ที่ผ่านมา และปฏิบัติธรรมอยู่แต่ในวัด เพื่อให้สภาพจิตใจดีขึ้น ต่อมาทราบข่าวว่ามีหมายจับเมื่อวันที่ 4 ก.ย. และตั้งใจว่าจะเข้ามอบตัวสู้คดีในวันนี้ (5 ก.ย.)

แต่มาถูกตำรวจบุกจับกุมตัวเสียก่อน

“ เหตุระเบิดกลางเมือง ฉันไม่รู้เรื่องจริง ๆ โทรศัพท์มือถือที่ต่อสายไฟเหมือนวงจรระเบิดมาอยู่ในรถได้อย่างไรก็ไม่รู้ เพราะนายธนากร ยืมรถฉันไปใช้เป็นประจำ ก็ไม่รู้ว่าเขาเอารถไปทำอะไรมาบ้าง ที่บอกว่าไปซื้อมือถือที่ อ.ปักธงชัยด้วยกัน นายธนากรก็ลงไปซื้อเองคนเดียว ฉันรออยู่ในรถและไม่รู้เรื่องด้วย ส่วนผู้ตายจะพยายามปองร้ายคนอื่นเพื่อทดแทนบุญคุณ เรื่องจริงก็คงไม่ใช่ ส่วนเรื่องหนี้สิน 8 ล้านบาทก็ไม่เกี่ยวกัน ตำรวจก็รู้ว่าคนตายเป็นคนบ้าระห่ำ เคยรับจ้างเป็นมือปืนฆ่าคน ฉันก็ห้ามเอาไว้เพราะมันเป็นบาป เขาจะไปทำอะไรก็ไม่บอกฉันหรอก พูดกันตรง ๆ ถ้าฉันรู้เห็นด้วยฉันก็จะรับ ถึงจะเป็น ผู้หญิงแต่ก็มีนิสัยเป็นลูกผู้ชาย ใจใหญ่ ถ้าทำก็รับ ” นางสมจิตร กล่าวปฏิเสธเสียงแข็ง

ด้าน พล.ต.ต.อำนาจ อันอาตม์งาม ผบก.ภ.จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า

คดีนี้ตำรวจใกล้ปิดคดีแล้ว หลังจากรวบรวมพยานหลักฐานทั้งวัตถุ พยานบุคคล มีน้ำหนักเพียงพอที่จะดำเนินคดีกับ เจ๊หงส์ ในข้อหาร่วมกันมีวัตถุระเบิด อาวุธปืน และเครื่องกระสุนไว้ในครอบครอง โดยมั่นใจว่าผู้ต้องหามีส่วนร่วมกับเหตุระเบิดแน่นอน โดยคดีนี้ตำรวจพุ่งเป้าไปที่ตัวเจ๊หงส์ เจ้าของรถที่ระเบิดเป็นผู้ต้องสงสัยมาโดยตลอด

จนกระทั่งพบหลักฐานสำคัญ คือ โทรศัพท์มือถือต่อสายไฟคล้ายวงจรระเบิดที่พบอยู่ในรถเก๋งโตโยต้า คัมรี่ของเจ๊หงส์ ถึงแม้ผู้ต้องหาจะยืนกรานปฏิเสธ ทางพนักงานสอบสวนก็ต้องควบคุมตัวเพื่อสอบสวนเพิ่มเติมไปตามขั้นตอน ส่วนการประกันตัวก็เป็นสิทธิของผู้ต้องหา ซึ่งตำรวจจะพิจารณาอนุญาตให้ประกันตัวหรือไม่หลังการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้วเท่านั้น.